วันที่ 21 มกราคม 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย นายผล ดำธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายไพฑูรย์ โกเมนท์ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดชลบุรี นายทินกร สุทิน ผู้อำนวยการโครงการชลประทานชลบุรี นายพงศ์ธสิษฐ์ ปิจนันท์ หัวหน้ากลุ่มยุทธศาสตร์และการจัดการ รักษาราชการแทนหัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี และนักบิน ได้ปฏิบัติภารกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติ (ภัยแล้ง) ปี2563 โดยได้ทำการขึ้นเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์การเกษตร ของกรมฝนหลวงและการบินเกษตร ณ กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ฯ จังหวัดชลบุรี เพื่อสำรวจแหล่งน้ำตามอ่างเก็บน้ำและที่แหล่งน้ำดิบทั่วพื้นที่จังหวัดชลบุรี และนำมาวางแผนเตรียมการเฝ้าระวังและให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรและประชาชน ที่อาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง โดยใช้เวลากว่า 1 ชม.

นายภัทรธรณ์ เทียนไชย ผวจ.ชลบุรี กล่าวว่า วันนี้ ได้บินสำรวจอ่างเก็น้ำและแหล่งน้ำดิบทั่วทั้ง 11 อำเภอ จ.ชลบุรี พบว่า บินไปสำรวจที่อ่างเก็บน้ำบางพระ อ.ศรีราชา เป็นอ่างเก็บน้ำที่สำคัญที่สุดของ จ. มีความจุที่ 117 ลบ.เมตร ซึ่งยังมีปริมาณเหลืออยู่ที่ 40 เปอร์เซ็นต์ แต่บินขึ้นไปดูบริเวณแหล่งเก็บน้ำที่แทบ อ.บางละมุง เมืองพัทยา น้าห่วง มีปริมาณน้ำเหลืออยู่ประมาณ 26 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

ส่วนพื้นที่มีต้นไม้ที่อยู่ในสภาพสีเหลืองอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากนัก ต้นไม้ที่มีสภาพเป็นสีเขียวยังมีอยู่อีกมาก บินไปดูที่เกาะล้านกับเกาะสีชัง พบว่าต้นไม้เป็นสีเหลืองหมดแล้ว แต่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวเป็นจำนวนมากอยู่

ซึ่งตนไปก็เพื่อบินไปสำรวจและหาทางแก้ไข ไม่ให้เกิดสถานการณ์ภัยแล้งขึ้น จ.ชลบุรีเพราะน้ำสามารถใช้ได้ถึงประมาณสิ้นเดือิน มิถุนายน หากฝนไม่ตกเลย ได้มีการเตรียมกับหน่วยต่างๆ จะมีการผันน้ำจาก จ.ระยอง จ.ฉะเชิงเทรา เข้ามาเพื่อแก้ไขสถานการณ์ ไม่ให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำอยู่แล้ว

นอกจากนี้ ยังได้เจรจากับบริษัทขายน้ำของเอกชนไว้ เสมือนการับจองว่า หากน้ำไม่เพียงพอต่อการบริโภคเมื่อไหร่ ก็จะสามารถซื้อน้ำดิบจากเอกชน ให้การประปาไปผลิตน้ำประปาให้ประชาชนได้ใช้อย่างทันท่วงทีอยู่แล้ว

ตนจึงได้ประชาสัมพันธ์ไปยังผู้ประกอบการหรือประชาชนทั่วไป ให้ใช้น้ำอย่างประหยัด เนื่องจากห้วงน้ำสถานการณ์ที่น่าห่วง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะจังหวัดชลบุรีที่เดียว แต่อาจจะเกิดกับทั้งประเทศ ดังนั้น จึงอยากขอให้พี่น้องประชาชนใช้น้ำกันอย่างจำเป็น และประหยัดที่สุด

ส่วนทางเรื่องสำนักงานเกษตรและสหกรณ์ จ.ชลบุรี ก็ได้เตรียมเรื่องฝนหลวงไว้ ในต้นเดือนหน้า จะไปตั้งที่ สนามบินอู่ตะเภา อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อช่วยให้ฝนตกลงมา ดังนั้นจึงอยากจะบอกให้พี่น้องประชาชนได้ทราบว่า จ.ชลบุรี ได้มีการดเตรียมการณ์และป้องกันสถานการณ์ภัยแล้งกันอย่างเต็มที่อยู่แล้ว ฉะนั้นประชาชนไม่ต้องห่วง ขอเพียงแต่ให้ร่วมกันช่วยประหยัดน้ำก็พอ จะได้ไม่ต้องกังวลว่าน้ำของ จ.ชลบุรี จะขาดแคลน

ส่วนการแก้ไขระยะยาวเรื่องแหล่งน้ำดิบ คือ 1 ต้องหาวิธีเพิ่มความจุของอ่างเก็บน้ำ หรือแหล่งน้ำต่าง 2 เชื่อมต่อท่อของอ่างเก็บน้ำ เพื่อที่จะได้ผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำที่ล้นไปสู่อ่างเก็บน้ำอื่นในจังหวัดชลบุรี อีกด้วย ผวจ.ชลบุรี กล่าวท้ายที่สุด

จังหวัดชลบุรี มีพื้นที่ชลประทาน 3 แห่ง รวม 100,690 ไร่ พื้นที่เพาะปลูกเป็นนาข้าว บ่อปลา บ่อกุ้ง อื่น ๆ มีอ่างเก็บน้ำ 14 แห่ง ประตูระบายน้ำหรือฝาย 1 แห่ง โครงการชลประทานชลบุรี วางแผนเพาะปลูกพืชฤดูแล้ง 2562 -63 จำนวน 12,085 ไร่ เป็นพื้นที่ชลบประทานที่มีอ่างเก็บน้ำ 1 แห่ง ไม้ผลไม่ยืนต้น 225 ไร่ เป็นพื้นที่ที่ไม่มีอ่างเก็บน้ำ หรือฝายจำนวน 1 แห่ง เป็นบ่อปลาบ่อกุ้ง 11860 ไร่

แผนคามต้องการใช้น้ำในฤดูแล้ง โครงการชลประทานชลบุรี เป็นพื้นที่ชลประทานอ่างเก็บน้ำ 1 แห่ง มีความต้องการใช้น้ำปริมาณเดือนละ 60000 ลบ.ม.ต่อเดือน ปริมาณน้ำเพื่อการเกษตรเพียงพอต่อฤดูแล้ง โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาคลองหลวง รัชโลทร มีความต้องการใช้น้ำปริมาณเดือนละ 7 ล้าน ลบ.ม.ต่อเดือน และขณะนี้หยุดส่งน้ำเดือน เพราะเก็บพืชผลหมดแล้ว

แต่การใช้น้ำเพื่อกิจกรรมอื่น อุปโภคบริโภค อุตสาหกรรมและรักษาระบบนิเวศน ยังคงมีความติ้งการใช้น้ำมาก ในเขต จ.ชลบุรี โดยบริมาณน้ำ ในอ่างเก็บน้ำ เมื่อ 1 พ.ย.62 รวมปริมาณ 162 ล้าน ลบ.ม. (55 เปอร์เซ็นต์ ความจุเก็บกัก)  เมื่อเทียบกับปีก่อน รวมปริมาณ 262 ล้าน ลบ.ม. (89 เปอร์เซ็นต์ ความจุเก็บกัก) จึงต้องใช้มาตรการประหยัดน้ำ หรือลดการใช้น้ำลง เพื่อขยายเวลา จนกว่าจะเข้าฤดูฝน

สรุป พื้นที่ ชลประทานในเขตชลบุรี ในช่วงฤดูแล้ง ปี 2562-63 มีปริมาณน้ำเพียงพอ แต่ต้องใช้มาตรการ ประหยัดน้ำ หรือลดการใช้น้ำลง เพื่อขยายเวลา จนกว่าจะเข้าฤดูฝน