วันที่ 6 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า กรณีพระวิษณุกรรมบริเวณหน้าวิทยาลัยการอาชีพนาแก ต.นาคู่ อ.นาแก จ.นครพนม หายไปจากแท่นประทับ คาดว่าถูกมือดีอาศัยช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ขโมยไป ซึ่งนายพิชัย วาจนสุนทร ผู้อำนวยการวิทยาลัยฯ แจ้งความไว้แล้วที่ สภ.นาแก ตั้งแต่วันที่ 4 มกราคม 2563 ถึงขณะนี้ชุดสืบสวนสอบสวนยังไล่ล่าตัวคนร้ายไม่ได้ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นคนต่างถิ่นตระเวนลักพระพุทธรูปที่เป็นทองเหลือง เพื่อนำไปขายร้านค้าของเก่า หรืออาจรับใบสั่งจากเซียนพระ

     ล่าสุด วันที่ 6 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปวิทยาลัยการอาชีพนาแกอีกครั้งเพื่อติดตามความคืบหน้า ซึ่งพระวิษณุกรรมมีแท่นประทับอยู่เคียงข้างกับพระพุทธรูป บริเวณทางเข้าวิทยาลัยฯ ห่างจากถนนประมาณ 70 เมตร พบว่ารั้วคอนกรีตกำลังปรับปรุงใหม่ จึงอาจจะเป็นช่องว่างให้แก๊งมิจฉาชีพเข้ามายกองค์พระวิษณุฯไปขึ้นรถยนต์ที่จอดรออยู่ริมถนนได้อย่างง่ายดาย

     โดยนายวิชยา ไทยรัมย์ อาจารย์สอนวิชาภาษาไทย เปิดเผยว่าจากการตรวจบันทึกของ รปภ. มีการลงบันทึกการรักษาความปลอดภัยว่าเหตุการณ์ปกติตลอด กระทั่งเช้าของวันที่ 4 มกราคม เจ้าหน้าที่เวรยามลงบันทึกว่าเหตุการณ์ไม่ปก มีพระวิษณุหายไป จึงแจ้ง ผอ.ฯมาตรวจสอบ และแจ้งความเพื่อติดตามองค์พระวิษณุกลับคืนมา ซึ่งนายวิชยากล่าวต่อว่าพระวิษณุได้รับการบริจาคมาจากร้านค้าวัสดุก่อสร้างในเขตเทศบาลตำบลนาแก ตั้งแต่ปี 2557 ลักษณะหล่อด้วยแก้วสีดำ ทรงเครื่องเป็นโลหะทองเหลือง นอกจากจะเป็นบิดาทางการช่าง เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของช่างสาขาทั่วไปแล้ว ยังมีชาวบ้านใกล้เคียงนำดอกไม้ธูปเทียนมากราบไหว้เพื่อขอโชคลาภอีกด้วย

     ด้าน นายชาตรี สีท้าว นักศึกษา ปวส.2 สาขาไฟฟ้ากำลัง เผยว่ารู้สึกเสียใจที่ขโมยมาลักพระวิษณุบิดาของพวกตนไป ทุกวันก่อนจะขึ้นห้องเรียนลูกพระวิษณุจะยกมือไหว้ท่านทุกคน โดยเฉพาะวันครูจะมีพิธีใหญ่ที่นักศึกษาเกือบ 600 ชีวิต จะต้องมารวมตัวก็บริเวณนี้ เพื่อขอพรอันศักดิ์สิทธิ์จากท่าน อยากให้คนร้ายคำนึงถึงความรู้สึกของลูกพระวิษณุด้วยว่าเขามีความเสียใจมากน้อยแค่ไหน จึงต้องการให้นำกลับมาคืนสู่ที่เดิม

ขณะเดียวกันโรงเรียนบ้านหนองหอยคำอ้อม ตั้งอยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2033(นครพนม-นาแก) บ้านหนองหอยน้อย หมู่ 10 ต.นาคู่ ซึ่งอยู่ห่างจากวิทยาลัยการอาชีพนาแก ประมาณ 3 กม. นายมนัส วงค์ศรีชา ผู้อำนวยการสถานศึกษา แจ้งว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ลักลอบเข้ามาในรั้วของโรงเรียน แล้วยกพระพุทธรูปที่ตั้งบูชาอยู่ข้างเสาธงสนามหญ้าหน้าโรงเรียน แต่คนร้ายได้โยนทิ้งไว้ข้างรั้วลวดหนามด้านทิศใต้หลังห้องเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล โดยผู้ที่ไปพบคนแรกคือนายประวิทย์ ยตะโคตร ภารโรง ลักษณะเศียรหักเสียหาย เมื่อไปตรวจสอบบริเวณที่แท่นบูชา พบหมวกลายพรางของคนร้ายตกอยู่ 1 ใบ จึงนำทั้งพระพุทธรูปและหมวกมาไว้ที่ห้องผู้อำนวยการ เพื่อรอเจ้าหน้าที่มาพิสูจน์หลักฐาน

     นายมนัสฯเผยว่าช่วงวันหยุดโรงเรียนจะปิดประตูใส่กุญแจทางเข้าออกทั้งสองด้าน คนร้ายจึงแอบมุดรั้วลวดหนามข้างโรงเรียนมาขโมยพระพุทธรูป เพราะคิดว่าสร้างด้วยโลหะทองเหลือง หากนำไปขายก็จะได้ราคา แต่พอทราบว่าเป็นพระปูนปั้นจึงโยนทิ้งไว้ที่ข้างรั้วจนภารโรงมาพบดังกล่าว

     นอกจากนี้นายมนัสฯ ผอ.รร.หนองหอยคำอ้อม เผยต่อว่าประมาณอาทิตย์เศษๆ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจากพื้นที่อำเภอเรณูนคร มาไล่ดูกล้องวงจรปิดจากหน้าบ้านพักตน เพราะทราบว่ามีคนร้ายขโมยพระพุทธรูปทองเหลืองในเขตตำบลโคกหินแฮ่ใช้เส้นทางนี้หลบหนี ต่อมาก็มาขโมยพระวิษณุและพระพุทธรูปที่โรงเรียนตนต่อ เชื่อว่าคนร้ายเป็นชุดเดียวกันที่ตระเวนลักวัตถุที่เป็นทองเหลือง เหมือนอดีตที่มีโจรเข้าไปขโมยระฆังตามวัดต่างๆไปขาย ตนจึงเตือนไปยังวัดวาอารามและสถานศึกษาที่มีวัตถุมงคลที่เป็นทองเหลืองเฝ้าระวัง เพราะโจรแก๊งนี้ยังไม่ถูกจับกุมดำเนินคดี กำลังอาละวาดหนักในพื้นที่จังหวัดนครพนมและจังหวัดใกล้เคียง