2 สามีภรรยาชาวรัสเซีย ซิ่งบิ๊กไบค์ชน จยย. ลุงวัย 74 ปี เจ็บสาหัส
2 ม.ค. 2563, 19:41
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 ม.ค. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พ.ต.ท.ลาภ คำภาพันธ์ สารวัตรสอบสวน สภ.สวี จ.ชุมพร ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์นักท่องเที่ยวชนกับรถจักยานยนต์ของชายชราบนถนนสายเอเชีย 41 ฝั่งล่องใต้หลัก กม.ที่ 28 ตำบลครน อำเภอสวี ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 3 ราย จึงพร้อมกำลังเดินทางตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณช่องเลนขวาห่างจากจุดกลับรถสามแยกบ้านดอนหว้าประมาณ 150-200 เมตร พบพลเมืองดีแต่ชุดจิตอาสาและหน่วยอาสากู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ รถแอดวานซ์โรงพยาบาลสวีและนายสุทธิพงษ์ สุวรรณ ปลัดงานสาธารณภัยอำเภอสวี กำลังเข้าช่วยเหลือคนเจ็บทราบชื่อต่อมาคือ Mr. DENIS PRIVALIKHIN อายุ 42 ปี อาศัยอยู่เลขที่ 142/166 หมู่ 6 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี บาดเจ็บบริเวณขาซ้ายไม่สามารถเดินได้ และ Mrs.LALI KOCHE TKOVA อายุ 43 ปี บาดเจ็บบริเวณจมูก ทั้งคู่เป็นสามีภรรยาชาวรัสเซีย ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ฮอนด้า สีแดงดำ ทะเบียน 1 กพ 1256 ชลบุรี จอดอยู่สภาพเสียหายเล็กน้อย ส่วนคู่กรณีคือ นายอดุลย์ บัวสุวรรณ อายุ 74 ปี ชาวอำเภอสวี ได้รับบาดเจ็บสาหัสมีบาดแผลหลายแห่งทั่วร่างกาย เจ้าหน้าที่เร่งนำส่งโรงพยาบาลสวี
จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบรอยครูดบนผิวถนนช่องทางด้านขวา สอบสวนสาเหตุเบื้องต้นทราบว่า นายอดุลย์ ลุงวัย 74 ปี ได้ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีแดง ทะเบียน กบง 596 ชุมพร โดยมีมีดงอด้ามยาวคาดอยู่ด้านเบาะหลัง ซึ่งลูกสาว นายอดุลย์ ให้การว่า พ่อกำลังจะไปที่รีสอร์ทฝั่งตรงข้าม จึงคาดได้ว่านายอดุลย์ ขับจักรยานยนต์เข้าช่องทางขวาเพื่อจะลงร่องกลางถนนแต่เป็นจังหวะเดียวกับที่นักท่องเที่ยวสองสามีภรรยาชาวรัฐเซียขับบิ๊กไบค์มาด้วยความเร็วชนเข้าอย่างจังทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 3 ราย
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ชายแต่งชุดจิตอาสาที่ได้ลงมาช่วยผู้ได้รับบาดเจ็บนั้นที่แท้คือ นาวาเอก ภูวดล ศิริพงษ์ รองผู้บังคับการหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 46 เป็นจิตอาสา 904 หลักสูตรหลักประจำ รุ่นที่ 3/62 สังกัดกองบัญชาการกองทัพไทย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ติดตามอีก 2 นาย ทราบว่าผ่านมาเห็นเหตุการณ์แต่อยู่คนละฝั่งกันจึงหยุดรถเข้าให้การช่วยเหลือ โดยสร้างความประทับใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยในที่เกิดเหตุด้วย สำหรับอุบัติเหตุดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ในระหว่างสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้ง