"เสี่ยปาน 30 ล้าน"โพสต์ให้กำลังใจลุงถูกเมียทิ้ง หลังถูกหวย 12 ล้าน จ้างหย่า 2 แสน
14 ม.ค. 2563, 12:06
วันนี้ (14 ม.ค.63) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ในเฟสบุ๊คของเสี่ยปาน 30 ล้าน ได้โพสต์ให้กำลังใจลุงถูกเมียทิ้ง เผยเจอมาเยอะเรื่องราวทุกขลาภจากถูกหวยก้อนโตแต่ขอให้มีสติ
โดยร่ายยาวให้กำลังใจลุงเขียวที่ถูกเมียทิ้งว่า ก่อนอื่นก็อยากขอเป็นกำลังใจให้น้าที่เป็นข่าวว่าเมียจ้างหย่าสองแสนนะครับ 555...น้ายังโชคดีนะที่ได้ขนาดนั้น หากเป็นผมละน้าเอ้ย ป่านนี้คงเป็นคนเร่ร่อนแถวสนามหลวงแล้วมั้ง ยังไงก็ขอให้อยู่เพื่อลูกแล้วสู้ชีวิตกันต่อไปนะครับ สำหรับชีวิตคนเรามันก็มีแค่นี้แหละ ในเมื่อเค้าไม่รักเราแล้วก็จงปล่อยเค้าไปตามทางที่เค้าต้องการเถอะครับ จะเอาอารัยมากมายกะชีวิตเนาะ
ส่วนเรื่องของผมนั้นมันก็ไม่มีอะไร หลังจากที่ลาสิกขาออกมาแล้วก็มารักษาตัวและใช้ชีวิตตามปกติ ทำในสิ่งที่ตนเองชอบเช่นเดิม เพิ่มเติมก็คือเราเป็นผู้ใหญ่ขึ้น มีสติมีความคิดที่ใจเย็นและปล่อยวางและเข้าใจในสัจธรรมของชีวิตมากขึ้น เงินที่ถูกล็อตเตอรี่ก็มีพอเหลือเก็บไว้บ้าง เพราะว่าเงินส่วนมากผมจะผันมาเป็นสินทรัพย์และที่ดินเก็บไว้แทน ส่วนรถหรูๆที่เคยซื้อไว้ด้วยกิเลสของความอยากมีผมก็ได้ขายออกหมด เพราะว่ามันไม่จำเป็นต้องมีไว้อวดมั้งอวดรวยให้ใครชม ก็คงเหลือไว้แต่ปิคอัพคันเก่าเพื่อเอาไว้ใช้งานและไปรับลูกชายกับยายเค้าไปเที่ยวเท่านั้น ส่วนกิจการร้านค้าขายส่งที่ผมได้ปิดประกาศขายไว้นั้นก็ด้วยเพราะว่าผมไม่มีเวลาที่จะมาดูแลกิจการเอง สู้ผมขายออกแล้วเก็บเงินสดรวมกันไว้จะดีกว่า
ชีวิตปัจจุบันของผมมันก็ลงตัวแม้จะอยู่เป็นโสดตัวคนเดียวนะจ๊ะ ก็มุ่งเน้นประกอบอาชีพเกษตรกรรมเศรษฐกิจพอเพียงก็ทำนาปลูกผักเลี้ยงปลาไปตามประสา โดยมีรถไถพร้อมอุปกรณ์ที่หาซื้อมาในราคา1,200,000กว่าๆ และรถเกี่ยวข้าวพร้อมอุปกรณ์ลากจูงก็สรรหามาในราคร1,200,000กว่าๆเช่นกัน ก็เอามาไว้เพื่อออกรับจ้างทั่วไปและทำนาของตนเองหล่ะครับ ในปีนี้ผมและพี่ชายก็เตรียมทำนาข้าวทั้งของตนเองและนาเช่าก็อยู่ประมาณ100ไร่ หากฟ้าฝนเป็นใจในปลายปีนี้ผมก็จะมีรายได้จากการทำนาหลังหักค่าใช้จ่ายต่างๆนาๆก็จะอยู่ที่ประมาณไม่ต่ำกว่า300,000บาท จากการเอารถเกี่ยวข้าวออกรับจ้างก็คงจะไม่ต่ำกว่า300,000บาท จากการนำรถไถออกรับจ้างตลอดปีก็จะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า100,000บาทแล้วแต่เวลาว่าง รวมรายได้ต่อปีก็พอมีกินมีเก็บบ้างหลังจากส่งให้ลูกชายทุกเดือนๆละ7,000บาท ตอนนี้ก็กำลังทดลองปลูกดอกดาวเรืองเพื่อตัดออกจำหน่าย พร้อมทั้งกำลังจะขุดบ่อปลาขนาดใหญ่เพิ่มอีก เพื่อเปิดบริการฟิชชิ่งให้คนมาตกปลาช่วงเสาร์อาทิตย์ครับ ส่วนเรื่องการออกบวชแล้วลาสิกขานั้น ที่ผมตัดสินใจออกบวชก็เพราะอยากเอาธรรมมะเข้าข่มจิตใจที่เกิดไฟแค้นข้างใน จนเกือบจะขาดสติกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องเลยหล่ะครับ เพราะว่าปกติผมนั้นมันเป็นคนใจร้อนและชื่นชอบอาวุธปืนมาตั้งแต่เด็ก และส่วนหนึ่งก็อยากออกบวชเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับและดวงวิญญาณที่เคยคอยเคียงข้างคอยช่วยเหลือและปกปักรักษาติดตามกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อนจนผมมีทุกอย่างในวันนี้เพื่อปลดปล่อยให้พวกเค้าได้พ้นทุกข์และไปดี ส่วนการที่ลาสิกขาออกมาเหตุผลหลักๆก็เพราะรักและห่วงลูก พ่วงบวกกลับสังขารมันเจ็บป่วยหนักจนหมอแนะนำให้ลาสิกขาออกมาเพื่อรักษา จนตอนนี้ก็เกือบจะหายเป็นปกติแล้ว ก็คงเหลือแต่โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะที่ผมเป็นมานานตั้งแต่ก่อนจะถูกหวย ก็ค่อยๆรักษาสุขภาพกันไป
ส่วนเรื่องคู่ชีวิต ตั้งแต่เลิกกันกับอดีตภรรยามาผมก็ยังคงไม่ต้องการที่จะมีใครในตอนนี้ ผมรักลูกชายของผมมาก ก็จะขออยู่เฝ้าดูแลลูกชายให้ดีที่สุดก่อนครับ ถามว่าปัจจุบันนี้ผมยังรักอดีตภรรยามั้ย! ก็ขอตอบว่าก็ยังรัก!นะ แล้วจะกลับไปคืนดีกับเค้ามั้ย! ผมก็ขอตอบเช่นเดิมว่าไม่! แล้วถามว่าทำไม? คำตอบและเหตุผลก็จะมีเพียงผมและเค้าเท่านั้นที่รู้ สำหรับตัวผมนั้น จะขอเก็บความรู้สึกดีๆความทรงจำดีๆที่เราเคยเคียงคู่รักกันไว้นิรันดร์ แม้มันจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่แสนสั้นด้วยผมและเค้าในตอนนั้นพึ่งจะอยู่ใช้ชีวิตร่วมกันได้2เดือนกว่าๆแต่จำต้องห่างกัน เพราะเมื่อเค้าท้องได้เกือบจะ3เดือนเค้าก็ขอมารอคลอดที่บ้านแม่เค้า โดยที่เรายังติดต่อกันและผมก็ส่งเงินให้เค้าใช้ทุกเดือน แม้สุดท้ายความห่างไกลจะทำให้ใจคนเปลี่ยน แต่แม้ว่าผมและเค้าจะมีรูปถ่ายคู่กันแค่ใบสองใบ แม้ว่าเราจะไม่เคยได้แต่งงานและจดทะเบียนสมรสกัน แต่ผมก็ยังคงมั่นในสัจจะวาจาว่าจะรักเสมอ หากแม้ปัจจุบันเค้าได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับใครก็ได้ผมก็ยินดีด้วย ขอแต่อย่าทิ้งลูกชายของผมเป็นพอ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ แต่ก็จงหยุด และจงอย่าคิดทำในสิ่งที่เคยทำในตอนนั้นอีกเลย มันไม่มีประโยชน์และจะไม่ได้อะไรเลยจากเรา.....สุดท้ายนี้ผมก็ไม่ได้มีอะไร นอกจากอยากบอกสังคมบ้าๆในปัจจุบันนี้ว่า[พวกคุณไม่มีสิทธิ์ตัดสินผิดถูกในชีวิตของใคร ดั่งเช่นผมและใครๆก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินชีวิตพวกคุณ] ผมหยุดความแค้นทุกอย่างแล้ว พวกคุณไม่หยุดก็แล้วแต่พวกคุณ คนดีๆมาหาผมมีน้ำเย็นๆและน้ำจิตน้ำใจยินดีต้อนรับ แต่กลับกันหากคนเลวๆมาเยี่ยมผมก็พร้อมจะเหี้ยกลับเช่นกัน และอีกอย่าง ตลอดชีวิตผมที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาบ้าง ผมขอสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์แลองค์พระแก้วมรกตว่า ชั่วชีวิตนี้ผมไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดดั่งที่พวกอิจฉาริษยาและมิจฉาชีพที่คอยสร้างข่าวและร่ำรือกัน หากมีญาติหรือลูกหลานของผมที่ไปยุ่งเรื่องพวกนี้ผมก็จะตัดญาติทันทีดั่งเช่นปัจจุบัน บุหรี่ผมก็ไม่สูบ เหล้านั้นก่อนออกบวชผมกินทุกวัน แต่ปัจจุบันหลังจากลาสิกขาออกมาผมก็เลิกเด็ดขาดเพราะต้องรักษาสุขภาพ ส่วนเรื่องเที่ยวผู้หญิงนั้นผมมันคนปอนด์ๆไม่ใช่สายเปย์เพราะเปลืองตังค์ สาวๆนี่พวกเค้าไม่ได้เห็นขาอ่อนของผมมานี่ก็จะ4ปีแล้วมั้ง..555
กลอนแปดแต่งเล่นไหว้นานแล้วนะครับ
ขอฟ้าฝน จงร่ำไห้ ไปกับข้า
ผืนพสุธา จงสะเทือน และเลื่อนไหล
นทีคลั่ง พาพัดกวาด บ้านเมืองไป
จงหมอดไหม้ ประดุจไฟ บันลัยกัณฑ์
สังคมแตก แยกหมูเหล่า ไร้สงบ
เกิดศึกรบ ฆ่ากันเอง ยากเปลี่ยนผัน
ด้วยแรงจิต คำสาปนี้ บังเกิดพลัน
ตราบถึงวัน แสงฟ้าใหม่ ด้วยความดี
ขอบคุณท่านผู้กำกับกิตเตชิษฐ์และรองเก่งที่เคยช่วยชีวิต ขอบคุณพี่ดาบสมชายและเพื่อนๆที่ใช้ไหวพริบในการช่วยเหลือ ขอบคุณพี่โตและแฟนที่ดุจดั่งญาติที่เอื้อเฟื้อ และขอบคุณพี่ๆ ที่แวะมาเยี่ยมเยียนถามไถ่แม้ว่ากระผมจะไม่อยากให้มาทำ ของผมสักครั้งเดียวเลยครับผม5555
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายยงยุทธ แก้วสวนจิก อายุ 42 ปี หรือ “เสี่ยปาน” ที่บ้านหลังหนึ่งในอ.หนองหาน จ.อุดรธานี ที่เคยถูกหวยเมื่อ 4 ปีที่แล้ว งวดวันที่ 16 ก.ย.58 หมายเลข 743148 จำนวน 5 ใบ รวมเป็นเงิน 30 ล้านบาท ผันชีวิตตัวเองจากพนักงานโรงงานเป็นเศรษฐีในพริบตา โดยพบเสี่ยปานกำลังง่วนกับการขับรถไถเพื่อไถกลบตอซังข้าวในที่ดินของตัวเอง และเมื่อพบผู้สื่อข่าวก็อารมณ์ดี และพูดคุยด้วย โดยเสี่ยปานบอกว่า หลังจากถูกหวย 30 ล้านเมื่อ 4 ปีที่แล้วจากนั้นก็ปัญหากับอดีตภรรยาเรื่องเงินถูกหวยจนมีการไปฟ้องศาลสุดท้ายก็จบลงด้วยดี ตอนนี้ตนเองใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านเกิด เงินที่ถูกหวยมาก็แบ่งให้ญาติพี่น้องๆ ทุกคน ซื้อที่ดินจำนวน 30 ล้าน แบ่งให้ภรรยาและส่งเงินให้ลูกชายคนเดียวเดือนละ 7,000 บาท บางส่วนก็นำมาลงทุนซื้อรถไถขนาดใหญ่ รถเกี่ยวข้าวเอาไว้หารายได้ให้กับตนเอง
โดยเสี่ยปานบอกอีกว่า ตอนนี้ตนเองมีความสุขดี แม้ที่ผ่านมาจะป่วยเป็นมะเร็งระยะ 3 แทบจะเอาชีวิตไม่รอด แต่ตอนนี้รักษาหายแล้ว ส่วนเรื่องกับอดีตภรรยาก็ถือว่าจบแล้วหลังจากถูกหวยใหม่ๆ ยอมรับเป็นทุกข์มากเจอมาหลายเรื่องจนอยากจะบวชตลอดชีวิต แต่ช่วงบวชนั้นไปพบหมอตรวจพบเป็นมะเร็งลำไส้จึงจำเป็นต้องสึกออกมารักษาตัวเองจนหายขาด
เสี่ยปานเผยถึงการใช้ชีวิตแต่ละวันว่า ปกติผมจะไม่ค่อยออกไปไหน จะมีก็ออกไปบ้างซื้อกับข้าว ซื้อต้นไม้มาปลูก ส่วนใหญ่จะทำไร่ทำสวนอยู่ในพื้นที่นาของตนเองที่ซื้อเอาไว้ 30 ไร่ปลูกผักหลายชนิดเช่น มะเขือเทศ พริก ดอกดาวเรือง เลี้ยงปลาในบ่อ แต่ช่วงนี้เป็นช่วงมีงานรับจ้างรถไถก็จะออกไปรับจ้างไถที่นากับพี่ชายและหลาน หากถึงหน้าเกี่ยวข้าวก็จะไปรับจ้างเกี่ยวข้าว ผู้สื่อข่าวถามว่ามีเงินเป็นล้านทำไมถึงได้มาทำงานอยู่ ไม่ใช้ชีวิตให้คุ้มไปเลย เสี่ยปานบอกว่า แม้ตนเองจะมีเงินก็ตามแต่เราก็ต้องทำงานเหมือนเดิม ตอนนี้ที่ทำอยู่หลักๆ คือรับจ้างไถนาและรับจ้างเกี่ยวข้าวก็ได้ปีละหลายแสนบาท เสี่ยปานย้อนเรื่องราวถูกหวย 30 ล้านให้ฟังอีกว่า พอผมถูกหวยแล้วเจอเรื่องราวทำให้ทุกข์ใจหลายเรื่องมาก ผมก็ใช้ธรรมะและสติเข้าข่มใจตัวเองตอนนี้เลิกทุกอย่าง ทั้งเหล้า บุหรี่หรือแม้เรื่องผู้หญิงไม่มีอีกแล้ว เสี่ยปานบอกว่ากับอดีตภรรยาคงไปคืนดีกันไม่ได้แต่ที่เป็นแก้วตาดวงใจของตนเองตอนนี้คือลูกชายน้องเกาลัดตอนนี้อายุ 5 ขวบคนเดียวเท่านั้น ส่วนเรื่องหัวใจก็ใช่ว่าจะปิด เปิดรับอยู่หากมีคนเข้าใจเรา อยากได้คนที่เข้าธรรมะกับตนเองได้บ้าง แต่ไม่รู้ใครจะรับตนเองได้หรือเปล่าเพราะหน้าตาไม่หล่อและแต่งตัวไม่เป็น ส่วนเรื่องซื้อหวยตนเองเชื่อว่ายังมีโชคก็ซื้อล็อตเตอร์รี่เอาไว้ทุกงวดเผื่อได้ลุ้นรางวัลที่ 1 รอบ 2 ก็เป็นได้
ตอนท้ายเสี่ยปานได้พูดให้กำลังใจกับนายพิทักษ์ ไขแดง หรือลุงเขียวที่เป็นข่าวถูกเมียทิ้งรายล่าสุด โดยบอกว่า ยังไงก็ขอให้อยู่เพื่อลูกแล้วสู้ชีวิตกันต่อไปนะครับ สำหรับชีวิตคนเรามันก็มีแค่นี้แหละ ในเมื่อเค้าไม่รักเราแล้วก็จงปล่อยเค้าไปตามทางที่เค้าต้องการเถอะครับ จะเอาอารัยมากมายกะชีวิต แต่อยากจะฝากถึงคนหวยรวยโชคว่า ขอให้มีสติในการใช้ชีวิตเพราะเงินตัวเดียวอาจจะทำให้ญาติกลายเป็นศัตรู เมียรักเป็นของคนอื่นได้
ขณะที่นายพิทักษ์ หรือลุงเขียว อดีตสามีที่ถูกเมียถูกหวย 12 ล้านแล้วเกิดระหองระแหงจนหย่ากัน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์สั้นๆ ว่า หลังอดีตเมียออกมาโต้ว่าไม่ได้จ้างหย่า ผู้ชายต้องการหย่าเองและไม่มีเรื่องแอบคบกิ๊ก ลุงเขียวบอกว่า ตนไม่ขอพูดมาก ความจริงก็คือความจริง กาลเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าใครพูดโกหกกันแน่