ครูวัย 48 ปี น้ำตานอง "หอบโฉนดค้ำเพื่อนครู" กลับไม่ยอมส่งเงินต้นและดอก สามีเครียดจัด! ล้มป่วยเส้นสมองแตก
16 ม.ค. 2563, 19:31
วันนี้ (16 ม.ค.63) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดอุดรธานี ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี ครูอ้อย อายุ 48 ปี (สงวนชื่อและนามสกุล) ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอหนองหาน จ.อุดรธานี ได้ทำหนังสือร้องทุกข์ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี หลังได้รับความเดือดร้อนกรณีถูกเพื่อนครูคนหนึ่ง (ขอสงวนชื่อนามสกุล) เข้ามาตีสนิทขอให้ช่วยหานายทุนปล่อยเงินกู้ให้ ตนหลงเชื่อจึงเอาโฉนดที่ดินจำนวน 30 ไร่ ไปค้ำประกันให้ และหลังจากนั้นก็ไม่มีการส่งเงินต้นและดอกทำให้ได้รับความเดือดร้อน
ครูอ้อย เปิดเผยว่า คู่กรณีซึ่งเป็นครูด้วยกันแต่อยู่คนละอำเภอ มาขอความช่วยเหลือโดยอ้างว่าบ้านกำลังจะถูกบังคับคดียึด พูดจาหว่านล้อมให้หานายทุนเงินกู้ให้เพื่อนำเงินที่ได้ไปไถ่ถอนบ้าน ด้วยความใจอ่อนและอยากช่วยเหลือเนื่องจากรู้จักกันมาได้สักระยะหนึ่งจึงช่วยเหลือ โดยก่อนช่วยเหลือคู่กรณีได้เคยพาไปดูบ้านที่อำเภอบ้านผือและพบว่าที่บ้านพ่อก็ป่วยเป็นความดัน แม่ก็ป่วยเป็นเบาหวาน มีเขาเป็นคนดูแลพ่อแม่ เมื่อเห็นแล้วก็มองว่าเขาเป็นคนกตัญญูประกอบกับตัวเองและสามีเป็นคนขี้สงสารมีความเมตตาที่จะช่วยเหลือจึงเข้าได้ช่วยเหลือ
จากนั้นจึงพาเขาไปหาเงินกับนายทุนทั้งในหมู่บ้านและนอกหมู่บ้านโดยใช้ใบที่นาของตัวเองค้ำประกันให้ เราไปติดต่อขอกู้เงินกับนายทุน 2 ราย รายแรกกู้เงินได้ 110,000 บาท ซึ่งใช้ที่นาซึ่งเป็นมรดกมาค้ำประกันหลังได้เงินมาคู่กรณีก็ทำการส่งดอกประมาณ 8-9 เดือน จากนั้นก็ไม่ทำการส่งอีก นอกจากนี้ยังพาไปกู้กับนายทุนอีกรายที่อำเภอหนองหานโดยไปกู้เงินจำนวน 4 แสนกว่าบาท โดยหลักฐานการกู้ตอนนั้นเขาก็ไม่พร้อมเราจึงให้ยืมหลักฐานเป็นที่นาจำนวน
ส่วนตัวแล้ว อยากได้เอกสารหลักฐานคืน อยากให้คู่กรณีที่เป็นครูคนนี้มารับผิดชอบหนี้ที่ตัวเองก่อไว้เพราะขณะนี้สามีได้ล้มป่วยเพราะเครียดจากเรื่องดังกล่าว ยังไงก็ตามหากคู่กรณีรับรู้ก็อยากให้เข้ามาแก้ปัญหาเข้ามาเคลียร์ปัญหาที่ตัวเองสร้างไว้ ซึ่งตลอดเวลาระยะเวลา 6 ปี ตนพยายามติดต่อทางไปหาที่บ้านโทรศัพท์แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด
ครูอ้อย (นามสมมติ ) บอกอีกว่า เคยพูดคุยกับเจ้าหนี้ เจ้าหนี้ก็อยากจะให้เราร่วมรับผิดชอบเนื่องจากเราเป็นคนพามา แต่เราก็ได้ขอร้องไว้และปฏิเสธว่าเราไม่ได้ใช้เงินกับในส่วนนี้ซึ่งเจ้าหนี้ก็รับรู้และรู้ว่าเราไม่ได้ใช้เงิน ที่ผ่านมาเจ้าหนี้ได้มาพูดคุยขอให้ทางตนโอนที่เพื่อเป็นการชดใช้หนี้แทนให้ แต่เราก็ขอไว้ขอเวลาไว้และเราจะประสานคู่กรณีมาทำการชดใช้หนี้ในส่วนนั้นให้
อยากขอฝากเหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคนว่าอย่าเอาความสงสารเมตตามาช่วยเหลือคน ทั้งๆ ที่เกิดกำลังตัวเอง เราไม่รู้อนาคตล่วงหน้าว่าคนที่เราช่วยเหลือนั้นเขาจะมีความซื่อสัตย์กับเราแค่ไหน มีสัจจะกับเราแค่ไหน ขอฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ทุกๆ คนสุดท้ายไม่จำเป็นอย่าไปค้ำประกันง่ายๆ
ขณะที่สามีคือ นายสุ่ม ชาวโพธิ์หลวง ซึ่งเป็นครูด้วยกันเครียดมากจนเส้นเลือดในสมองแตกต้องนอนรักษาตัวมานานเกือบ 2 เดือนแล้ว ตอนนี้ยอมรับว่าลำบากมากเพราะเงินเดือนครูทั้งสองคนโดนหักไม่เหลือ ของสามีโดนหักเหลือ 400 บาทต่อเดือน ตนเองก็เหลือ 7,000 บาท มาใช้จ่ายในครอบครัวก็หมดแล้ว ความรู้สึกของครอบครัวตนเหมือนเอ็นดูเขาเอ็นเราขาด อยากจะฝากถึงเพื่อนครูทุกคนด้วย ตอนนี้เดือดร้อนอยากได้ที่ดินคืนมาเพื่อมารักษาสามีที่ป่วยและส่งลูก 1 คน เรียนหนังสือชั้น ม.6 วอนผู้หลักผู้ใหญ่กระทรวงศึกษาธิการและผู้ว่าราชการ จ.อุดรธานี ลงมาดูความเดือดร้อนของครูบ้านนอกบ้าง