ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัด สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยพลตำรวจตรีอภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี เข้าตรวจสอบแรงงานต่างด้าวชาวโรฮิงญาจำนวน 42 คน หลังจากทีเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรท่าชีสามารถจับกุมตัวนายขวัญชัย เผื่อนพงษ์ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/10 หมู่ที่ 4 ต.เขาน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นคนขับรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่น คอมมูเตอร์ สีขาว ทะเบียนป้ายเหลือง 30-0781 ประจวบคีรีขัน และนายพิชิต ตุกรุดโทน อายุ 30ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/3 หมู่ที่ 4 ต.ปราญบุรี อ.ปราญบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ รถตู้ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว สีขาว ทะเบียนป้ายฟ้า ฮบ 9496 กทม. สองผู้ต้องหาใช้รถตู้ขนแรงงานหลบหนีเข้าเมืองจำนวน 42 คน

จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งคู่รับสารภาพว่าได้รับโทรศัพท์จาก “นายชาติไม่ทราบชื่อจริง”ว่าจ้างให้ขับรถตู้ไปส่งแรงงานต่างด้าวไปส่งที่จังหวัดยะลา โดยจะให้เงินค่าจ้างคนละ 2.5 หมื่นบาท และได้โอนเงินค่าจ้างมาให้คนละ 1 หมื่นบาท หลังจากนั้นจึงได้ออกเดินจากจังหวัดกาญจนบุรี มาที่ด่านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์โดยมีคนต่างด้าวทั้งชายและหญิงรวม 42 คน รออยู่ข้างทางจึงได้รับขึ้นรถโดยแบ่งเป็นคันละ 21 คน และออกเดินทางมุ่งหน้าลงใต้ โดยมีรถนำเป็นรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ แบบตอนครึ่ง สีบอนท์ ไม่ทราบทะเบียนเป็นรถนำและได้ขับขี่มาตามถนนสายเอเซีย 41 (ขาล่อง) จนมาถึงปั้ม ปตท.บ้านนาเดิม อ.บ้านนาเดิม จ.สุราษฎร์ธานี รถนำได้จอดที่ปั๊ม เพื่อลงไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อ ทำให้ไม่มีรถนำ จนมาถึงด่านตรวจสภ.ท่าชี หมู่ที่ 1 ต.น้ำพุ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี จึงถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับได้ในที่สุด

ด้านนายวิชวุทย์ กล่าวว่าจากการสอบถามทราบว่าแรงงานเหล่านี้ต้องการเดินทางไปยังประเทศที่สาม และการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้เป็นการป้องกันสกัดกั้นการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายของแรงงานต่างด้าว ซึ่งปกติก็ได้มีการตรวจจับอย่างต่อเนื่องอยู่แล้ว

สำหรับแรงงานทั้งหมดระหว่างเดินทางห้ามลงจากรถโดยเด็จขาด หากจะเข้าห้องน้ำต้องฉี่ใส่ขวดเพียงอย่างเดียว