"บิ๊กป้อม" ถกคกก.สิ่งแวดล้อม ย้ำแผนวาระแห่งชาติแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง
23 ม.ค. 2563, 20:07
วันนี้ ( 23 ม.ค.63 ) เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมอารีย์สัมพันธ์ ชั้น 3 กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ถนนพระราม 6 เขตพญาไท กรุงเทพฯ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2563 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการขนส่งทางบก กรมโรงงานอุตสาหกรรม กรุงเทพมหานคร ฯลฯ โดยมี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศาสตราจารย์นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย
ภายหลังการประชุม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมวันนี้เพื่อสั่งการและกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติไปแล้ว และบังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่อย่างเคร่งครัดตามแผนฯ ที่กำหนดไว้ โดยเฉพาะให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจจับรถยนต์และรถโดยสารที่ปล่อยควันดำอย่างจริงจังครอบคลุมทุกพื้นที่ (โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจบูรณาการร่วมกันระหว่างกรมการขนส่งทางบก กรมควบคุมมลพิษ และกรุงเทพมหานครในดำเนินการดังกล่าว) รวมทั้งให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตั้งคณะทำงานและวอร์รูม (War Room) ติดตามสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 อย่างใกล้ชิด และรายงานชี้แจ้งข้อมูลและสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนได้เข้าใจอย่างถูกต้องเกี่ยวกับสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 เพื่อให้ประชาชนได้ปฏิบัติตัวเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น
อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรี ได้ย้ำว่าขณะนี้รัฐบาลได้ดำเนินการทุกอย่างเป็นไปตามแผนฯ ในแต่ละระดับที่กำหนดไว้สอดคล้องสถานการณ์ค่าความเข้มข้นของฝุ่นละออง PM 2.5 พร้อมให้มีการเพิ่มจำนวนอุปกรณ์ในการตรวจวัดควันดำให้เพียงพอในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้มีการติดตามการดำเนินงานอย่าต่อเนื่องให้การปฏิบัติเป็นไปตามเป้าหมายและแผนที่กำหนดไว้ ส่วนกรณีที่มีการเผาต่าง ๆ รวมถึงการเผาไร่อ้อยนั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของผู้ว่าราชการจังหวัดในแต่ละพื้นที่พิจารณาสั่งการและดำเนินการตามที่กำหนดการไว้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง และให้เจ้าหน้าที่ทำงานร่วมกับประชาชนทุกฝ่ายเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ให้ลดน้อยลง ทั้งนี้ หากสถานการณ์ระดับที่ PM 2.5 มากกว่า 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือเข้าขั้นวิกฤต นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานด้วยตนเอง