อุทาหรณ์! หนุ่ม 15 ป่วยมีไข้ ปวดหัว เบื่ออาหาร ผื่นขึ้น รู้ทีหลังเป็นโรคติดต่อจากการจูบ
23 ม.ค. 2563, 14:18
เมื่อวานนี้ (22 ม.ค.63) เฟซบุ๊ก Arak Wongworachat ของ นพ.อารักษ์ วงศ์วรชาติ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้โพสต์เตือนโรคติดต่อจากการจูบ หรือ โรคโมโนนิวคลิโอซิส หลังพบผู้ป่วยเป็นชายอายุ 15 ปี เข้าพบแพทย์ด้วยโรคนี้
โดย นพ.อารักษ์ ได้ระบุว่า "ผู้ป่วยชายอายุ 15 ปี มาด้วย 7 วันก่อนมีไข้ ปวดหัว อ่อนเพลีย เจ็บคอ เบื่ออาหาร เหงื่อออกตอนกลางคืน เหมือนคล้ายจะเป็นหวัดซื้อยากินเองไม่ดีขึ้น ไปหาหมอที่คลินิกแพทย์ตรวจร่างกายส่องในคอบอกว่ามีหนองเป็นทอนซิลอักเสบ จึงให้ยาต้านเชื้อแบคทีเรียไปกิน
วันต่อมามีผื่นขึ้นเต็มตัวตั้งแต่หน้า คอ หน้าอก หลัง จึงไปพบแพทย์อีกครั้งกังวลว่าแพ้ยา แพทย์ที่คลินิกเห็นว่าคนไข้อ่อนเพลียมากจึงส่งเข้าโรงพยาบาลสิชล รับคนไข้ตรวจเพิ่มเติมพบต่อมน้ำเหลืองโตที่คอ ม้ามโต ไม่ซีด ไม่เหลือง
ตรวจเม็ดเลือดพบว่ามีเม็ดเลือดขาวสูง12,800 cells/mm*3 มีlymphocyte50%monocyte5%atypical lymphocyte7% เข้าได้กับโรคโมโนนิวคลิโอซิส
โรคโมโนนิวคลิโอซิส เป็นโรคที่เรียกกันว่า โรคติดต่อจากการจูบ ซึ่งเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเอ็บสไตบาร์ (Epstein-Barr Virus: EBV) ที่สามารถแพร่กระจายผ่านทางน้ำลาย การไอ หรือการจาม ในเบื้องต้นผู้ป่วยจะมีไข้ เจ็บคอ และรู้สึกอ่อนเพลีย เมื่อเป็นแล้วมักจะค่อย ๆ หายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ โดยโรคนี้เกิดขึ้นได้กับทุกช่วงอายุ แต่ส่วนมากเกิดในวัยเด็กไปจนถึงวัยรุ่น
วิธีป้องกันคือหลีกเลี่ยงการจูบกับผู้ที่มีเชื้ออยู่ในร่างกาย ใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหาร ไม่ใช้แก้วน้ำร่วมกับผู้อื่น รวมถึงผ้าเช็ดหน้า หรือของใช้ส่วนตัวต่างๆ พยายามหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับน้ำลายหรือเสมหะของผู้อื่น ส่วนตัวผู้ป่วยเองก็พยายามหลีกเลี่ยงการแพร่เชื้อโรคไปยังผู้อื่นด้วยเช่นกัน"