วันที่ 31 ธ.ค. 62 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานข่าว พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ท.สมพล ปานกุล แม่ทัพน้อยที่ 4 พร้อมด้วย นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้เดินทาง ไปยังพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ตรวจเยี่ยมความพร้อม กำลังพล และจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ อส.ปกครอง และ ชุดอาสารักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ พร้อมกำชับกำลังพล ให้มีความเข้มข้น ในมาตรการ ในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินให้กับประชาชนพื้นที่ ในช่วงเทศกาล ปีใหม่ 2563

ต่อมาเวลา 17.00 น.วันเดียวกัน แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะฯ ได้เดินทาง ไปยังศาลาเอนกประสงค์ มัสยิดบ้านอาแน หมู่ 8 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เพื่อปะชาวบ้านในพื้นที่บ้านอาแน ซึ่งมีชาวบ้านให้การต้อนรับกว่า 100 คน ทั้งนี้ พล.โท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าว ชี้แจง กับชาวบ้านในพื้นที่ กรณีเกิดเหตุ ที่เจ้าหน้าที่ ชุดจรยุทธ สำคัญผิดคือว่า เป็นคนร้าย จนเกิดเหตุมีชาวบ้านเสียชีวิต 3 รายในพื้นที่ เขาตะเว บ้านอาแน ต.บองอ ในวันที่ 16 ธ.ค.ที่ผ่านมา ในฐานะผู้บังคับบัญชา ได้กำชับ ว่า ผู้ใดกระทำผิด ก็ต้องลงโทษ ตามกฎหมาย ไม่ข้อละเว้น และกำชับหน่วยกองกำลังทุกหน่วยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เพิ่มความระมัดระวัง ในการปฎิบัติหน้าที่ ห้ามผิดพลาดเหมือนกรณี 3 ศพอย่างเด็ดขาด

 

 

 

แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวอีกว่า กรณีทหารที่กระทำผิด จนเป็นเหตุชาวบ้านเสียชีวิต 3 รายนั้น ยืนยันว่า ผู้ก่อเหตุ ไม่มีอภิสิทธิ์ เหนือใคร และคนเหล่านนี้ จะสู่การดำเนินคดี ในชั้นศาลยุติธรรม (ศาลพลเรือน ) ไม่ใช่ศาลทหาร อย่างที่บางคนที่พยายาม ให้ข่าวเพื่อเข้าใจว่า ขึ้นศาลทหาร เรื่องนี้ต้องดำเนินการตามกระบวนศาลยุติธรรม ส่วนในเรื่องการเยียวยา ทางรัฐได้ให้ความช่วยเหลือ เบื้องต้นให้กับทายาท รายละ 5 แสนบาท และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จะดูแลกระบวนการเยียวในกรอบต่อไป ให้เกิดความพึ่งพอใจ ในลำดับต่อไป แต่ทั้งจะเป็นไปตามกระบวนการตามขั้นตอนในโอกาสต่อไป ส่วนศพกรณีผู้เสียชีวิต จากสถานการณ์ ที่เป็นนับถือศาสนาอิสลาม ต้อง ทำพิธีฝังศพภายใน 24 ชม.จากนี้ไป ได้กำชับเจ้าหน้าที่ ถ้าต้องใช้ เฮลิปคอปเตอร์ลำเลียง ก็ต้องใช้ปฎิบัติภารกิจ เพื่อนำศพ หรือผู้เสียชีวิตให้ทันต่อพิธีกรรมศาสนา