เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



หนุ่มเจอตร.ตรวจพบฉี่ม่วง แต่พอไปตรวจ รพ.กลับไม่เจอ??


20 มิ.ย. 2562, 17:31



หนุ่มเจอตร.ตรวจพบฉี่ม่วง แต่พอไปตรวจ รพ.กลับไม่เจอ??




จากกรณีหนุ่มชาวจังหวัดบึงกาฬ ชื่อ Jetsadar Singlee โพสต์ในเฟซบุ๊กถูกตำรวจตั้งจุดตรวจบริเวณ ถนนมุกดาหาร-ดอนตาล หน้าตู้ยามนาคำน้อย ต.บ้านแก้ง อ.ดอนตาล จ.มุกดาหาร ขอตรวจปัสสาวะแล้วพบฉี่เป็นสีม่วงจางๆ แต่มีผลบวก จึงขอตรวจซ้ำเนื่องจากหนุ่มผู้เสียหายยืนยันว่าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดแม้บุหรี่ก็ยังไม่เคยสูบ ผลตรวจปัสสาวะครั้งที่ 2 ก็ยังคงเป็นสีม่วงจางๆ มีผลบวกเหมือนเดิม ตำรวจผู้ที่ทำการตรวจปัสสาวะบอกว่าจะส่งตัวไปตรวจปัสสาวะที่ รพ.ดอนตาล อย่างละเอียดอีกที โดยนำเอกสารมาให้เซ็นรับทราบ เวลาผ่านไปกว่า 2 ชั่วโมงก็ไม่พาไป รพ.สักทีและในข่าวก็บอกว่ามีตำรวจเรียกรับเงิน 2 หมื่นบาท แต่ไม่ยอมจ่ายสุดท้ายตำรวจก็ปล่อยออกจากป้อมยามบ้านนาคำน้อยไป ด้วยความสงสัยจึงไปตรวจปัสสาวะเองที่ รพ.ดอนตาล ผลการตรวจไม่มีปัสสาวะเป็นบวกหรือสีม่วง จึงได้โพสต์เตือนประชาชนลงในเฟสว่าหากเราไม่ผิดก็ต้องยืนยันความถูกต้อง ตามสื่อต่างๆ ที่นำเสนอไปแล้ว

 

 



ล่าสุดวันที่ 20 มิ.ย.ผู้สื่อข่าว ONB news ได้ไปสอบถามเรื่องราวข้อเท็จจริงอีกครั้งจากนายพิสิทธิ์ศักดิ์ สิงห์ลี อายุ 31 ปีเจ้าของเฟสบุ๊คชื่อ Jetsadar Singlee ซึ่งเปิดร้านขายคอมพิวเตอร์และอะไหล่มือสองในตลาด 777 เทศบาลเมืองบึงกาฬ โดยนายพิสิทธิ์ศักดิ์เปิดเผยว่า ประเด็นคือสงสัยการทำงานของตำรวจป้อมยามนาคำน้อยว่าทำไมต้องกักตัวไว้นานเกือบ 2 ชั่วโมง ทั้งที่ตรวจปัสสาวะไปแล้ว 2 ครั้งและยังจะพาไปตรวจที่ รพ.ดอนตาลอย่างละเอียดให้มั่นใจว่ามีหรือไม่มีสารเสพติดในร่างกาย ถึงแม้ตนจะยืนยันแล้วว่าไม่เคยเสพยาเสพติดแม้แต่บุหรี่ก็ไม่สูบ ยาแก้ไข้แก้ไอแก้อักเสบก็ไม่ได้กิน ทำไม่จะเป็นสีม่วง เมื่อตำรวจปล่อยตัวจึงตัดสินใจขับรถไปตรวจปัสสาวะเองที่ รพ.ดอนตาล ผลก็คือปกติไม่เป็นบวกหรือสีม่วง จึงสงสัยว่าตำรวจจะกลั่นแกล้งหรือไม่

 

นายพิสิทธิ์ศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า อีกประเด็นข่าวที่นำเสนอออกไปตามสื่อนั้นบอกว่าตนถูกตำรวจเรียกรับเงินเพื่อปล่อยตัวเป็นเงิน 20,000 บาท ขอปฏิเสธว่าข่าวนี้ไม่เป็นความจริงนะครับ  ผมเพียงบอกว่า "ตำรวจแนะนำว่าหากตรวจพบฉี่สีม่วงหรือเป็นบวก จะต้องถูกดำเนินคดีและประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนเป็นเงิน 20,000 บาท” แต่สื่อที่นำข่าวไปเสนอผิดข้อเท็จจริงจากที่ให้ข่าว ขอยืนยันว่าข่าวตำรวจเรียบรับเงิน 20,000 บาท ไม่เป็นความจริง

 


ส่วนการที่จะเอาผิดกับตำรวจที่กลั่นแกล้งตัวเองให้เสียเวลาและขาดโอกาสในทางการค้า เนื่องจากขับรถจากบึงกาฬมาอำเภอดอนตาลไป-กลับก็เกือบ 900 กิโลเมตร เพื่อมาประมูลคอมพิวเตอร์เก่าจากร้านเกมส์ที่ปิดกิจการ แต่เมื่อมาไม่ทันเวลาคู่แข่งเขาก็ประมูลได้สินค้าไป และตนไม่ติดใจจะเอาความพร้อมที่จะให้อภัย ส่วนทางหน่วยงานตำรวจจะเอาผิดกันเองหรือไม่นั้นก็แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาเขาจะดำเนินการ และในวันพรุ่งนี้ที่ 21 มิ.ย.นัดพบกันกับตำรวจคู่กรณีที่ อ.พังโคน จ.สกลนคร โดยมีญาติผู้ใหญ่เป็นฝ่ายช่วยไกล่เกลี่ย ซึ่งก็น่าจะจบลงด้วยดี.

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.