"หนุ่มวัย 21" เปิดใจ โดนหลอกหลับนอนสาวป่วยออทิสติก แม่เด็กขู่กรรโชกทรัพย์
27 ธ.ค. 2562, 16:13
วันนี้ (27 ธ.ค.62) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า จากกรณีแม่แท้ๆ พาลูกสาววัย 18 ปี สวยหน้าตาดีแต่ป่วยเป็นพิการทางสมองออทิสติก ระดับ 4 นำรูปขึ้นโปรไฟล์ในแชทหาคู่ ก่อนจะร่วมแก๊งพาลูกสาวไปส่งให้หลับนอนบำเรอกามกับชายหนุ่ม หลังมีคนตกเป็นเหยื่อก็จะแต่งชุดข้าราชการตุลาการศาลไปกรรโชคทรัพย์ มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อหลายราย โดย พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธ์ ผกก.สส.ภ.จ.อุดรธานี พ.ต.ท.อรรคพล ยี่เกาะ สว.สส. ภ.จ.อุดรธานี และตร.ชุดสืบสวน ก็ได้ติดตามจับกุม นางกัญญ์ณณัฎฐ์ เพชรฤาชารัตน์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ 6 ต.นาดอกคำ อ.นาด้วง จ.เลย ตามหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ 296/2562 ลงวันที่ 29 พฤศจิกายน 2562 โดยกล่าวหา “กรรโชกทรัพย์ ไม่มีสิทธิ์สวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายจองเจ้าพนักงาน กระทำการเช่นนั้นเพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ์” พร้อมชุดเครื่องแบบข้าราชการตุลาการศาล โดยจับกุมได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร
โดย ตร.เผยพฤติกรรมสุดแสบของ นางกัญญ์ณณัฎฐ์ เพชรฤาชารัตน์ หรือ “เป๊กกี้” ว่าจะร่วมกับพวกรวม 6 คน นำรูป น.ส.บี แม้จะป่วยพิการทางสมอง แต่ถือว่าเป็นหญิงสาวรูปร่างหน้าตาดีไปสมัครในแอปพิเคชัน BADOO แชทกับเหยื่อที่เป็นผู้ชาย เมื่อเหยื่อตกหลุมการพูดคุยก็จะนำลูกสาวไปให้หลับนอนกับผู้ชาย เสร็จแล้วก็จะเรียกตบทรัพย์ โดยเดินทางไปถึงบ้านเหยื่อ โดยแก๊งนี้จะแต่งชุดข้าราชการ อ้างตัวเป็นข้าราชการครู มีสามีเป็น ตร. หรือใส่ชุดข้าราชการตุลาการศาลเพื่อไปข่มขู่เหยื่อและเรียกรับเงิน ครั้งละ 50,000-500,000 บาท มูลค่าความเสียหายประมาณ 1 ล้านบาทเศษ เงินที่ได้แม่ของน.ส.บี ก็จะแบ่งกับคนในแก๊งและนำไปเล่นการพนันในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน โดยมีผู้ชายตกเป็นเหยื่อแล้วหลายราย เหยื่อรายล่าสุดคือ นายธนากร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ชาวอ.หนองหาน จ.อุดรธานี และทำงานเป็นหนุ่มพนักงานห้างดังใน อ.หนองหาน โดย นายธนากร ขอนัดพบ น.ส.บี เมื่อปลายเดือน พ.ค.62 ที่ผ่านมา และแม่ของ น.ส.บี กับคนในแก๊งจะนำ น.ส.บี นั่งรถปิกอัพไปส่งที่หน้า รพ.หนองหาน เพื่อให้ไปร่วมหลับนอนกับ นายธนากร พอตื่นเช้าแม่ของ น.ส.บี และคนในแก๊งก็เข้าข่มขู่กรรโชกทรัพย์เงิน 2.5 แสนบาท และจัดพิธีหมั้น เมื่องานสำเร็จก็จะนำเงินมาแบ่งกัน และกระทำเช่นนี้กับผู้ชายอีก 6 ราย ในพื้นที่ อุดรธานี ขอนแก่น สกลนคร และหนองบัวลำภู ตำรวจจึงได้รวบรวมพยาน หลักฐาน ขออนุมัติหมายจับ นางกัญญณณัฎฐ์ และ นางยิ่งลักษณ์ อยู่อินทร์ ได้ผู้ต้องหาแล้ว 2 ราย ส่วนที่เหลืออีก 4 คน กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับมาดำเนินคดีโดยเร็วเพราะถือเป็นภัยสังคมอีกรูปแบบหนึ่ง
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับ นายธนากร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี ที่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.พังงู อ.หนองหาน โดยที่บ้านวันนี้ทั้งยาย ป้าและพ่อของ นายธนากร ต่างพากันจับกลุ่มพูดคุยเรื่องที่เกิดขึ้นหลังรู้ว่า ตร. จับกุมขบวนการนี้ได้ ต่างพากันรู้สึกเจ็บใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่แม่แท้ๆ พาลูกสาวทำแบบนี้ พร้อมกับนำรูปถ่ายในงานหมั้นของหลานชายกับลูกสาวของ น.ส.กัญญณัฏฐ์ ที่บ้านใน อ.น้ำโสมให้ดู แต่ก็ดีใจที่ ตร.จับกุมได้และกระชากหน้ากากของแม่แท้ๆ ที่ทำกับลูกได้ลงคอ
จากนั้น นายธนากร หรือ “แซ๊ค” เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เนื่องจากตนได้ใช้โปรแกรมแชทหาคู่ในอินเตอร์เน็ตและรู้จักกับ น.ส.บี โดยการพูดคุยก็เหมือนน้องเขาคุยปกติแต่มารู้ทีหลังว่าแม่เขาเป็นคนสร้างเรื่องและพูดคุยเองตอนแรกยังไม่รู้ว่าน้องเขาป่วยพิการทางสมอง หลังจากไปร่วมหลับนอนแล้ว เช้าวันต่อมา ก็มีผู้หญิงใส่ชุดข้าราชการประมาณ 3-4 คน มาที่บ้านของตนเองเลย ซึ่งหนึ่งในนั้นบอกว่าแม่ของ น.ส.บี ทั้งป้าและยายก็ตกใจ เพราะเขามาแรงมากบอกว่า ตนเองไปร่วมหลับนอนกับลูกสาวเขาอายุเพียง 16 ปี ต้องรับผิดชอบไม่งั้นสามีที่เป็น ตร. จะเอาเรื่อง ทางญาติ ๆ ทั้งยาย ป้า และพ่อ ก็เลยตัดสินใจขอพูดดี ๆ และรับปากจะไปหมั้นและทำพิธีแต่งงานให้หลังจากน้องเขาจบการศึกษาแล้ว
โดยแม่เขาเรียกเงิน 300,000 บาท ทางยาย และญาติๆ ของตนเองได้ต่อรองให้เหลือ 250,000 บาท วันที่ 4 มิ.ย. ได้ไปวางเงินมัดจำ 50,000 บาท และวันที่ 8 มิ.ย. ก็จัดพิธีหมั้นและจ่ายเงินที่เหลือ 200,000 บาท มีพิธีผูกข้อต่อแขน มีญาติผู้ใหญ่ของตนไปหลายคนแต่ก็ผิดสังเกตที่บ้านเขามีญาติไม่ถึง 10 คน มาร่วมพิธีด้วย พอพิธีหมั้นเสร็จตนเองก็อยู่ที่บ้านเขา 2 วัน เริ่มผิดสังเกตหลายเรื่อง จนมีคนข้างบ้านมาสะกิดบอกว่า ตนเองโดนหลอกนะ เพราะมีผู้ชายเจอแบบนี้หลายราย จึงได้ออกอุบายบอกกับทางแม่ยายว่าจะกลับไปเอาใบขับขี่ที่บ้าน อ.หนองหาน จากนั้นก็ออกมาเลยและมารู้ความจริงจึงไปแจ้งความ จน ตร. ตามจับได้และมารู้ความจริงภายหลัง
นายธนากร เปิดเผยอีกว่า ตอนนี้รู้สึกเจ็บใจ เสียใจมาก ไม่เคยคิดว่างานหมั้นครั้งแรกของตนเองต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ เพราะชีวิตตนเองไม่เคยผ่านงานหมั้นงานแต่งมาเลย ยอมรับว่าพร้อมรับผิดชอบน้องเขา แต่มาเรื่องแบบนี้คงไม่เอาอีกแล้ว รู้สึกเสียใจไม่คิดว่าจะโดนหลอก เสียทั้งเงิน เสียทั้งงานเพราะต้องลาออกจากงานด้วย ส่วนทางยาย ป้า และพ่อ ก็เสียใจเพราะเงิน 250,000 บาท ต้องไปหยิบยืมจากญาติพี่น้องมาทั้งหมด ตอนนี้อยากได้เงินคืนและอยากให้ ตร. ตามคนในขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้หมด ไม่อยากให้ไปสร้างเรื่องแบบนี้ให้คนอื่นเป็นเหยื่ออีก
นางแปน ทับซ้าย อายุ 61 ปี ป้าของ นายธนากร บอกว่า ผู้หญิงที่แต่งชุดข้าราชการกับพวกเขามาถึงบ้านเลย บอกว่า หลานชายฉันไปนอนกับลูกสาวเขาที่อายุไม่ถึง 18 ปี มาแบบโวยวายลั่นหมู่บ้าน ตนเองก็บอกว่าใจเย็นๆ ค่อยๆ พูดกันดีๆ เขาก็บอกว่าแบบนี้ไม่ได้ ฉันเป็น ผอ.โรงเรียนที่สว่างแดนดิน สามีเป็น ตร. หากสามีรู้เอาตายแน่ จะเรียกค่าเสียหาย 300,000 บาท เราก็บอกว่า หลานจะทำให้ถูกพิธีโดยจะไปทำพิธีหมั้นตามประเพณี เสียเงินไป 250,000 บาท เสียใจมาก หลานก็ต้องออกจากงานเพราะเขาบอกว่าให้ไปอยู่บ้านให้เงินเดือน 20,000 บาท และให้ดูสวนยางเกือบ 400 ไร่ มารู้ทีหลังว่าโดนหลอก อยากให้ ตร. ลากคอพวกนี้มาติดคุกให้หมด ยายแปน ป้า ของ นายธนากร กล่าว