"นุ๊ก สุทธิดา" เปิดหมดใจ ปมอดีตสามี ไม่ส่งเสีย เงินค่าเลี้ยงดูลูก
27 ม.ค. 2563, 14:41
นุ๊ก สุทธิดา เกษมสันต์ ณ อยุธยา เปิดใจ ถึงประเด็นที่เจ้าตัวโพสต์ข้อความผ่านโลกโซเชียลฯ ในทำนองว่า อดีตสามีไม่เคยส่งเสียค่าเลี้ยงดูลูก รวมไปถึงค่าเทอม ทั้งๆ ที่ตามกฎหมายแล้วผู้เป็นพ่อและแม่ต้องช่วยกันดูแล
เรื่องค่าเลี้ยงดู ตอนนี้ก็คือเราเป็นคนดูแลส่งคนเดียว ?
"จริงๆ ก็เลี้ยงดูเขามาตั้งนานแล้ว ไม่ได้คิดอะไร เพียงแต่ว่าอยากให้วันหนึ่งที่เราโพสต์ไปเพราะเราชื่นชมในตัวเขา และอยากให้รู้ว่าทั้งหมดทั้งมวลแม่เหนื่อยมากนะ และนุ๊กก็เชื่อว่าที่เขาตั้งใจเรียน เพราะเขารู้ว่าเราเหนื่อยมาก และนุ๊กก็อยากให้เขาระลึกอยู่เสมอเพื่อที่จะเป็นแรงผลักดันให้เขาเดินต่อไป แต่โดยส่วนตัวของเรามันก็ลำบากอยู่แล้วล่ะ คนที่เป็นแม่ทุกคนเลี้ยงลูก ต่อให้มีคุณพ่อช่วยก็ตาม แต่คนไหนที่เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมันจะโดนใจมาก เพราะบางทีมันเหนื่อยมากจริงๆ"
"เราก็ต้องขอบคุณเขานะคะที่เขาทำให้เรารู้จักชื่นชมตัวเอง เพราะเราก็ไม่คิดว่านุ๊ก สุทธิดา เด็กก๊องแก๊งคนหนึ่ง วันหนึ่งจะมีมานะได้ขนาดนี้ บางทีก็แอบมีคิดเหมือนกันนะ คือพอหาเงินได้ก้อนหนึ่งแล้วไปจ่ายค่าเทอมนี่มันวูบเลยนะคะ บางทีก็มองหน้าลูกแล้วก็คิดว่าแกเป็นใคร มาใช้เงินฉันได้ยังไง (หัวเราะ)"
แต่ที่เราโพสต์ว่าตามกฎหมายพ่อเขาก็ต้องช่วยเรื่องนี้ ?
"จริงๆ มันก็ตามกฎหมายนะคะ ที่พูดก็คือเราอยากจะให้รู้ว่ามันไม่มีกฎหมายรองรับ จริงๆ ก็คงไม่ใช่แค่เราครอบครัวเดียว ก็คงเป็นหลายๆ ครอบครัว กฎหมายก็คือพ่อและแม่ต้องช่วยกันอุปการะลูก"
เขาได้ติดต่อพูดคุยเรื่องนี้บ้างไหม ?
"ก็ไม่รู้นะคะ ไม่รู้ว่าเกี่ยวกับโพสต์หรือว่าลูกอ่านแล้วลูกไปคุยก็ไม่รู้นะคะ เขาก็มีมาคุยๆ บ้างเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออะไรนะคะ เขาก็มาคุยๆ มาถามๆ"
เราคาดหวังไหมว่าอยากให้เขามาช่วย ?
"คือถ้าเขาช่วยเราก็รู้สึกแฮปปี้นะคะ ว่าเขายังรักลูก เขายังมีความเป็นห่วงเป็นใยลูก"
โพสต์นี้ตั้งใจบอกเขาหรือเปล่า ?
"เป็นการผลักดันลูกมากกว่า เพราะว่าเราเลิกกันมาเป็น 10 กว่าปีแล้วนะคะ เราไม่ได้หวังขนาดนั้นหรอก เพราะว่ามันคงยากนอกจากจะไปฟ้องร้อง ถ้าจะมาหวังมันคงมีตั้งแต่ปีแรกๆ แล้ว จนเขาโตจะ 18 แล้ว"
เคยคิดจะฟ้องไหม ?
"ตอนนี้ยังนะคะ เพราะเรายังรู้สึกว่าเราส่งไหว แต่ถ้าวันหนึ่งเราเจ็บป่วยล้มตายก็ค่อยว่ากัน (หัวเราะ)"
ตั้งแต่เลิกกันไปไม่ได้คุยกันเลยใช่ไหม ?
"จะเป็นคุณแม่คุยค่ะ เป็นการนัดเจอ นานๆ เขาก็อยากจะมารับลูก นุ๊กก็ไม่ได้ห้ามนะคะ อยากจะให้ลูกไปเจอ เพราะเราสังเกตุได้เลยจากความเป็นแม่ ทุกครั้งที่ลูกกลับมาจากบ้านฝั่งคุณพ่อ เขาจะมีความรู้สึกคิดถึงมากจนเราดูรู้เลย ปีโป้จะคุยทุกอย่างให้ฟังที่ปกติเด็กผู้ชายเขาจะไม่ค่อยคุยอะไร แต่เขาก็จะเล่าว่าอาม่าซื้ออันนั้นอันนี้ให้กิน ป๊ะป๊าทำอันนี้ให้อะไรอย่างเนี้ย หรือเวลาเราไปทำงานเขาก็จะโทรมาเล่าให้ฟังยาวเลย"
บ่อยแค่ไหนที่เขาได้ไปหาคุณพ่อ ?
"โดยเฉลี่ยก็น่าจะปีละไม่เกิน 3-4 ครั้งค่ะ"
ต้องมีคุณแม่เราไปด้วยทุกครั้งไหม ?
"ส่วนมากก็จะนัดรับกันค่ะ"
เราต้องเลี้ยงลูกทั้ง 3 คนมันหนักขนาดไหน ?
"คือเวลาเราดูลูกคนเดียวมันก็ไม่ได้มีเวลาไปหาเงิน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะต้องทั้งหาเงินและแบ่งเวลาอยู่กับเขาตามที่เขาต้องการ เพราะบางทีเด็กก็โตเป็นหนุ่มแล้ว เขามีช่วงเวลาที่เขาต้องการเรา เราก็ไม่อยากให้เขาไปได้ตรงนี้จากเพื่อนๆ เขาควรจะได้จากเรา ก็ต้องหาเวลาทำงาน หาเวลาอยู่กันเขาและดูแลบ้านด้วย ถ้าถามว่าหนักหน่วงไหม ก็ไม่เบานะคะ (หัวเราะ)"
แต่ก่อนหน้านี้เราไม่ได้เรียกร้องว่าเดือนหนึ่งต้องให้เท่านี้ๆ ใช่ไหม ?
"ไม่ค่ะ คือตั้งแต่แรกๆ มันจะมีสัญญากันว่าเขาจะต้องดูแลลูกเป็นจำนวนเท่านี้เท่านั้น แต่เรายังไม่เห็นนะคะ"
โกรธหรือน้อยใจไหมว่าทำไมไม่ทำตามสัญญา ?
"มันก็มีบ้างตอนที่เหนื่อยๆ แต่ไม่ได้โกรธเขา เพราะว่ามันจบลงไปแล้ว แต่แค่น้อยใจแทนลูกว่าไม่ห่วงเหรอ ไม่สงสารเหรอ แล้วถ้าเกิดว่าเราไม่มีแรงส่งจริงๆ ล่ะ ลูกจะอยู่ในสภาพไหน"
เคยถามเขาไหมว่าทำไมถึงไม่ส่ง ?
"ไม่เคยถามค่ะ แต่ทุกความเหนื่อยมันจะหายไปทันทีที่เวลาเราอยู่กับ 3 หนุ่ม เวลาที่เขาทำอะไรให้เราเห็น อย่างเช่นได้รางวัลอย่างเนี้ย มันทำให้เรารู้ว่าเราจะทำอะไรเพื่อใคร ก็ภูมิใจในลูกและภูมิใจในตัวเองด้วยค่ะ (หัวเราะ)"
ภาพ คุยแซ่บโชว์