เกษตรกรเครียด! "โคนม" ติดโรคระบาดปากเท้าเปื่อย ล้มตายเกลื่อนคอก รักษาไม่ทัน
14 ม.ค. 2563, 08:02
วันที่ 13 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หลังทราบข่าวว่ามี โคนมเป็นโรคระบาดปากเท้าเปื่อย ตายกันร่วม 100 ตัว แทบทุกบ้านที่เลี้ยงโคนม ที่ หมู่ 18 ต.ลำพญากลาง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี พบชาวบ้านผู้เลี้ยงโคนมบางคน บอกว่า รู้สึกเสียใจมากเมื่อต้องเห็นวัวที่เลี้ยงไว้ขาดใจตายลงต่อหน้าต่อตา โดยที่ยังไม่รู้สาเหตุที่ชัดเจน แต่สันนิษฐานว่าเป็นโรคปากเท้าเปื่อย ซึ่งเคยระบาดหนักมาแล้วในพื้นที่ ต.ลำพญากลาง เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นมาตรวจสอบและแก้ไขปัญหาดังกล่าว และรวมถึงให้คำแนะนำกับผู้เลี้ยงโคนม สร้างความเข้าใจ ร่วมกันต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และในวันนี้ เกษตรกรที่เลี้ยงโคนม ที่ได้รับผลกระทบจากโรคระบาดปากเท้าเปื่อย จำนวนนับ 10 คน เตรียมเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อยื่นหนังสื่อต่อพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้หาทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมเป็นการด่วน
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบ นาย ศรีพนม สวาทกลาง อายุ 60 ปี ผู้เลี้ยงโคนม อาศัย หมู่18 ต.ลำพญากลาง อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี เล่าให้ฟังว่า ตนเองเคยทำไร่ข้าวโพดแต่รายได้ไม่ดี จึงหันมาเลี้ยงโคนมตั้งแต่ พ.ศ.2527 จนถึงปัจจุบัน ได้มีวัวเลี้ยงอยู่ร่วม 250 กว่าตัว มีบริเวณเลี้ยงประมาณ 30 ไร่ พร้อมที่อยู่อาศัย จนมาถึงวันที่ 2 ธันวาคม 2562 เริ่มมีวัวไม่สบาย ซึ่งน่าจะติดโรคระบาดปากเท้าเปื่อย แทบกันทุกบ้าน ใน ต.ลำพญากลาง และบางวันล้มตายกันวันละ 4-5 ตัว ตนเองได้ช่วยดูแลและฉีดยา ช่วยทุกอย่าง แต่ก็ช่วยไม่ได้ จนกระทั้งวัวได้ล้มตายกัน เป็นจำนวน 19 ตัว เป็นจำนวนเงิน 6 แสนกว่าบาท ซึ่งทำให้ตนเองเสียใจ วัวที่ตายเป็นตัวเมียที่มีราคาถึง 5 หมื่นบาท แต่ต้องกับมาขายในราคาที่ต่ำ ส่วนตัวผู้ขายได้ 1-2 พันบาท และตัวเมียที่ท้องก็ได้ประมาณ 7-8 พันบาท แต่ก็ไม่คุ้มกับค่าเลี้ยงดู จากการที่รีดนม ตามปกติทุกวันจะรีดได้ ตัน 3 ต่อวัน แต่พอติดโรคระบาด ลดเหลือ 360 กิโลกรัมต่อวัน ที่จะเอาไว้ขายวันต่อวัน แต่ตอนนี้ทั้งหมดเหลือนมอยู่แค่ 800 กิโล ส่วนผู้ที่มาซื้อนมถ้ารู้ว่า บ้านไหนติดเชื้อโรคระบาดปากเท้าเปื่อย ก็จะใช้วิธีนำยามาตรวจแกว่งในนม ถ้าน้ำนมเหนียวเป็นเม็ด เขาก็ไม่รับซื้อ เขาถือว่าเป็นโรคปากเท้าเปื่อย ก็ต้องนำน้ำนมดังกล่าวไปทิ้ง แต่ถ้านมดีเขาก็รับซื้อไป ส่วนวัวที่ตายของชาวบ้าน ที่ ต.ลำพญากลางทั้งหมด 56 ตัว ได้ขายให้กับผู้รับซื้อ
ซึ่งตนเองก็อยากให้รัฐบาลเข้ามาช่วยซื้อวัวที่ตายแล้ว ของผู้เลี้ยงโคนม ถ้าไปขายให้โรงฆ่าสัตว์ และโรงฆ่าสัตว์เอาไปขายเนื้อต่อ มันจะมีปัญหาการบริโภคกับประชาชนที่ซื้อไป แต่คนซื้อเขาเต็มใจซื้อ ตนก็ต้องจำใจขาย หากครั้งหน้าเกิดโรคระบาดตนก็อยากให้รัฐบาลเป็นผู้ซื้อ แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะต้องลงพื้นที่ไป ที่ หมู่ 18 ต.ลำพญากลาง อ.หมวกเหล็ก จ.สระบุรี เพื่อจะปูพรหมแก้ไขปัญหาโรคระบาดปากเท้าเปื่อยให้หมดสิ้นไป จึงขอความร่วมมือจากผู้ที่เลี้ยงโคนมทุกคนให้ช่วยเหลือตามที่เจ้าหน้าที่บอก ///