วันที่ 22 ธ.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news ได้รับแจ้งว่า มีชาวประมงพบก้อนอ๊วกวาฬ หรือ อำพันทะเล ลอยมาเกยชายหาดทะเลบ้านบ่อนนท์ พื้นที่หมู่ 10 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช จึงเดินทางไปตรวจสอบ พบกับ นายสาโรจน์ หรือ ฮาซัน  เกิดลาภ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114/13 หมู่ 4 ต.ท่าศาลา และ นายรอหมาน หลงจิ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 114/6 หมู่ 4 ต.ท่าศาลา ซึ่งทั้งสองมีอาชีพทำประมง บริเวณชายทะเลดังกล่าว ยืนถือก้อนอ๊วกวาฬ ทั้งขนาดใหญ่ และขนาดเล็กรวม 12 ก้อน น้ำหนักรวม 3 กิโลกรัมเศษ

นายรอหมาน หลงจิ และนายสาโรจน์ หรือ ฮาซัน เล่าว่า ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ขณะที่กำลังตระเวนจับปลาบริเวณริมชายหาดทะเลดังกล่าว ระหว่างนั้นเดินผ่านกองขยะริมชายหาดที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาบนชายหาด สังเกตเห็นวัตถุเป็นก้อนๆ สีขาวคล้ำๆ เนื้อเนียนๆ ลื่นๆ ขนาดใหญ่บ้างเล็กบ้างจำนวนหลายก้อนปะปนกับกองขยะริมชายหาด ซึ่งเป็นวัตถุแปลกประหลาดไม่เคยพบเห็นมาก่อน จึงหยิบขึ้นมาดู ตอนแรกไม่แน่ใจว่าเป็นก้อนอะไรไม่รู้จักเพราะไม่เคยพบเห็นมาก่อน จากนั้นเก็บก้อนวัตถุแปลประหลาดทั้ง 12 ก้อน มาใส่กล่องนำไปสอบถามผู้รู้ในหมู่บ้าน และหลายคนต่างยืนยันว่าเป็นก้อนอ๊วกวาฬหรือที่เรียกภาษาทางราชการว่า "อำพันทะเล” ซึ่งเป็นสิ่งพบยากมากในท้องทะเลอ่าวไทย

นายรอหมาน หลงจิ และ นายสาโรจน์ หรือ ฮาซัน เล่าอีกว่า จากนั้นพวกตนจึงค้นข้อมูลอ๊วกวาฬหรืออำพันทะเลในอินเตอร์เน็ต โดยนำมาเทียบกับก้อนวัตถุที่พบ รวมทั้งทดลองจุดไฟเผาก็จะหยดเหมือนเทียนไข พอสักพักก็จะกลับสภาพแข็งเหมือนเดิม นอกจากนั้นยังทดลองนำมาลอยน้ำปรากฏว่าทั้ง ก้อน ลอยเหนือน้ำ ซึ่งลักษณะทั้งหมดตรงกันของคุณสมบัติก้อนอ๊วกวาฬ จึงมั่นใจว่าเป็นก้อนอ๊วกวาฬอย่างแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการพบก้อนอ๊วกวาฬลอยมาเกยชายหาดทะเลจังหวัดนครศรีธรรมราช สอบถามผู้สูงอายุในหมู่บ้านก็ไม่เคยพบเห็นวัตถุดังกล่าวในทะเล ถือเป็นสิ่งแปลกประหลาดหายากมาก จึงช่วยกันเก็บก้อนอ๊วกวาฬทั้งหมดใส่กล่องแช่ช่องฟิตตู้เย็นอย่างดีเพื่อไม่ให้เสื่อมสภาพ เพราะทราบว่าคุณสมบัติของก้อนวาฬ สามารถนำไปทำเป็นหัวเชื้อน้ำหอมได้อย่างดี และเป็นที่ต้องการของตลาดในปัจจุบันและยังมีสรรพคุณบำรุงหัวใจอีกด้วย หากผู้ใดสนใจขอดูก้อนอ๊วกวาฬนี้ สามารถมาดูของจริงได้ที่ตนทั้งสองได้เลย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการพบก้อนอ๊วกวาฬที่ผ่านมา ในอดีตเคยมีผู้พบอ๊วกวาฬใน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี และที่ จ.สตูล และ จ.ภูเก็ต จนเป็นข่าวฮือฮามาแล้ว และมีการติดต่อขอซื้ออ๊วกวาฬในราคาสูงมากทีเดียว ซึ่งข่าวคืบหน้าจะเสนอต่อไป