"ชมรมผู้เลี้ยงไก่แจ้เมืองกาญจน์" จัดการแข่งขันไก่แจ้ ครั้งที่ 1 บรรยากาศคึกคัก
23 มิ.ย. 2562, 15:18
วันนี้ (23 มิ.ย. 2562) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่บริเวณสวนป่าวัดเทวสังฆราม (วัดเหนือ) อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ได้มีชมรมผู้เลี้ยงไก่แจ้เมืองกาญจน์ นำโดย นายปิยะ สาระสาลิน ประธานชมรมคนรักษ์ไก่แจ้เมืองกาญจน์ เป็นผู้จัดการแข่งขัน จุดกิจกรรมนี้โดยมี นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ สมาชาสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกาญจนบุรี เดินทางไปร่วมกิจกรรมการแข่งขันไก่แจ้ในครั้งนี้ด้วย และมีบรรดาผู้รักษ์ไก่แจ้สายพันธุ์พื้นเมืองจากหลายจังหวัด ต่างพาครอบครัวอุ้มไก่แจ้ ไปร่วมลงสนามเพื่อร่วมการแข่งขันกันอย่างคึกคัก โดยการแข่งขันในครั้งนี้ไก่ใครชนะตามกติกาจะได้รางวัลทองคำเงินรางวัล และถ้วยรางวัลกลับบ้านไป นอกจากนี้ทุกคนยังได้ร่วมทำบุญให้กับทางวัดเทวสังฆราม เนื่องจากเงินรายได้จะนำไปถวายทางวัดเพื่อนำไปใช้จ่ายของวัด อีกด้วย
โดยบรรยากาศก่อนนำไก่ขึ้นคอ หรือแท่นที่จัดทำให้ไก่ได้ยืนเกาะ ซึ่งจะขึ้นครั้งละ 28 ตัว ทางกรรมการได้กล่าวกับเจ้าของไก่ที่นำไก่ไปแข่งขัน ได้ทราบกติกาก่อน เมื่อเจ้าของไก่ทราบ กติกาแล้วจะต้องปฏิบัติตาม หากผิดกติกา ทางกรรมการจะตัดสิทธิ์ให้แพ้การแข่งขันในทันที เช่น ห้ามส่งเสียงเชียร์ไก่ของตนเองเด็ดขาด โดยปล่อยให้ไก่แต่ละตัวส่งเสียงขันเอง โดยกรรมการจะลงคะแนนว่าไก่ตัวใดขันกี่ครั้งตามที่ได้กำหนดเวลาไว้ คือยกละ 5 นาที แล้วให้ไก่พัก เจ้าของไก่ก็จะให้น้ำไก่ของตนเองได้ ซึ่งไก่จะขึ้น คอ ส่งเสียงขันแข่งขัน 5 ยก ส่วนไก่ขันเสมอกัน ก็จะต้องให้มีการแข่งขันกันต่อเพื่อหาผู้ชนะ และการแข่งขันแบบนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามกติกาที่วางไว้ทุกประการ
และบรรยากาศอีกรูปแบบคือ เจ้าของไก่สามารถส่งเสียงเชียร์ได้ โดยออกท่าทางและเสียงให้ไก่ของตนเองขัน แบบนี้เจ้าของไก่เชียร์กันมันหยด กว่าจะหมดเวลาตามกติกาที่วางไว้ คือครั้งละ 5 นาที ไก่ใครขันได้มากกว่าก็ชนะคว้ารางวัลกันไป ซึ่งการแข่งขันแบบนี้สร้างสีสันให้มากกว่าปล่อยให้ไก่ส่งเสียงขันเองเป็นอย่างมาก โดยเจ้าของไก่เชียร์กันมันส์กว่าการเชียร์การแข่งขันเรือ หรือการเชียร์การชกมวยเสียอีก เชียร์กันจนเสียงแหบเสียงแห้งไปตามๆ กันเลยทีเดียว
โอกกาสนี้ นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.เมืองกาญจน์ ได้กล่าวว่า ตนเองเห็นดีด้วยกับการจัดกิจกรรมแบบนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์ไก่แจ้ สายพันธุ์พื้นบ้านเอาไว้ ซึ่งก็เห็นในปัจจุบันประชาชนหันมาเลี้ยงไก่แจ้ กันเป็นจำนวนมาก และอยากผลักดันให้มีการจัดตั้งเป็นกลุ่มการเลี้ยงไก่แจ้ เพื่อได้มาแลกเปลี่ยนความรู้ของไก่ แต่ละสายพันธุ์กันมากขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการให้เยาวชนได้หลีกเลี่ยงไปยุ่งเกี่ยวเรื่องยาเสพติด ซึ่งในปัจจุบันสร้างปัญหาต่อสังคมมากทุกวันนี้ อีกทั้งอยากฝากไปยังผู้ที่เลี้ยงไก่แจ้ ที่พอจะมีฐานะลงมาสนับสนุนเรื่องการเลี้ยงไก่แจ้ เพื่อจะได้สร้างสรรค์ให้กิจกรรมไก่แจ้ นี้เติบโตมากกว่านี้ต่อไป
นายปิยะ สาระสาลิน ประธานชมรมผู้เลี้ยงไก่แจ้ กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อให้เยาวชนรุ่นใหม่ได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม ห่างไกลยาเสพติด อีกทั้งยังอยากเห็นให้มีการอนุรักษ์สายพันธุ์ไก่แจ้ให้อยู่คู่ท้องถิ่น และเยาวชนเหล่านั้นได้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ ไม่ใช้เวลาไปแข่งรถตามถนน หรือไปมั่วสุมยาเสพติด ให้สังคมเกิดความเสียหาย นอกจากนี้ยังมีโครงการตั้งชมรมการรักษาไก่แจ้พื้นเมืองของจังหวัดกาญจน์ และหากโอกาสหน้าอยากจะมีการแข่งขัน เพื่อนำรายได้ไปมอบแก่โรงเรียนเด็กด้อยโอกาส หรือบ้านที่มีเด็กไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้หากมีโอกาสก็จะเร่งดำเนินการเรื่องนี้ต่อ