เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



แม่ลูกอ่อนชาวอุดรฯ โพสต์เตือนเป็นอุทาหรณ์ ลูกน้อยวัย 10 เดือนให้น้ำเกลือจนมือไหม้


6 ม.ค. 2563, 13:45



แม่ลูกอ่อนชาวอุดรฯ โพสต์เตือนเป็นอุทาหรณ์ ลูกน้อยวัย 10 เดือนให้น้ำเกลือจนมือไหม้




วันนี้ (5 ม.ค.62) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า มีผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่ง ได้โพสต์ลงในห้องอุดรมีด่านฯ โดยบอกว่า ฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์ นี้คือ เด็ก 10 เดือน อาการของน้องคือ น้องน้องเสีย อ้วก มีไข้ แม่เลยพาน้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในอำเภอกุมภวาปี ในวันจันทร์ที่ 23 ธ.ค.62  หมอเลยสั่งให้น้องนอนโรงบาล จนมาถึงวันพฤหัสบดีที่ 26 ธ.ค.62 ช่วงประมาณบ่ายสามบ่ายสี่โมงเย็น แม่ออกมาทำธุระเลยให้ตาของน้องและพี่สาวไปดูน้องแทน แล้วเครื่องที่ใส่น้ำเกลือน้องดังตลอดเวลา พี่สาวก็ไปเรียกพยาบาลมาดู เครื่องก็ดังอีก พยาบาลเลยเดินมาดูแล้วบอกพี่สาวว่า ถ้าดังอีกให้กดตรงนี้นะค่ะ จนแม่เข้าไปเปลี่ยนตากับพี่สาวตั้งแต่ 6 โมงเย็นน้องร้องไห้ตลอดเวลาจนถึงตี 2 ครึ่งร้องจนเหนื่อยแล้วกลับเอง ทุกคนต่างสงสัยว่าน้องเป็นอะไร เพราะน้องเป็นเด็กแข็งแรง อารมณ์ดี ไม่ค่อยร้องไห้ จนถึงตี 3 แม่ดูน้องอีกที คือตามภาพเลยค่ะ แขนน้องบวมใหญ่มากเหมือนเราเป่าลูกโป่งเลย แม่ร้องเรียกพยาบาลมาดูไม่พูดอะไรเดินออกจากห้อง  แล้วเดินมาใหม่พร้อมสำลัและสก๊อตเทป มาถอดน้ำเกลือออกจากมือน้อง แม่เลยถามว่าแขนน้องเป็นอะไร พยาบาลบอกว่าแค่น้ำเกลือไม่เข้าเส้นเลือด แต่เข้าผิวหนังท้องแทน แต่ไม่เป็นอะไรค่ะเดี๋ยวก็ยุบ ถ้ายุบแล้วมีแผลก็เอายามาทา ดูอาการแค่นั้น นี่คือคำพูดของคนทำงานในโรงบาลนั้น แล้วแขน มือน้องจะกลับมาในสภาพเดิมไหม พวกคุณทำงานแย่มาก ฝากแชร์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ด้วยน่ะค่ำ เด็กนะ ไม่ใช่หนูทดลองของพวกคุณ!!!! ต่อมามีคนออกมาคอมเม้นแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก บ้างก็บอกว่า รพ.แห่งนี้เป็นโรงลาบ หากไม่เคยเข้ารพ.นี้จะไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไร เหมือนกันค่ะเคยพาแม่ไปรักษาเหมือนน้องแต่ตอนนี้น้องเสียชีวิตแล้วไม่อยากเข้ารพ.นี้อีกเลย

 

 

 



ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับแม่ลูกอ่อนท่านนี้ที่บ้านพักในอ.กุมภวาปี  พบว่ามีเจ้าหน้าที่จากรพ.แห่งนี้เดินทางมาดูอาการมือด้านซ้ายของน้องออม อายุ 10 เดือนที่มีรอยไหม้หลังจากมีการแชร์คุณแม่ได้แชร์เรื่องเตือนภัยเรื่องนี้และทำการรักษาเบื้องต้น โดยทางคุณตาของน้องออมได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของรพ.ว่า ผมไม่อยากโทษรพ แต่อยากจะฝากถึงเจ้าหน้าที่ทุกท่านช่วยดูแลประชาชนให้ดีกว่านี้ด้วย ประชาชนเขาไม่รู้หรอกว่าเข้ารพแล้วต้องทำอย่างไรเพราะเขาเชื่อและไว้วางใจหมอและพยาบาลทุกคน แต่เคสนี้หลานสาวตัวเองเจอกับตัวเอง หากเป็นมากกว่านี้ความเสียใจเกิดขึ้นแน่ ควรปรับปรุงให้ดีมากกว่านี้ ไม่ใช่ส่งเข้ารพ.แล้วส่งคนเข้าไปตาย

 

 

น.ส.เจนจิรา (นามสมมิต) อายุ 33 ปี แม่ลูกอ่อนพร้อมด้วยลูกสาววัย 10 เดือน เล่าเรื่องราวถึงความน้อยใจรพ.ประจำอำเภอแห่งนี้ว่า มีลูกสาววัย 10 เดือน เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.62 ที่ผ่านมาน้องมีอาการท้องเสีย อ้วก มีไข้ จึงพาไปรพ.แห่งนี้ เมื่อพบคุณหมอหมอก็บอกคุณแม่ว่า มีช้อยให้เลือก 2 ช้อยนะครับ 1.เอายากลับไปทานที่บ้าน 2.แอ้ดมิจน้องเพราะน้องกินไม่ได้ จึงตัดสินใจแอ้ดมิจลูกสาวนอนรพ. จากนั้นก็ให้ลูกสาวนอนรพ. แห่งนี้ น้องเริ่มนอนตั้งแต่วันจันทร์ อังคาร พุธ จนถึงวันพฤหัสบดีให้น้ำเกลืองทุกวัน แต่ปรากฏว่าน้องร้องไห้ลั่นรพ. ตนเองก็ไปสังเกตเห็นเครื่องใส่น้ำเกลืองมันดังขึ้นตลอดเวลา ตนเองก็กดเรียกพยาบาล พยาบาลก็มาดูเขาก็ปิดเครื่องแล้วเปิดเครื่องใหม่ แล้วบอกคุณแม่ว่าถ้ามันดังอีกให้กดปุ่มนี้นะค่ะ แต่เครื่องมันก็ดังตลอด น้องก็ร้องลั่นเหมือนเดิม พยาบาลก็เดินมาอีกมากดท้องดูแล้วยกกระปุกน้ำเกลือดู พยาบาลก็บอกคุณแม่ว่า ท้องน้องก็ปกติแน่ แต่เขาไม่ดูสายน้ำเกลือและเครื่องน้ำเกลือว่าปกติหรือไม่

 

พอมาถึงตี 3 ปรากฏว่าสังเกตเห็นแขนด้านซ้ายของน้องบวม แต่แขนขวาไม่เป็นอะไร หัวอกคนเป็นแม่และญาติพี่น้องตกใจมากเห็นแขนน้องบวมมาก ก็ร้องว่าแขนน้องเป็นอะไรรีบเรียกพยาบาลมาดู เขาก็ไม่พูดอะไร พยาบาลก็เดินออกจากห้อง ทุกคนมองหน้ากัน ต่อมาพยาบาลเดินเข้ามาพร้อมกับสำลีและสก๊อตเทปแล้วมาถอดน้ำเกลือออก คุณแม่เลยถามว่า น้องเป็นอะไรค่ะ พยาบาลก็บอกว่า น้ำเกลือไม่เข้าเส้นเลือดน้องแต่เข้าผิวหนังน้องแทน ทุกคนก็เป็นห่วง พยาบาลก็บอกว่า ไม่เป็นอะไรมาก แค่น้ำเกลือเดี๋ยวแขนน้องก็ยุบ แต่สังเกตุว่าบริเวณข้อมือแขนซ้ายของน้องบวมและมีรอยไหม้ช้ำ เหมือนน้ำร้อนลวกเลย ตกใจมาก โดยตั้งแต่เข้ารพ. 4 วันหมอให้น้ำเกลือทุกวัน หลังจากตนเองโพสต์ลงไป หลายคนก็ลงความเห็นเครื่องให้น้ำเกลือช็อตเลยทำให้แขนน้องเป็นลักษณะแบบนี้

 

ตอนแรกเขาไม่เคยถามข่าวเลย แต่พอโพสต์ไป ก็มีเจ้าหน้าที่ของรพไลน์มาถามว่า ลงข้อความแบบนี้ทำให้รพ.เสียหายนะ ตนก็ตอบไปว่า ไม่ได้เอ่ยชื่อรพ ทำไมเหมือนมาขู่กันด้วย จากนั้นจึงพากันลงมาและแจ้งว่าจะชดใช้ความเสียหายให้ คุณแม่ลูกอ่อน เผยอีกว่า ตอนนี้อาการน้องดีขึ้นแล้ว ตอนนี้อาการน้องดีขึ้นแล้วสียหายด้วยครับผม เขาขอมางเสียชีวะบางรายจะฟ้องดำเนินคดีด้วยาวบ้านหลายคนบอกว่า แต่ที่ออกมาโพสต์ไม่ได้อยากจะเรียกร้องอะไร แต่อยากให้เจ้าหน้าที่ดูแลประชาชนให้มากกว่านี้ ลูกทั้งคนทุกคนก็รักและเป็นห่วง

 

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า รพ.แห่งนี้มีหลายเคสที่มีปัญหาในเรื่องการบริการ โดยมีชาวบ้านหลายคนบอกว่า เคยมีผู้ป่วยเสียชีวิตหลายรายแล้วเนื่องจากคุณหมอฉีดยาผิดทำให้มีผู้เสียชีวิต อย่างเช่นชาวบ้านรายหนึ่ง ไปให้หมอรพ.นี้รักษาเนื่องจากเจ็บคอทอมซินอักเสบแต่ดันใช้ยาทาและยากินผสมกันแล้วฉีดยาจนหญิงรายนี้จนแน่นหน้าอกแทบเอาชีวิตไม่รอด และมีเด็กบางรายเสียชีวิตเนื่องจากหมอฉีดยาผิดเช่นกัน แต่ชาวบ้านไม่กล้าพูดเพราะทุกครั้งที่เกิดเรื่อง ทางรพ.จะจบลงด้วยการจ่ายค่าเสียหายและเยียวยาและบางรายจะฟ้องดำเนินคดีด้วย

 

 

 

 

 

 


ล่าสุดทางรพ.แห่งนี้ก็ได้ออกแถลงการณ์ว่า ประกาศ...แถลงการณ์ข้อเท็จจริง โรงพยาบาลฯ ขอชี้แจงกรณีเด็ก 10 เดือน..มารับการรักษาที่ รพ.แล้วมีการมือบวมจากน้ำเกลือรั่วออกนอกเส้นเลือด (leak) จนเกิดการ เขียน post และ share ไปใน social และมีผู้แสดงความเห็นมากมาย รวมถึงมีบางสำนักข่าวมาสัมภาษณ์เพื่อนำไปเขียนข่าว กรณีนี้..เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2563 มารดาของเด็กได้เขียนร้องเรียนมาทาง website รพ. เมื่อทางแอดมิน ได้ เห็นข้อความก็ได้โทรกลับเพื่อสอบถามเรื่องราวที่ร้องเรียน เหตุการณ์ที่ญาติไม่พอใจกับมารดาของเด็ก.. เมื่อคุยแล้วจึงตอบกลับไปว่าจะนัดทีมทบทวนเคสกันในวันศุกร์ และจะลงไปหาผู้ป่วยและญาติที่บ้านเพื่อติดตามดูอาการและความต้องการความช่วยเหลืออื่นๆ ที่ รพ.จะช่วยได้.. พร้อมได้ขอให้แม่เด็กส่งรูปมือน้องในตอนปัจจุบันมาให้ดู เพื่อจะปรึกษากุมารแพทย์ในการประเมินว่าต้องมาทำแผลที รพ. หรือไม่ เพราะแม่เด็กบอกว่าตอนนี้ทำแผลเองที่บ้าน

เคสนี้เป็นเด็ก ผญ.อายุ 10 เดือน มา รพ.ด้วยอาการถ่ายเป็นน้ำและอาเจียนมาแล้ว 12 วัน ไปรักษาที่คลินิก และ รพ.แห่งหนึ่งในตัวจังหวัดแล้วไม่ดีขึ้นจึงพามาที่ รพ.กุมภวาปี ในวันที่ 23 ธันวาคม 2562 หมอตรวจร่างการพบว่าเด็กมีภาวะร่างกายขาดน้ำ (dehydration) จึงให้การรักษาโดยให้น้ำเกลือเป็น 5%D/N/3 500 ml iv drip 35 cc/hr,..และแพทย์ได้เปลี่ยนนทเป็นสูตรปราศจาคน้ำตาลแลกโตสสำหรับทารกที่มีอาการถ่ายอุจจาระเหลว และได้งดยาปฏิชีวนะที่เคยได้รับไปก่อนและให้กินสังกะสี (zinc) syr 20 mg. วันละ 1 ครั้งก่อนนอน เสริมด้วย เนื่องจากเด็กมีอาการถ่ายอุจจาระเหลวมานาน, และยาแก้อาเจียน พร้อมให้มารดากระตุ้นให้จิบผงเกลือแร่เป็นระยะ

หมอวินิจฉัยโรคเบื้องต้น เป็น persistent diarrhea (ถ่ายอุจาระเหลวยืดเยื้อ) ซึ่งอาจเป็นผลจากที่มีภาวะ secondary lactose deficiency ตามหลังการติดเชือท้องร่วง และมีผลข้างเคียงถ่ายอถจจาระเหลวจากยาปฏิชีวนะ (antibiotic side effect) ร่วมด้วย เนื่องจากก่อนหน้าที่จะมา รพ. เด็กมีไข้เป็นๆ หายๆ จึงได้ยาฆ่าเชื้อมาก่อนทั้งจากคลินิค และ รพ.ที่เด็กไปรักษาก่อนหน้า

เคสนี้กุมารแพทย์ดูแลเคสตั้งแต่แรกรับ

2 วันแรกหลัง admit เด็กยังทานไม่ได้ ไม่มีไข้ ไม่ถ่าย แต่ยังมีคลืนไส้อาเจียน ผลตรวจเลือดปกติ..ผลตรวจถ่ายปกติทุกตัว แพทย์จึงรักษาโดยการให้น้ำเกลือต่อ และ supportive ตามอาการ

วันที่ 26 ธค. แพทย์ตรวจเยี่ยมอาการ เด็กเริ่มเล่น ทานได้ แต่หลังทานจะมีถ่ายเหลว จึงยังให้น้ำเกลือต่อ และยาแก้คลื่นไส้อาเจียน.

ช่วงเวรเช้าของวันที่ 26 เครื่อง infusion pump (เครื่องควบคุมสารละลายทางหลอดเลือดแบบอัตโนมัติ) alarm (ร้อง) ญาติจึงกดออดเรียกพยาบาลไปดู (ผู้ป่วยนอนห้องพิเศษ) พยาบาลได้ตรวจดูบริเวณให้น้ำเกลือไม่มีบวมแดง จึงปรับ set เครื่องใหม่ น้ำเกลือไหลดี

และพบาบาลได้ไป round น้ำเกลือเป็นระยะ..เวลาประมาณ 23.00 น. เด็กร้องไห้ พยาบาลเข้าไปดูอาการรวมถึงดูบริเวณที่แทงน้ำเกลือก็ไม่พบอาการบวมแดง และครั้งสุดท้ายที่ไปดูอาการเด็กคือเวลา 02.00 น. ซึ่งเด็กนอนหลับในท่าคว่ำ อยู่ และเครื่องให้น้ำเกลือก็ปล่อยน้ำเกลือตามปกติจึงไม่ได้สังเกตุตรงบริเวณที่ให้น้ำเกลือว่าบวมหรือไม่.

จนเวลา 03.30 น. เด็กร้องไห้มาก และมือบริเวณที้ให้น้ำเกลือบวม ญาติจึงกดออดเรียกพยาบาลไปดู.. พยาบาลไปดูแล้วบอกญาติว่า น้ำเกลือรั่วออกนอกเส้นเลือด จึงมือบวม ซึ่งปกติจะยุบเองได้ และได้ถอดสายน้ำเกลือออกให้.

วันที่ 27 ธค. ช่วงเช้าเวลา 9.40 น. แพทย์มาตรวจเยี่ยมอาการพบบริเวณที่น้ำเกลือรั่วบวมแดง จึงวินิจฉัยว่ามีภาวะ phlebitis (ภาวะหลอดเลือดดำอักเสบจากการให้สารน้ำ) จึงได้สั่งยาฆ่าเชื้อ Cephalexine 4 ml ให้ทานวันละ 3 ครั้ง และได้อธิบายให้ญาติทราบ

เวลา 10.00 แพทย์เจ้าของไข้ได้พูดคุยกับมารดาถึงอาการท้องเสียไม่หายว่าจะสังเกตุอาการต่ออีก 2-3 วัน ถ้ายังถ่ายอยู่จะลองเปลี่ยนนมสำหรับเด็กที่มีปัญหาแพ้โปรตีนจากนมวัว

เวลา 10.30 น. มารดาขอไม่สมัครใจอยู่ไปรักษาต่อที่ รพ.ในตัวจังหวัด แพทย์จึงได้เขียนประวัติการรักษาเพื่อส่งต่อไปให้ รพ.ที่แม่เด็กจะพาไปรักษาต่อ.

กล่าวถึงกรณีที่น้ำเกลือรั่วจนเกิดภาวะ phlebitis เนื่องจากน้ำเกลือที่ได้มีน้ำตาลผสม จึงทำให้มีความรุนแรงกว่าน้ำเกลือที่ไม่มีน้ำตาลผสม และจากสภาพร่างกายเด็กที่ทานไม่ได้และถ่ายตลอดมา 10 กว่าวัน. ทำให้น้ำเกลือที่รั่วออกมานอกเส้นเลือดมาอยู่บริเวณใต้ผิวหนังมีอาการมากกว่าเด็กทั่วไป เกิดการบวมจองผิวหนัง พอบวมยุบลง จะเกิดถุงน้ำ (bleb) พอถุงน้ำแตกจะหนังเหี่ยว และเป็นแผลเปิดตามมา.. แต่เคสนี้เนื่องจากเกิดการรั่วจากน้ำเกลือและอยู่ระดับผิวหนัง จึงไม่เกิดเนื้อตาย และดูแลแผลทำแผลทุกวัน ป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อน

วันนี้ทางโรงพยาบาล ได้เข้าไปประเมินและดูแลแผลของเด็ก รวมถึงได้พูดคุยกับญาติเพื่อรับทราบปัญหา ซึ่งพบว่า แผลของเด็กยังไม่มีลักษณะของการติดเชื้อในขณะนี้ การรักษาคือ ทำแผลและป้องกันการติดเชื้อแทรกซ้อนจนกว่าแผลจะหาย ทางเราต้องขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะช่วยดูแลแผลน้องต่อเนื่องจนกว่าจะหายดีค่ะ

เราขอให้การโจมตีทางสื่อ social ยุติลง..พวกเราทุกคนต่างอย่างทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด อยากให้คนไข้ปลอดภัยกลับบ้านทุกรายไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน .. หากเมื่อเกิดภาวะแทรกซ้อนทางทีมจะมีการทบทวนและวางแผนป้องกันไม่ให้เกิดกับเคสอื่นต่อไป..นี่คือระบบ safety ที่ รพ. ทำมาโดยตลอด ส่วนเรื่องพฤติกรรมบริการที่อาจจะแสดงออกไม่ดีทั้งกิริยา หรือวาจา ที่อาจทำให้ญาติไม่พอใจ เราขอน้อมรับไว้เพื่อปรับปรุงต่อไปค่ะ เรายังยืนยันอุดมการณ์ที่จะพัฒนาโรงพยาบาลของเราให้เป็นที่พึ่งของคนโซนนี้ต่อไปค่ะ ขอบคุณค่ะ
 

 

 

 

 

 






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.