จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ชาว จ.นครราชสีมา โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพ ระบุว่า พ่อของเธอนำเงินไปฝากที่ธนาคารแห่งหนึ่ง จำนวน 50,000 บาท เมื่อเจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจนับเงินเสร็จเรียบร้อย เงินก็เข้าบัญชีตามปกติ แต่พอตกเย็นมีการติดต่อมาจากธนาคาร โดยแจ้งว่าพ่อของเธอฝากเงินไม่ครบตามจำนวนที่แจ้งไว้ โดยมีเงินเข้ามาเพียง 4 หมื่นบาทเท่านั้น  ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี สอบถาม นางพราว (นามสมมติ) อายุ 42 ปี ลูกสาวผู้เสียหายและเป็นเจ้าของโพสต์ดังกล่าว เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 08.30 น. พ่อไปฝากเงิน จำนวน 50,000 บาท ที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ในอ.พิมาย ซึ่งเงินจำนวนนี้ พ่อของตนได้มาจากการขายวัว 47,000 บาท และเพิ่มเงินอีก 3,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่เก็บออมจากการรับจ้างทำไร่ ทำนา วันละ 250 บาท

กระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. ผู้จัดการของธนาคาร ได้ติดต่อผ่านผู้ใหญ่บ้านหมู่บ้านหนองปรือ และแจ้งว่าพ่อฝากเงินแค่ 40,000 บาท แต่ทำไมแจ้งพนักงานว่า ฝากเงิน 50,000 บาท และหากพ่อไม่คืนเงินให้ธนาคารจำนวน 10,000 บาท พนักงานจะต้องจ่ายเงินจำนวนนี้เอง ทั้งนี้ ด้วยความที่พ่อไม่อยากมีเรื่องและกลัวถูกฟ้องกลับจึงยอมความ และยอมให้ธนาคารปรับเล่มสมุด จากเงินที่ฝากไป 50,000 บาท เป็นฝากเงิน 40,000 บาท หลังเกิดเรื่องตนได้ขอดูกล้องวงจรปิด และตั้งข้อสงสัยพนักงานที่อยู่ในคลิปว่า ทำไมถึงหันไปหันมา มีท่าทางน่าสงสัย อีกทั้งตนก็ไม่รู้ว่าพ่อนำเงินไปฝากเท่าไหร่ เพราะตนไม่ได้อยู่ด้วย แต่พ่อก็ยืนยันว่าฝากเงิน 50,000 บาทจริง ซึ่งตนก็เชื่อพ่อ เพราะเรื่องเงินพ่อความจำดี

อย่างไรก็ตาม ล่าสุดวันนี้ช่วงบ่ายผู้จัดการของธนาคารขอเจรจาให้ตนลบโพสต์ อ้างว่ามีคนแชร์ไปเยอะ และยอมรับด้วยว่าพนักงานของธนาคารผิดจริง ด้วยเหตุนี้จึงยอมลบโพสต์ และขอให้ทางธนาคารกล่าวขอโทษ เพราะตนไม่อยากให้เรื่องยืดเยื้อ ซึ่งทางธนาคารยินดีขอโทษ ทั้งนี้ยอมรับว่ารู้สึกสงสัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะเงินไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ แต่ก็ยังไม่ได้แจ้งความเพราะเข้าใจว่าเรื่องที่เกิดต่างฝ่ายก็สงสัยว่าใครผิด

อีกทั้งคนแก่กว่าจะเก็บเงินได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ก่อนหน้านี้พ่อของตนฝากเงินที่ธนาคารสาขานี้เป็นประจำ ซึ่งไม่เคยเกิดเรื่องเช่นนี้มาก่อน กระทั่งมาเกิดเรื่องเสียความรู้สึกมากและจะไม่ไปใช้บริการที่นี่อีกแล้ว