"ชาวโนนป่ายาง" กว่า 1,000 คนบุกศาลากลางขอที่ดินทำกิน หลังเดือดร้อนหนัก
21 มิ.ย. 2562, 08:07
เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้าศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ได้มีชาวบ้านจาก 8 หมู่บ้าน 2 ตำบล ประกอบด้วย บ้านโนนแย้ บ้านโนนหล่อ บ้านโนนแดง บ้านเพียนาม หมู่ 3 บ้านเพียนาม หมู่ 9 บ้านโนนสำนัก ชุมชนโนนสำราญ ชุมชนกุดหวาย ในเขต ต.หญ้าปล้องและ ต.หนองไผ่ ของ อ.เมืองศรีสะเกษ จำนวนประมาณ 1,000 คน นำโดย นางทองคำ ไชยชาญ อายุ 76 ปี ชาวบ้านโนนสำราญ และคณะได้พากันเดินเท้าจากบริเวณหน้าศาลหลักเมืองศรีสะเกษ เดินถือป้ายมีข้อความเรียกร้องที่ดินทำกินโนนป่ายาง ซึ่งได้อาศัยเป็นที่ดินทำกินมาตั้งแต่ปี 2450 แต่ว่าพอถึง ปี 2468 ทางราชการได้ขีดเส้นให้โนนป่ายางเป็นที่ทำเลเลี้ยงสัตว์สาธารณะประโยชน์โนนป่ายาง จำนวน 4,125 ไร่ ทั้งที่มีชาวบ้านอาศัยทำกินและเป็นที่อยู่อาศัยมานานหลายชั่วอายุคนแล้ว จนถึงขณะนี้มีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณ 20,000 คน โดยมีขบวนกลองยาวแห่นำหน้ามุ่งหน้ามาปักหลักชุมนุมที่บริเวณทางขึ้นศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ มีแกนนำชาวบ้านพากันผลัดเปลี่ยนกันปราศรัยชี้แจงให้ทราบถึงความเป็นมาของการต่อสู้เรียกร้องในครั้งนี้ โดยมีเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.เมืองศรีสะเกษ จำนวนหนึ่งมาคอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย
จากนั้น นางทองคำ และตัวแทนชาวบ้านโนนป่ายาง จำนวน 4 คน ได้ขึ้นไปประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ จ.ศรีสะเกษ ที่ห้องประชุมสระกำแพงใหญ่ ชั้น 4 ศาลากลาง จ.ศรีสะเกษ โดยมี นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.ศรีสะเกษ เป็นประธานในการประชุม มีหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สนง.พัฒนาที่ดิน เขต 4 อุบลราชธานี ธนารักษ์ จ.ศรีสะเกษ อัยการ จ.ศรีสะเกษ ปลัดจังหวัดศรีสะเกษ นายอำเภอเมืองศรีสะเกษ ประชาสัมพันธ์ จ.ศรีสะเกษ มาเข้าร่วมประชุม เพื่อร่วมกันพิจารณาแก้ไขปัญหาที่สาธารณะประโยชน์โนนป่ายาง ที่ชาวบ้านได้พากันเรียกร้องที่ดินทำกินมานานหลายสิบปีแล้ว โดยใช้เวลาในการประชุมประมาณ 4 ชม.เศษ การประชุมจึงเสร็จสิ้น ซึ่ง ผวจ.ศรีสะเกษ ได้แจ้งให้แกนนำชาวบ้านมาแจ้งผลการประชุมให้ชาวบ้านที่มาชุมุนุมกันอยู่เพื่อรอฟังผลกันอยู่ได้รับทราบ
นางทองคำ ไชยชาญ อายุ 76 ปี แกนนำชาวบ้านโนนป่ายาง กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ผวจ.ศรีสะเกษ ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า ได้รับหนังสือจากกรมที่ดินเมื่อวันที่ 14 มิ.ย. 62 แจ้งว่า พื้นที่ป่าสาธารณะประโยชน์โนนป่ายาง ไม่มีขอบเขตจริงตามที่ได้ขึ้นทะเบียนเอาไว้ อีกทั้งพื้นที่ 1,500 ไร่ที่กำหนดขึ้นมาใหม่ก็ไม่มีพื้นที่ขอบเขตเช่นเดียวกัน ซึ่งขั้นตอนต่อไปทางราชการจะนำเอาภาพถ่ายทางอากาศมาตรวจสอบเพื่อสรุปรายงานกรมที่ดินต่อไป แต่ว่าจากการประชุมครั้งนี้ ยังเหลืออีกเปลาะหนึ่ง เพราะว่า ที่ดินโนนป่ายางทางราชการยังอยากให้มีเหลืออยู่ส่วนหนึ่งไม่ใช่ว่าจะล้างป่าช้าไปเลย โดยจะเอาภาพถ่ายทางอากาศมาจับว่า พื้นที่จริงจะเหลือเท่าไรหรือว่าไม่มีเหลือเลย เพราะทางราชการต้องการทราบว่า ที่ใดเป็นที่สาธารณะประโยชน์จริง ๆ
นางทองคำ กล่าวต่อไปว่า ซึ่งเรื่องนี้ตนและคณะตัวแทนชาวบ้านได้คัดค้านไปว่า หากจะเอาภาพถ่ายทางอากาศมาจับพิสูจน์ จะต้องพิสูจน์เฉพาะขอบเขตเท่านั้น เพราะว่าชาวบ้านโนนป่ายางทั้งหมดได้ต่อสู้เรื่องขอบเขตที่ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่การพิสูจน์สิทธิ์ของชาวบ้าน เนื่องจากขอบเขตตามที่ทางราชการมีการขึ้นทะเบียนไว้นั้นไม่ถูกต้องตามข้อเท็จจริง เป็นการขึ้นทะเบียนไว้จากการคาดคะเนพื้นที่ ไม่ได้เป็นการขึ้นทะเบียนจากพื้นที่จริง พวกตนจะพากันต่อสู้เรียกร้องที่ดินทำกินในเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งตนและชาวบ้านทุกคนต้องขอกราบขอบพระคุณ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผวจ.ศรีสะเกษ ที่ได้ให้การช่วยเหลือชาวบ้านกว่า 20,000 คน ในเขตโนนป่ายาง 8 หมู่บ้าน 2 ตำบล อย่างจริงจังและต่อเนื่องมาโดยตลอด ชาวบ้านโนนป่ายางทุกคนจะจดจำพระคุณของ นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ตลอดไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังจากที่ได้รับฟังการแจ้งผลการประชุมให้ชาวบ้านทุกคนที่มาชุมนุมกันอยู่ได้รับทราบแล้ว ทำให้ชาวบ้านทุกคนพอใจและพากันเดินทางกลับ เพื่อเตรียมต่อสู้ในขั้นตอนต่อไป