จบลงด้วยดี! "ป้าบุรีรัมย์" ได้บ้านและที่ดิน 13 ไร่ กลับคืน หลังค้ำประกันรถมอเตอร์ไซค์มูลค่า 8 หมื่นบ้าน ลั่นไม่รู้ข้อกฎหมาย
16 ม.ค. 2563, 14:04
จากกรณีนางวัฒนา คงงาม อายุ 56 ปี ลูกบ้าน ถูกทนายของบริษัทรถแห่งหนึ่งฟ้องยึดที่ดินและบ้านรวมเนื้อที่ร่วม 14 ไร่ ที่บ้านสายโท 2 ใต้ ต.ปราสาท อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ ฐานเป็นคนค้ำประกันรถจักรยายนต์ให้กับเพื่อนบ้าน ในมูลค่าความเสียหายของบริษัท 82,040 บาท และมีการขายทอดตลาด โดยทนายคนฟ้อง เป็นคนซื้อเอาที่เสียเอง จนกระแสสังคมออกมาเรียกร้องให้ทนาย ยอมขายคืนให้ในราคาเป็นธรรม จากที่เคยตั้งราคาไว้ 4 ล้านบาท ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดสภาทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เปิดแถลงการณ์ไกล่เกลี่ยทั้งสองฝ่าย โดยได้ร่วมทำสัญญาต่อกันคือ ทนาย ยอมขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง คืนให้นางวัฒนา ในราคาที่ประมูลจากบังคับคดีคือ 340,000 บาท เท่ากับราคาประมูลได้
นางวัฒนา จะต้องจ่ายเงินคืนให้กับทนาย จำนวนเงินอีก 831,622.37 บาท พร้อมกับค่าทำเนียมที่ทนาย ที่ได้จ่ายไปให้กับธนาคารเพื่อการเกษตรฯระหว่างการไถ่ถอน เนื่องจากที่ดินแปลงนี้นางวัฒนา เอาไปจำน้องไว้ที่ธนาคารฯโดยกำหนดให้ชำระภายใน 3 เดือนนับจากวันทำสัญญาคือวันนี้ รวมถึงค่าทำเนียมในการโอนที่ดินกลับคืน นางวัฒนาจะต้องเป็นผู้จ่ายเองทั้งหมด
นอกจากนี้ ทนายและนางวัฒนา จะต้องร่วมกันชี้แจงข้อเท็จจริงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด ว่าทนายได้ทำด้วยความเป็นธรรมและถูกต้องตามกฎหมาย โดยเฉพาะการเข้าไปซื้อทรัพย์ ผู้ซื้อได้เข้าไปซื้อในนามส่วนตัว ไม่ได้บังคับ ขู่เข็นตามที่เป็นข่าว แต่หากนางวัฒนา ไม่ชำระตามหนังสือสัญญา คือภายใน 3 เดือน จะถือว่านางวัฒนา ไม่ติดใจอะไรกับที่ดินผืนนี้แล้ว ส่วนการฟ้องเรียกค่าเสียหายบุกรุก และการแจ้งความดำเนินคดีบุกรุก ทนายจะทำการถอนทั้งหมด
ด้านทนายความ ได้ออกมาเปิดเผยว่า หลังตกเป็นข่าว ทำให้ตนและทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับความเดือดร้อน เพราะผู้เสพข่าวยังไม่เข้ากระบวนการ ยอมรับตนเป็นทนายที่ว่าจ้างจากบริษัทฟ้องตามกฎหมาย หลังจากศาลมีคำสั่งจนคดีสิ้นสุด ทนายก็หมดหน้าที่ของความเป็นทนาย ส่วนการประมูลทรัพย์ ตนก็ไปประมูลตามระเบียบ ตนไม่คิดอยากได้ที่ดินแปลงนี้ แต่เห็นผ่านการประมูลมาแล้ว 4-5 ครั้ง ยังไม่มีคนซื้อ ตนจึงประมูลเอาด้วยความสุจริต
ทนายความ ยังกล่าวด้วยว่า กรณีป้าที่ให้ข่าวว่า มีการใช้เลห์กล และมีการร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ไม่ให้ป้าคัดค้านนั้น ก็ไม่เป็นความจริง ที่ป้าเห็นคือเจ้าหน้าที่ของบังคับคดีที่เข้าไปดูแลตามหน้าที่ ถึงเวลานี้ส่วนตัวอยากฝากถึงสังคมออนไลน์ ให้ใช้สติในการเสพข่าว ศึกษาข้อกฎหมายให้เข้าใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่อยากจะคิดแค้นใคร และอยากให้ป้าและผู้อยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง กล่าวขอโทษทนายความในจังหวัดบุรีรัมย์ ,สภาทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ รวมถึงสภาทนายความใหญ่ ที่ทำให้ได้รับผลกระทบและเสื่อมเสียองค์กรทนาย
ขณะที่นางวัฒนา คงงาม ได้ออกมากล่าวว่า ตนไม่รู้ขั้นตอนของกฎหมายจริง รวมถึงการให้ข่าวตนก็ให้ไปด้วยความรู้สึก และอยากจะขอโทษทนายที่ ตนทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง//////