เมื่อวันที่ 18 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าวONB newsรายงานที่กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 อ.อุเทน จ.นครพนม พ.ต.อ.สิปปนันท์ สรณ์คุณแก้ว ผกก.ตชด. 23 มอบหมายให้ พ.ต.ท.อภิสิทธิ์ รอดน้อย ผบ.ร้อย ตชด.237 ร่วมกับเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง แถลงการณ์จับกุมขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติ มี นายกำพล อินแสงแวง อายุ 24 ปี ชาว อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม และนาย อนุสรณ์ ทองล้วน อายุ 28 ปี ชาว อ.เมือง จ.สกลนคร พร้อมของกลางกัญชาอัดแท่ง จำนวน 155 แท่ง น้ำหนักแท่งละประมาณ 1 กิโลกรัม ห่อด้วยกระดาษฟอยล์ สีทอง เชื่อว่าเป็นกัญชาคุณภาพเกรดเอ นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ใช้กระทำความผิด คือ รถยนต์อีซูซุ สีบรอนฟ้า ทะเบียน 2ฒย -7737 กทม. โดยจับกุมได้หลัง เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า จะมีการลักลอบขนกัญชานำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน สปป.ลาว ซึ่งอาศัยช่วงน้ำโขงแห้งเกิดสันดอนทราย เป็นพื้นที่กว้าง เอื้อต่อการลักลอบขนกัญชามาพัก ไว้ส่งต่อเข้าไทย อีกทั้งช่วงนี้ น้ำโขงแห้ง เป็นอุปสรรค ต่อการลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่ ทำให้ มีการลักลอบนำเข้าบ่อยครั้ง จนกระทั่งมีการสกัดจับกุมได้ ขณะขบวนการค้ากัญชาข้ามชาติ กำลังลำเลียงกัญชาบรรทุก ใส่รถ บริเวณป่าละเมาะ เขต ต.นาคำ อ.สรีสงคราม จ.นครพนม เพื่อส่งต่อไปขายตอนในของประเทศ แต่ถูกสกัดจับกุมได้

เบื้องต้นจากการสอบสวน ของเจ้าหน้าที่ ผู้ต้องหา ได้รับสารภาพว่า ได้ติดต่อจากนายทุน ได้ค่าจ้าง คนละ 10,000 บาท โดยจะลำเลียงขนกัญชามาจาก ชายแดนแม่นช้ำโขง เพื่อนำมาพักรอการส่งต่อในพื้นที่ อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซึ่งจะมีคนมารับช่วงต่อ แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้เร่งสอบสวนขยายผล ติดตามผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ส่วนกัญชาดังกล่าวจากการตรวจสอบพบว่า เป็นกัญชาเกรดเอ คุณภาพสูง และมีสภาพใหม่ เชื่อว่าพึ่งเก็บเกี่ยว โดยเจ้าหน้าที่จะได้เพิ่มมาตรการเข้มในการสกัดกั้นปราบปรามจับกุมตามแนวชายแดน เนื่องจากมีการลักลอบบ่อย ครั้ง โดยจากข้อมูลการจับกุมในช่วงปีที่ผ่านมา พื้นที่ จ.นครพนม มีการตรวจยึดจับกุมกัญชามากกว่า 6 ตัน ส่วนราคาซื้อขายตามแนวชายแดน จะมีการซื้อขายกิโลกรัมละประมาณ 5,000 บาท หากส่งต่อไปขายจะมีราคาสูง ประมาณกิโลกรัมละ ประมาณ 15,000 บาท ถึง 20,000 บาท