ตำรวจ สภ.กาบเชิง รวบยกแก๊งขโมยวัว-ควาย ของชาวบ้าน
25 ธ.ค. 2562, 20:02
วันนี้ ( 25 ธ.ค. 62 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า เวลา 11.00 น. ที่ สภ.กาบเชิง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาบเชิง นำโดย พ.ต.อ.จุลฑะ จันทน ผกก.สภ.กาบเชิง ทำการสอบปากคำ 4 ผู้ต้องหา ที่ขโมยวัวควายของชาวบ้านด้วยตนเอง ประกอบด้วย นายณรงค์ สร้อยจิตร อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 67 ม.6 ต.คูตัน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ นายณัฐพล พอกเพียร อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 ม.15 ต.บ้านพร้าว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู นายวิจิตร ศรีประชา อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99 ม.15 ต.บ้านพร้าว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู และ น.ส.สุพรรณี นามเกษ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 113 ม.15 ต.บ้านพร้าว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู หลังสามารถจับกุมตัว นายวิจิตร ศรีประชา อายุ 42 ปี ได้เพียงคนเดียว ขณะกำลังจะก่อเหตุขโมยวัวของชาวบ้านที่ผูกไว้กลางทุ่งนาบ้านคูตัน ต.คูตัน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เมื่อเวลาประมาณ 23.00 น.ของคืนวานนี้ (24 ธ.ค.62) แต่เจ้าของวัวได้มาพบกลุ่มผู้ต้องหาก่อน จึงได้แจ้งให้กับ นายประสบโชคทรัพย์ สาแก้ว ผญบ.คูตัน ทราบจึงนำกำลัง อปพร.หมู่บ้านและชาวบ้าน ที่ได้มีการเวรยามป้องกันเหตุดังกล่าวอยู่แล้ว โดยก่อนหน้านี้ในห้วง 1 สัปดาห์พบวัวของชาวบ้านในพื้นที่หายไปหลายตัว เมื่อกลุ่มผู้ใหญ่บ้านไปถึง จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหา 3 คน ได้ขับรถยนต์และจักรยานยนต์โดยไม่เปิดไฟหลบหนีไป เหลือเพียง นายวิจิตร์ ศรีประชา ที่ไม่หลบหนี ก่อนจะแจ้ง จนท.ตำรวจ สภ.กาบเชิง มาควบคุมตัวไปสอบปากคำ ที่ สภ.กาบเชิง
พร้อมขยายผลติดตามจับกุมผู้ต้องหาอีก 3 คน ที่เหลือได้ พร้อมรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน กระบะมีคอกราวเหล็กติดตั้ง หมายเลขทะเบียน บร 8878 สุรินทร์ ที่จะใช้บรรทุกวัวและรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง-ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กฎ 9704 กำแพงเพชร ที่ผู้ต้องหาใช้ขี่ดูลาดเลา หลังหนีไปหลบอยู่ที่บ้านเช่า ไม่ทราบเลขที่ คุ้มโคกน้ำออก บ.กันตวง ต.กาบเชิง ตั้งแต่เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา จากนั้นได้มีการขยายผลจนทราบว่า วัวควายที่โจรกรรมไป ถูกนำไปขังรวมกันไว้ที่คอกวัว 2 แห่ง ประกอบด้วย ที่คอกวัวกลางทุ่งนา ของ นายเสมียร คงผาย ไม่มีเลขที่ หมู่บ้านขี้เหล็ก ต.โพนครก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ได้วัว 2 ตัว และที่คอกวัวบ้านของ นายจลิน ศิลางัด บ้านเลขที่ 2 ม.4 ต.โพนครก อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ อีกจำนวน 5 ตัว ก่อนที่ จนท.ตำรวจจะนำผู้ต้องหาและผู้นำชุมชน รวมทั้งผู้เสียหายบางรายเดินทางไปดูวัว และนำบรรทุกกลับมาไว้ที่ สภ.กาบเชิง เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา รวม 7 ตัว
ขณะเดียวกัน ชาวบ้านผู้เสียหายที่ถูกขโมยวัว กว่า 10 ราย ได้เดินทางมาแจ้งความและดูวัวของตนเอง ครบทุกตัว และยังมีผู้เสียหายอีกประมาณ 3 ราย ที่ไม่พบวัวควายของตนเอง คาดว่าน่าจะถูกจำหน่ายไปแล้ว โดยเฉพาะควาย 1 ตัว ที่ผู้ต้องหาสารภาพว่า ได้จำหน่ายไปแล้วในราคา 1 หมื่น 8 พันกว่าบาท
นอกจากนี้ จนท.ตำรวจยังได้ นำตัวเจ้าของคอกวัวทั้ง 2 แห่ง มาสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ โดยในเบื้องต้นเจ้าของคอกวัวยังคงให้การปฏิเสธ อ้างว่าญาตินำมาฝากขังและเลี้ยงไว้ ซึ่งเจ้าของคอกวัวก็เป็นญาติของหนึ่งในผู้ต้องหาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม จนท.ตำรวจ อยู่ระหว่างสอบปากคำเพิ่มเติม หากมีส่วนเกี่ยวข้องและพยานหลักฐานชัดเจน ก็จะดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
สำหรับผู้เสียหาย ประกอบด้วย นางพรสินี ขาวงาม อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 ม.6 บ.ราวนคร ต.คูตัน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ ถูกขโมยวัวไป 1 ตัว เมื่อคืนวันที่ 13 ธ.ค.62 (ได้คืนแล้ว) นางตุ มุมทอง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44/2 ม.6 บ.ราวนคร ต.คูตัน อ.กาบเชิง ถูกขโมยวัวไป 1 ตัว เมื่อคืนวันที่ 17 .ค.62 (ได้คืนแล้ว) นางคำเพียร พระใหญ่ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 ม.6 บ.ราวนคร ต.คูตัน อ.กาบเชิง ถูกขโมยวัวแม่ลูก 2 ตัว (ได้คืนแล้ว) นางทองกาน ภาสดา อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 274 ม.2 บ.บักจรัง ต.กาบเชิง อ.กาบเชิง ถูกขโมยวัวไป 1 ตัว วันเวลาไล่เลี่ยกัน (ได้คืนแล้ว) นายสุพิศ กองทรัพย์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201/1 ต.ด่าน อ.กาบเชิง หายไป 1 ตัว เมื่อวานนี้ (24 ธ.ค.62) และได้วัวคืนแล้ว นายบุญจันทร์ ศรีแปลง อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 ม.8 บ.น้อยร่มเย็น ต.กาบเชิง หายไป 1 ตัว เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.62 (ได้คืนแล้ว) นางสาลี วงศรี อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 ม.6 บ.จารย์ ต.โคกตะเคียน อ.กาบเชิง วัวหายไป 2 ตัว เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.62 ที่ผ่านมา ยังไม่เจอวัว และยังมีผู้เสียหายอีกประมาณ 2-3 ราย ที่ยังไม่พบวัวของตนเอง บางรายหายไปตั้งแต่ต้นปีไล่เลี่ยกันมาจนถึงปัจจุบัน จึงมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน
นางพรสินี ขาวงาม อายุ 52 ปี ผู้เสียหาย อยู่บ้านเลขที่ 113 ม.6 บ.ราวนคร ต.คูตัน อ.กาบเชิง กล่าวว่า วัวของตนผูกไว้ที่กลางทุ่งนา หายไป 1 ตัว เมื่อวันที่ 13 ธ.ค.ที่ผ่านมา ตนตามหาอยู่หลายวัน คิดว่าเชือกขาด แล้วไปติดอยู่ตามป่าต่างๆ บ้าง หยุดหามาได้ 2 วัน ไม่คิดว่าจะได้คืน สงสารวัวกำลังท้องอยู่ ใครเอาไปก็ชั่ง กลัวแต่ว่าจะไปพันเชือกตายอยู่ในป่า พอทราบข่าวว่าเขาจับคนขโมยวัวได้ ก็มาดู ก็พบว่าผู้ต้องหาเป็นคนบ้านเดียวกันบ้านใกล้กัน รุ่นลูกหลาน ไม่คิดว่าจะทำกันแบบนี้ได้ ผูกวัวมาตั้งนานก็ไม่เคยหายสักที นางพรสินี กล่าว
นายประสบโชคทรัพย์ สาแก้ว ผญบ.คูตัน อ.กาบเชิง กล่าวว่า ตนและ อปพร.หมู่บ้าน ร่วมกับชาวบ้าน ได้มีการจัดชุดเวรยาม หลังมีข่าวโจรขโมยวัวควายบ่อยในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อคืนเวลา 23.00 น. เจ้าของวัวที่ผูกไว้กลางทุ่งนา เห็นคนไปจอดรถใกล้ที่ผูกวัวผิดสังเกต จึงแจ้งตน จากนั้น จึงพากันไปดู เห็นคนร้ายพากันหมอบหลบ ก่อนจะพากันวิ่งหนี พร้อมขับรถจักรยานยนต์และรถยนต์กระบะหนีไป เหลือผู้ต้องหาคนเดียว ตอนแรกเขาอ้างว่าไม่ได้ทำอะไรผิด จึงแจ้งตำรวจมาจับและนำไปสอบปากคำขยายผลจนตามจับผู้ต้องหาได้ครบ พร้อมรถที่ใช้ก่อเหตุได้ดังกล่าว
พ.ต.อ.จุลฑะ จันทน ผกก.สภ.กาบเชิง เปิดเผยว่า นายวิจิตร์ ศรีประชา 1 ในผู้ต้องหา ที่ไม่ได้หลบหนี รับสารภาพว่า ตนเองกับพวก ได้ร่วมกันลักทรัพย์โคกระบือ ของชาวบ้านภายในเขตพื้นที่จริง พฤติกรรม ตอนกลางวันทำทีออกไปตัดไม้ยูคา ตามพื้นที่ด้วยการตระเวนดูตามที่ต่างๆ ในช่วงค่ำก็จะออกลักทรัพย์ และนำไปฝากไว้ที่คอกวัวของญาติที่เขต อ.ท่าตูม ตำรวจจึงตามไปจับผู้ต้องหาเพิ่มได้ที่บ้านเช่า และผู้ต้องหาที่อยู่ที่บ้านก็รับสารภาพว่าได้ร่วมกันลักทรัพย์วัวกระบือของชาวบ้านจริง ก่อนจะพาคนร้ายไปตรวจยึดจากคอกทั้ง 2 แห่ง ในพื้นที่ อ.ท่าตูม มาได้ 7 ตัว และชาวบ้านมายืนยันรับวัวไปแล้ว ส่วนกระบือหายไป 1 ตัว ผู้ต้องหาเอาไปขายแล้ว ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณราษฎร ที่ช่วยกันตรวจตรา ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ที่ช่วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสามารถจับกุมได้ เป็นที่น่าสังเกตว่า วัวควายที่หายส่วนหนึ่งเกิดจากราษฎรด้วย เนื่องจากในพื้นที่ไม่เคยเกิดเหตุมานาน ก็เลยชะล่าใจ เลยผูกวัวควายทิ้งไว้ตามท้องไร่ท้องนาบ้าง คนร้ายเลยอาศัยจังหวะเผลอเรอแบบนี้ ในการขโมยได้ ขอให้ประชาชนช่วยกัน ถ้าผูกวัวควายไว้ก็ต้องมีคนเฝ้า หรือมีไฟส่องสว่าง หรือนำมาผูกไว้ที่บ้าน ครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่สามารถจับคนร้ายและนำวัวกลับคืนมาได้
ส่วนผู้ต้องหา 1 คน เป็นคน อ.กาบเชิง และได้แฟนคน จ.หนองบัวลำภู และพากันกลับมาทำมาหากินที่สุรินทร์ ซึ่งคนร้ายค่อนข้างที่จะย่ามใจ ก่อเหตุในพื้นที่บ่อยครั้ง แนวทางการสืบสวนของตำรวจ พอจะทราบว่าลักษณะที่ลักทรัพย์บ่อยจะต้องเป็นคนในพื้นที่ ส่วนเจ้าของคอก เป็นญาติของเมียผู้ต้องหา ซึ่งเป็นผู้ต้องหาด้วยกัน และอ้างว่าวัวที่ได้ เป็นวัวของพ่อตา หรือพ่อสามีให้มา ซึ่งเราจะต้องไปพิสูจน์ทราบต่อไปว่าเจตนาขนาดไหน ว่าถึงขนาดรับของโจรหรือไม่ เขารู้ข้อเท็จจริงหรือไม่ว่า วัวที่มานั้น จะเป็นวัวที่ลักขโมยมา ก็ต้องทำการสืบสวนก่อน ในขณะนี้คือจับในข้อหาลักทรัพย์ก่อน ส่วนรับของโจรเราจะได้สืบสวน ถ้าพยานหลักฐานถึง ก็จะดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ส่วนผู้ต้องหาเริ่มก่อเหตุมาแล้วประมาณ 2-3 อาทิตย์ ผกก.สภ.กาบเชิง กล่าว