ปิดตำนาน! "หมอช้างรุ่นสุดท้าย วัย 98 ปี" บรรดาลูกหลาน นำช้าง12เชือกส่งวิญญาณ
21 มิ.ย. 2562, 09:04
สุรินทร์-วันนี้ (20 มิ.ย.62) เวลา 16.00 น.ที่วัดแจ้งสว่าง บ.ตากลาง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ผู้สื่อข่าว onb news รายงานว่า นายเกษมศักดิ์ แสนโภชน์ อดีต ผวจ.สุรินทร์ เป็นประธานวางผ้าไตรจีวรผ้าบังสุกุล ในงานพิธีฌาปนกิจศพ นายมิว หรือคุณตามิว ศาลางาม หมอช้างอาวุโส ตำแหน่งหมอสะดำ หรือหมอช้างรุ่นสุดท้าย ตำนานหมอช้างของชาวกูยเลี้ยงช้าง หลังจากเสียชีวิตลงอย่างสงบที่บ้านพักด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก เมื่อเวลา 10.10 น.ของวันที่ 14 มิถุนายน 2562 รวมอายุ 98 ปี
โดยทางด้านนางสาวอุนนดา ศาลางาม ซึ่งเป็นลูกสาวและญาติพี่น้อง ได้จัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพที่บ้านเกิดเลขที่ 46 หมู่ 9 บ้านตากลาง หมู่บ้านช้างเลี้ยง ต.กระโพ อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ ซึ่ง นายมิว หรือคุณตาหมิว ศาลางาม ถือเป็นหมอช้าง สะดำ อาวุโสรุ่นสุดท้าย ที่จากไป ชาวช้างถือเป็นบุคคลที่สำคัญของตำนานชาวกูยคนเลี้ยงช้าง และเคยคล้องช้างป่า มาฝึกเป็นช้างบ้านในอดีต รวมทั้งเป็นผู้สืบทอดการประกอบพิธีกรรมต่างๆ เกี่ยวกับช้าง ให้กับคนรุ่นหลัง เป็นการสืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณ
พิธีฌาปนกิจศพ ด้วย“เมรุลอย” ที่สร้างขึ้นอย่างสมเกียรติของครูบาใหญ่ หมอสะดำช้าง รุ่นสุดท้ายของชาวช้าง โดยก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจ ชาวช้างได้นำช้าง จำนวน 12 เชือก มาร่วมพิธีส่งดวงวิญญาณของหมอสะดำช้างขึ้นสวรรค์ ด้วยการให้ช้างทั้ง 12 เชือก นั่งลงหมอบกราบศพครั้งสุดท้าย ท่ามกลางประชาชนและครอบครัวชาวช้างมาร่วมพิธีจำนวนมาก เป็นภาพที่น่าซาบซึ้งและน่าประทับใจยิ่งนัก และยังเป็นภาพและประเพณีที่หาดูได้ยากยิ่งในปัจจุบัน จากนั้นได้มีศิลปินเจรียงกันตรึมโบราณพื้นบ้าน คือ น้ำผึ้ง เมืองสุรินทร์ มาร้องเจรียง หรือแหล่เพลงกันตรึม เพื่อส่งดวงวิญญาณ และปิดท้ายด้วยรำไทยหน้าศพเพื่อเป็นการเทิดทูลและส่งดวงวิญญาณหมอสะดำช้างรุ่นสุดท้ายอีกด้วย
ก่อนที่จะมีพิธีฌาปนกิจศพ ครอบครัว ญาติพี่น้องและชาวบ้าน ได้มีการจัดขบวนแห่เคลื่อนศพคุณตามิว หมอสะดำช้างรุ่นสุดท้าย มายังวัด โดยมีขบวนดนตรีโยธวาฑิต ของเด็กนักเรียน และเดินนำขบวนเคลื่อนศพด้วยช้าง 10 เชือก ก่อนจะเคลื่อนศพมาเดินวนซ้ายรอบเมรุลอย 3 รอบ ภายในวัดแจ้งสว่างสำหรับคุณตาหมิว ศาลางาม เป็นผู้สืบทอดหมอช้าง ในตำแหน่งหมอสะดำ รุ่นสุดท้าย แห่งตำนานคนจับช้างหรือคล้องช้าง ของจังหวัดสุรินทร์ ในอดีต แต่ยังคงมีหมอช้าง ในตำแหน่งรองลงมาคือ หมอสะเดียง ที่ยังมีวิตอยู่และยังสืบทอดพิธีกรรมเกี่ยวกับช้างอยู่ต่อไป
สำหรับประวัติ คุณตาหมิว หมอสะดำอาวุโส เกิดเมื่อปี พ.ศ.2464 ที่หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง หมู่ 9 ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ เริ่มต้นเรียนรู้การจับช้างหรือคล้องช้างจากบรรพบุรุษ มาตั้งแต่อายุ 11 ปี และได้ติดตามหมอช้างออกจับช้างกับกองคาราวาน และได้รับการปะชิเป็นหมอช้างเมื่ออายุ 20 ปี ออกจับช้างป่าตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก แนวชายแดน ติดประเทศกัมพูชา ในอดีต ที่พื้นป่าสมบูรณ์ ปีละ 2-3 ครั้ง แต่ละครั้งจะห่างกันนาน 2-3 เดือน เมื่อจับช้างป่าได้ก็นำมาฝึกจนเป็นช้างบ้าน และคัดเลือกช้างเป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ คุณตาหมิวมีลูกศิษย์เป็นหมอช้างอยู่หลายคน และต่อมาเมื่ออายุ 25 ปี ได้รับการจากฐานะจากหมอช้างขึ้นเป็นหมอสะดำ ในตำนานคนคล้องช้างชาวกูย และเป็นหมอสะดำอาวุโส คุณตาหมิวจัดอยู่ในอันดับครูบาใหญ่ หรือ กำลวงปืด เพราะครูบาใหญ่รุ่นก่อนได้เสียชีวิตหมอแล้ว ท่านเป็นผู้นำในการประกอบพิธีต่างๆเกี่ยวกับช้างเซ่นไหว้ผีปะกำ การปะชิหมอช้าง การทำเชือกปะกำ และการทำอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับช้าง เคยออกจับช้างป่ามามากว่า 40 ครั้ง จับช้างป่าทั้งหมดได้ 16 เชือก ถือเป็นครูบาอาวุโสที่สุดรุ่นสุดท้ายถึงในปัจจุบัน
สำหรับลำดับชั้นของหมอช้างเริ่มด้วยตำแหน่ง มะ ผู้ช่วยช้างต่อ และเมื่อได้รับการแต่งตั้งจะได้เลื่อนขั้นเป็นหมอจาคือ หมอใหม่ที่ผ่านพิธีปะชิและได้รับการแต่งตั้งแล้วแต่ยังจับช้างไม่ได้เลย และเมื่อจับช้างได้ 1 – 5 ตัว จะได้เลื่อนขั้นเป็น หมอสะเดียง หมอเบื้องซ้าย และเมื่อจับได้เพิ่มขึ้นตั้งแต่ 6 -10 ตัว จะได้เลื่อนขั้นเป็น หมอสะดำหมอเบื้องขวา และสู่ตำแหน่งสูงขึ้น ครูบา คือหมอช้างที่ได้รับการแต่งตั้งจากครูบาใหญ่หรือกำลวง ให้เป็นหัวหน้าขบวนช้างต่อ และตำแหน่งที่สูงสุด คือ ครูบาใหญ่ หรือ กำลวงปืด ผู้ที่สามารถจับช้างป่าได้ตั้งแต่ 15 ตัวขึ้นไป เป็นตำแหน่งหมอช้างที่ทรงเกียรติ และมีเพียงคนเดียวเท่านั้น ครูบาใหญ่จะเป็นผู้ที่สามารถจัดพิธีกรรมต่างๆ ได้ เป็นบุคคลที่หมอช้างต่างให้ความเคารพนับนับถือและเชื่อฟัง
พ่อเฒ่าหมิวได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ต่างๆจากรุ่นสู่รุ่นผ่านลูกศิษย์มากมาย ซึ่งทางด้านองค์บริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ ได้แต่งตั้งให้ท่านเป็นหมอช้างอาวุโสประจำศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้างบ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ ทำหน้าที่เป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้กับนักศึกษาและประชาชนทั่วไปและผู้คนที่สนใจ ซึ่งพ่อเฒ่าหมิวมีความมุ่งมั่นที่จะถ่ายทอดศาสตร์และภูมิปัญญาต่างๆที่เกี่ยวกับช้างของชาวกูยเลี้ยงช้างที่ได้สั่งสมกันมาให้กับรุ่นต่อไปให้มากที่สุด มาจนถึงปัจจุบัน