คนบันเทิงแห่ให้กำลังใจ คุณยายบรรเจิดศรี นอนโรงพยาบาล 18 วัน ยังเดินไม่ได้
23 ม.ค. 2563, 15:33
จากกรณี นักแสดงอาวุโส คุณยายบรรเจิดศรี ยมาภัย วัย 95 ปี ล้มป่วยเข้าโรงพยาบาล มีคนในวงการมาเยี่ยม อาทิ กวาง กมลชนก , กบ สุวนันท์ ,ไก่ วรายุฑ
ล่าสุด แดง ศัลยา ผู้เป็นลูกสาว อัปเดทอาการ เล่าว่า
ตอนนี้พาแม่กลับบ้านแล้ว ยังเดินไม่ได้แต่พลิกตัวขยับตัวได้ ทำกายภาพ กินอาหารบำรุง ฉีดยาเพิ่มมวลกระดูก กินแคลเซียม พ่นยาป้องกันกระดูกพรุน ทำสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด แม้มีความหวังน้อยนิดเพราะมวลคงไม่เพิ่มเท่าไหร่ด้วยว่าคงพรุนจนไม่มีที่จะพรุนอีกแล้ว
วันแรกที่กลับถึงบ้านต้นข้าว ขึ้นไปนอนแนบข้างแม่ซบไหล่แม่และลูบไล้แก้มแม่ไปมา บอกว่าคุณย่าหายหรือยังต้นข้าวคิดถึงคุณย่ามาก แม่ไม่อยู่บ้าน 18 วันเค้าก็คงคิดถึงจริงๆคิดถึงแก้มเหี่ยวๆที่เคยบีบเล่นทุกวัน
ต้นข้าวมีหน้าที่ประจำวันคือทา ครีมที่มือแม่และหน้าที่นวดขาแม่ และวิ่งบอกว่าคุณย่าตื่นแล้วคุณย่าหลับอยู่คุณย่าปวดท้องและอื่นๆ แม่สดชื่นกับกิจกรรมของต้นข้าวมาก คราไหนที่แม่หงุดหงิดและอารมณ์ไม่ดีจากการที่ต้องนอนทั้งวัน เราก็ส่งต้นข้าวเข้าไปหา อารมณ์ดีขึ้นทันควันยิ้มแย้มหัวเราะได้
อาการของแม่ตอนนี้คือปวดหลังเป็นระยะๆวิธีเดียวที่รักษาอยู่คือกินยาแก้ปวดจนทำให้กังวลว่าจะมีผลต่อไตหรือไม่แต่หมอที่รักษาบอกว่ายาแก้ปวดสามชนิดที่ให้กินนี้ไม่มีผลต่อไตอย่างแน่นอน จึงคลายวิตกลงได้
เรื่องเดียวที่เป็นห่วงคือแผลกดทับซึ่งหลีกเลี่ยงได้ยากสำหรับคนเจ็บที่ต้องนอนอยู่เกือบตลอดเวลา ดังนั้นจึงต้องระวังกันเป็นพิเศษนั่นคือไม่ใส่แพมเพอร์สให้แม่ต้องหมักหมมอยู่กับความอับชื้น เรามีกันอยู่สามคนที่ดูแลแม่ผลัดเปลี่ยนกันให้แม่ขับถ่ายทั้งเบาและหนักเป็นเวลา และชำระล้างจนสะอาดและซับจนแห้งสนิท ฝนแม่ของต้นข้าวกับเด็กอีกคนหนึ่งทำในช่วงกลางวัน ส่วนกลางคืนลูกนอนกับแม่เป็นคนทำเอง ผลคือน้ำหนักลดซึ่งลูกแสนจะดีใจ
แม่เจ็บครั้งนี้มีกำลังใจส่งให้เรามากมาย ทั้งดอกไม้ทั้งของกินที่ส่งไปเยี่ยม ทั้งพาตัวไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลนับเป็นความอุตสาหะเพราะไปยากเย็นที่จอดรถไม่มี มีแฟนละครของแม่ส่งข้อความให้แม่หายเร็วจำนวนมากจริงๆ น่าจะเป็นความชื่นหัวอกหัวใจให้คนแก่ที่เล่นละครมาเกือบครึ่งชีวิต กัลยาณมิตรหลายคนไต่ถามอาการคืบหน้าของแม่อย่างสม่ำเสมอ ส่งยา ส่งของใช้สำหรับคนเจ็บ ส่งอาหารให้พวกเราที่พยาบาลแม่ บางคนอยู่ต่างจังหวัดก็ส่งตัวแทนมาเยี่ยมหรือส่งของมาให้ จดหมายและคำอวยพรจากเพื่อนที่อยู่ไกลก็ถูกส่งมา
สิบแปดวันที่โรงพยาบาล ทั้งหมอและพยาบาลรักษาดูแลแม่อย่างดียิ่ง อาชีพนี้เปิดทางกุศลจริงๆ ยิ่งคนที่มีหัวใจเมตตากรุณาอยู่แล้วเชื่อว่าเขาคงอิ่มในความสุขที่ได้ช่วยเหลือปัดเป่าความเจ็บปวดของผู้คน แม่อยู่สองโรงพยาบาลคือกรุงเทพคริสเตียนที่แม่เป็นคนไข้เก่าแก่มาห้าสิบปีเห็นจะได้ กับวชิระพยาบาลที่แม่เป็นคนไข้ใหม่ การย้ายจาก โรงพยาบาลเอกชนไปอยู่โรงพยาบาลของรัฐซึ่งเป็นสิ่งที่ยากเย็นด้วยระบบราชการ มีน้องรักคนหนึ่งที่จัดการทุกสิ่งช่วยเหลือให้สิ่งนี้ทำได้สำเร็จภายในวันเดียวและด้วยความอนุเคราะห์ของเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลของรัฐด้วยเห็นความจำเป็นที่ต้องลดค่าใช้จ่าย เราขอบคุณมาอย่างมาก
น้องรักคนหนึ่งส่งบทสวดมนต์ บอกมาว่าไม่ใช่สวดขอให้แม่หายแต่สวดให้เกิดสันติในใจและจะเพิ่มพลังให้มีกำลังใจสู้ สวดดังๆเพื่อให้เสียงสูงต่ำเกิดคลื่นของอารมณ์ที่เพิ่มความแข็งแกร่ง เวลานี้ทุกคืนเมื่อทำทุกสิ่งให้แม่เสร็จพร้อมเข้านอน ลูกจะทำใจให้สงบและเริ่มต้นสวดช้าๆเปล่งเสียงให้ชัดเจนที่สุด แม่ได้ยินชัดแค่ไหนไม่ถาม จนแม่หลับไป ทุกครั้งที่สวดจบใจที่มักจะคิดฟุ้งซ่านหวั่นไหวกับหลายเรื่องจะสงบและทำงานได้
ขอส่งความซาบซึ้งและประทับใจถึงทุกคนที่ทำให้รู้ว่ามนุษย์เรานั้นเมื่อจิตใจดิ่งอยู่ในความหมองเศร้า ความวิตกกังวลและความสิ้นหวัง กำลังใจจากคนที่รักเราและห่วงใยเรานั้นยิ่งใหญ่และมีความหมายเพียงใด “
ภาพ :kwang.kamolchanok Salaya Sukanivatt