ตำรวจ สภ.ท่าแซะ บุกทลายแหล่งจำหน่ายกัญชารายใหญ่
20 มิ.ย. 2562, 19:46
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 20 มิถุนายน 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พ.ต.อ. ชนินทร์ ณรงค์น้อย ผกก.สภ.ท่าแซะ ได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ปรีดา คอนกำลัง รอง ผกก. สส. พร้อมด้วย พ.ต.ต.สกฤชญ สุขนิตย์ สว.สส. ร.ต.อ.ไชยยุทธ์ จันทร์เพ็ง รอง สวป, ร.ต.ท.นพพร ประธาน รอง สว.สส. นำกำลังเข้าตรวจสอบแปลงปลูกกัญชากลางสวนปาล์ม ในซอยร่วมมิตร หลังจากผู้เสพยาเสพติดรายหนึ่งที่ถูกจับกุมได้ให้การซัดทอดว่าเป็นแหล่งจำหน่ายกัญชารายใหญ่
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงพบว่าสวนปาล์มดังกล่าว อยู่ห่างจากถนนสายเพชรเกษม เข้าไปประมาณ 500 เมตร บริเวณด้านหน้าของสวนติดถนนคอนกรีตในซอยร่วมมิตร มีประตูแบบไม้ยกกันทางเข้าเอาไว้ และพบว่าสถานที่ดังกล่าวอยู่ ม.2 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งอยู่ในเขตรับผิดชอบของ สภ.สลุย จึงได้ประสาน พ.ต.ท.สุนันท์ สมบูรณ์ รอง ผกก.ป.สภ.สลุย นำกำลังเข้าร่วมตรวจสอบ
โดยลึกจากถนนคอนกรีตเข้าไปในสวนปาล์ม ประมาณ 200 เมตร พบบ้านพักอาศัยชั้นเดียวไม่มีเลขที่บ้าน ลักษณะแบ่งเป็นห้องพักให้แรงงานอยู่ จำนวน 5 ห้อง ด้านหน้าเป็นที่โล่ง มีกองไม้กองอยู่จำนวนหนึ่ง ในขณะที่ศาลาขนาดใหญ่ตรงข้ามบ้าน พบมีการเอาผ้าสแลนมาปิดกั้นศาลาไว้ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพบว่าด้านหลังของสแลน มีต้นกล้ากัญชา สูงประมาณ 10 ซม. บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกสีดำ วางเรียงเป็นกองยาว จำนวน 3 กองๆ ละ 700 ต้น รวมทั้งหมด 2,100 กล้า
ลึกเข้าไปในสวนปาล์ม ประมาณ 50 เมตร เจ้าหน้าที่ยังพบต้นกัญชา ขนาดใหญ่ สูงกว่า 150 ซม. กว่า 1,000 ต้น ปลูกอยู่ภายในกำแพงสแลนสีเขียว สูง 2 เมตร กั้นรอบกว่า 4 ไร่ และมีการต่อท่อให้น้ำต้นกัญชาโดยรอบแปลง และนอกจากนี้ยังพบกล้ากัญชา อีกกว่า 1,000 ถุง อยู่ในแปลงเพาะชำ รวมทั้งหมดทั้งต้นกัญชาและต้นกล้า กว่า 5,000 ต้น เจ้าหน้าที่จึงได้ยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนประสานทาง นางจงดี คงกะเรียน ผู้ใหญ่บ้าน ม.2 มาสอบถามทราบว่า สวนดังกล่าวเป็นของ นายภูษิต กฤตยพรพงศ์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 2 ต.ทรัพย์อนันต์ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จึงได้ติดต่อมาพบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง นายภูษิต ได้เดินทางมาพบเจ้าหน้าที่พร้อมหอบเอกสารหลักฐานต่างๆ ประกอบด้วยหนังสือแสดงการมีไว้ครอบครองยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชา ที่ นายภูษิต ได้รับจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชุมพร เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 62 ระบุในนามกลุ่มวิสาหกิจชุมชนชุมชนบุปผาราชันย์ ชุมพร การครอบครองเมล็ดพันธุ์กัญชา จำนวน 2,000 เม็ด เอกสารบันทึกความเข้าใจความร่วมมือดำเนินงานวิจัยและพัฒนาระหว่างวิสาหกิจชุมชนชุมชนบุปผาราชันย์ ชุมพร กับวิทยาลัยการแพทย์แผนโบราณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
พร้อมกันนี้ทางนายภูษิต ได้เปิดเผยว่า ตนเองได้ปลูกกัญชามานานแล้ว และหลังจากที่ทางรัฐบาลให้ไปขึ้นทะเบียน ตนเองก็ได้ไปขึ้นทะเบียนไว้เพื่อต้องการทำให้ถูกต้อง เพราะวัตถุประสงค์ของตนเองก็ต้องการปลูกกัญชาเพื่อนำมาสกัดน้ำมันกัญชาแจกให้กับผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งที่ยากไร้ และในขณะเดียวกันก็จะแบ่งขายให้กับผู้ที่มีกำลังซื้อและต้องการนำไปใช้รักษา โดยจะขายในราคาขวดละ 500 บาท และ1,000 บาท ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับขนาดของซีซีที่บรรจุในขวด
นายภูษิต ยังกล่าวยอมรับว่า นอกจากนี้ตนเองก็ยังเพาะกล้าต้นกัญชา ด้วยวิธีตัดกิ่งปักชำ เพราะเห็นว่าต้นแข็งแรงกว่า ได้ผลกว่าเอาเมล็ดมาปลูก ซึ่งต้นกล้า ที่เพาะชำเอาไว้ เพียง 1 เดือน ก็จะขายได้ในราคาต้นละ 2-300 บาท ซึ่งก็มีคนมาขอซื้ออยู่ตลอด จึงต้องเร่งเพาะชำขาย ซึ่งตนเองไม่ได้หวังผลกำไรอะไร เพียงต้องการให้ทุกคนได้นำกัญชาที่มีไปสกัดเอาน้ำมันมาใช้เพื่อรักษาโรค และการที่ตนเองกระทำอยู่นี้ไม่ถูกต้อง ไม่ว่ากฎหมายซึ่งยังไม่ผ่าน และจำหน่าย จ่ายแจกอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งตนก็ยอมรับ
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับ นายภูษิต ฐานมียาเสพติดให้โทษ ประเภท 5 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ ก่อนจะประสาน พันตรี สังคม รองมาลี ตำแหน่งผบ.ชป.1มว.รส.บก.ควบคุม มทบ.44 และนายอำนาจ เตชวรรณโต ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงอำเภอท่าแซะนำกำลังเข้าถอนต้นกัญชา เพื่อนำไปรวบรวมเก็บไว้เป็นหลักฐานในคดีต่อไป