ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ออกประกาศให้ทุกพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมา งดจากกิจกรรมการเผาพืลผลทางการเกษตร รวมถึงการเผาขยะมูลฝอย จนทำให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงเกินมาตรฐานอย่างต่อเนื่องมานานนับสัปดาห์ คุณภาพอากาศเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยทั่วไปแล้วนั้น

จากการลงพื้นที่บ้านหนองบัวโคก ตำบลเทพาลัย อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา พบกับกลุ่มเกษตรกรที่มีการปรับตัวไม่เผาใบอ้อยก่อนทำการตัด ซึ่งจากการสอบถามทราบว่าเป็นแรงงานตัดอ้อยในพื้นที่ โดยคิดค่าแรงตัดอ้อยสดกองล่ะ 20 บาท ซึ่งถ้าเป็นอ้อยไฟไหม้ซึ่งตัดง่ายกว่าที่ราคากองล่ะ 10 บาท ซึ่งการตัดอ้อยสดจะยุ่งยากกว่าเนื่องจากต้องตัดสางใบอ้อยออกก่อนถึงจะตัดได้ ทำให้แรงงานส่วนใหญ่มักจะเลือกตัดอ้อยไฟไหม้ก่อนเป็นอันดับแรก แต่เมื่อคิดเฉลี่ยรายได้แล้วจะอยู่ระหว่าง 200-300 บาทใกล้เคียงกัน ทำให้แรงงานส่วนใหญ่มักจะเลือกตัดอ้อยไฟไหม้โดยปฏิเสธการตัดอ้อยสด ซึ่งถ้าราคายังคงใกล้เคียงกันเช่นนี้ก็เป็นการยากที่จะแก้ปัญหา

ส่วนหนึ่งที่เกษตรกรเริ่มหันมาตัดอ้อยสดกันมากขึ้นเนื่องจากจะสามารถลัดคิวส่งเข้าโรงงานน้ำตาลได้ก่อนอ้อยที่ผ่านการจุดไฟเผาใบมา และไม่ถูกหักค่าไฟไหม้อีกตันล่ะ 30 บาท นอกจากนี้หลังจากหมดฤดูหีบอ้อยก็จะมีเงินตามสมทบอีกตันล่ะ 50-100 บาท รวมถึงเป็นการรักษาสภาพแวดล้อมไม่เป็นหนึ่งในตัวการสร้างมลพิษในอากาศ แต่ก็อยากให้ทางภาครัฐช่วยเหลือควบคุมราคาอ้อยต่อตันเนื่องจากสถานการณ์ราคาในปัจจุบันที่ 700-900 บาทเกษตรกรแทบจะไม่ได้กำไรเท่าที่ควร มิหนำซ้ำยังถูกภัยแล้งเล่นงานทำให้อ้อยปีนี้มีปริมาณลดลง จึงอยากให้เข้ามาช่วยดูแลเกษตรกรในจุดนี้ด้วย