นายกฯ นำคณะ ลงพื้นที่ จ. ชัยภูมิ ติดตามความคืบหน้าแก้ปัญหาภัยแล้ง - เยี่ยมชมการดำเนินงานในไร่อ้อยสมัยใหม่ (มีคลิป)
25 ธ.ค. 2562, 10:30
วันที่ 25 ธ.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางมาติดตามการแก้ปัญหาภัยแล้งและเยี่ยมชมการดำเนินงานในไร่อ้อยสมัยใหม่เพื่อลดปัญหาการเผาอ้อย ซึ่งจะนำไปสู่การลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 โดยในช่วงเช้าได้เดินทางมาที่บริเวณคลองเทา บ้านหนองแหน ตำบลหนองไผ่ อำเภอเมือง มีชาวบ้านตลอดจนข้าราชการมาต้อนรับกว่า 2,000 คน และเยี่ยมการขุดลอกคูคลองเพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมและภัยแล้ง ซึ่งเป็นโครงการที่จังหวัดได้บรูรณาการ การทำงานระหว่างเทศบาลเมืองชัยภูมิ อบจ. ชัยภูมิ สำนักงานชลประทาน และ อบต. ทั้ง 4 แห่ง ที่มีเส้นทางน้ำเชื่อมต่อกัน ซึ่งประกอบด้วย อบต. บุ่งคล้า ,อบต. กุดตุ้ม, อบต. หนองไผ่ และอบต. โพนทอง โดยระยะที่1 ขุดได้ความยาว 21.8 กม. ใช้งบประมาณ 10.3 ล้านบาท หลังจากนี้ จะดำเนินการขุดลอกต่อระยะ 2 กำหนดไว้ 20 กม.
จังหวัดชัยภูมิ ประสบปัญหาฝนแล้งอย่างต่อเนื่องในปี 2562 มีปริมาณน้ำฝนเพียง 774 มม. ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 1,137 มม. ส่งผลให้ประชาชนจำนวน 40 หมู่บ้าน ขาดแคลนน้ำ และอีก 500 หมู่บ้าน ที่เสี่ยงกับการขาดแคลนน้ำ คิดเป็นร้อยละ33 ของจำนวนหมู่บ้านทั้งหมด 1,620 หมู่บ้าน จังหวัดชัยภูมิ มีความพยายามหาทางแก้ปัญหานี้มาตลอด ได้ร่วมกับชาวบ้านสร้างฝายมีชีวิตจำนวน 1,546 ฝาย กระจายไปทั้ง 16 อำเภอ
จากนั้นนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางต่อไปยังไร่กุดจอก ตำบลโคกสะอาด อำเภอภูเขียว เพื่อติดตามการแปลวนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการลดปริมาณอ้อยไฟไหม้ไปสู่การปฏิบัติตามมติครม. เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 62 จังหวัด จึงได้ร่วมกับภาคเอกชนโรงน้ำตาลมิตรภูเขียวส่งเสริมใหชาวไร่อ้อยขายอ้อยสดให้กับโรงงาน นอกจากนี้ ยังให้รับซื้อใบอ้อยมาเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งมาตรการนี้ส่งผลให้โรงงาน แห่งนี้มีปริมาณอ้อยสดเข้าโรงงานมากที่สุดของประเทศ ซึ่งนำไปสู่การลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เกิดจากการเผาได้อีกทางหนึ่ง
หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้เดินทางต่อไปยังโรงเรียนบ้านภูดิน ตำบลโคกสะอาด อำเภอภูเขียว ซึ่งโรงเรียน แห่งนี้ได้เข้าร่วมพัฒนา หรือ Partnership School ภายใต้การดูแลของกระทรวงศึกษาธิการ โดยเปิดโอกาสให้เอกชนหรือกลุ่มมิตรผลเข้าไปร่วมพัฒนาโรงเรียน เพื่อวางรากฐานการศึกษาแก่ลูกหลานเกษตรกรชาวไร่อ้อยในพื้นที่รวมทั้งลูกหลานในชุมชนให้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาอย่างมีคุณภาพต่อไป