"เจ้าของบ้าน" โพสต์โอด!! ชาวบ้านแอบจุดไฟเผาอ้อย ลุกลามไหม้บ้านเรือน 2 หลัง วอนภาครัฐแก้ไข
29 ม.ค. 2563, 15:42
วันนี้ ( 29 ม.ค. 63 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า "Janjira Henthongdee" ซึ่งเป็นของ น.ส.จันจิรา เห็นทองดี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/2 โรงเรียนพระแท่นดงรังวิทยาคาร และผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า "Prompong Henthongde" ซึ่งเป็นของ พลทหารพร้อมพงษ์ เห็นทองดี สังกัด ร.19 พัน.3 ค่ายสุรสีห์ สองคนพี่น้องได้โพสต์ภาพความเสียหายของบ้านและทรัพย์สินที่ถูกเผาวอดไปกับกองเพลิง สาเหตุจากการจุดไฟเผาไร่อ้อยของเพื่อนบ้านที่มีพื้นที่ติดกัน พร้อมข้อความระบุว่า
"เกิดเหตุเพลิงไม้ที่บ้านเลขที่ 2/2 หมู่ 5 ต.อุโลกสี่หมื่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี วันที่ 28 มกราคม 2563 สิ่งที่คุณทำมันดีแล้วหรือ การทำให้คนที่เขาไม่รู้อะไรต้องมารับกรรมที่พวกคุณทำไว้ บ้านถูกไฟไหม้ทั้ง 2 หลังเสียหายหลายบาท มันคุ้มแล้วหรอ รถเสียหายไป 3 คัน บ้านทั้งหลัง มันดีแล้วหรอกับสิ่งที่คุณทำ ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ แต่คุณไม่เคยนึกถึงใจของพวกเราเลยสักคน พวกเราบอกคุณหลายรอบแล้วเรื่องอ้อย ว่าให้ปลูกห่างจากบ้านของพวกเรา เพราะชอบมีคนลักจุดทุกๆ ปี เหมือนงานวัด บอกกี่รอบคุณก็ไม่เคยจะสนใจพวกเรา จนกระทั้งปีนี้บ้านเราโดนไฟไหม้ คุณก็ไม่ยังมาดูแล สิ่งที่ควรคิดได้แล้วคือการเลิกจุดไฟอ้อยกันสักที ต้องให้คนตายก่อนใช่ไหมคุณถึงจะรู้สึก ของสำคัญเสียหายไปหลายอย่าง พวกคุณจะรับผิดชอบไหวไหม สิ่งนี้พวกคุณควรได้รับการเรียนรู้สักที เหตุการณ์เกิดขึ้นทุกปีคุณยังไม่เรียนรู้ ปีนี้บ้าน 2 หลังนี้ขอเป็นครั้งสุดท้าย อย่าได้เกิดขึ้นอีก และขอให้คนที่ชอบมีความสุขบนความทุกข์คนอื่นได้เรียนรู้สิ่งนี้สักที #ผลของการเผาอ้อย #ลักจุดอ้อย #ไฟไหม้บ้าน
พวกคุณสบายตัดอ้อยไม่ลำบาก แล้วครอบครัวผมละครับ บ้านผม บ้านย่าผม คนแก่อยู่บ้านคนเดียว ทำอะไรไม่ถูก เห็นบ้านไฟไหม้ทำอะไรไม่ถูกสักอย่าง บ้าน 2 หลัง รถ 3 คัน ข้าวของเครื่องใช้ไม่เหลือสักอย่าง #ใครรับผิดชอบ?? ห้องเก็บของเก็บเครื่องมือช่างของพ่อ ที่เคยแน่นเอียดแทบไม่มีที่วาง #เหลือแต่ซาก #ใครรับผิดชอบ"
ซึ่งหลังจากโพสต์ดังกล่าวได้เผยแพร่ออกไปได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ออกไปเป็นจำนวนมาก โดยส่วนใหญ่เข้ามาแสดงความเห็นใจและเป็นกำลังใจให้เจ้าของโพสต์ พร้อมกับให้ฟ้องร้องดำเนินคดีและเรียกค่าเสียหายกับเจ้าของไร่อ้อยซึ่งเป็นต้นเหตุ รวมทั้งวิพากษ์วิจารณ์กรณีการจุดไฟเผาไร่อ้อยในหลายๆ พื้นที่ ที่ช่วงนี้มีการลักลอบเผากันทุกวัน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้จังหวัดกาญจนบุรี ได้ออกประกาศกำหนดพื้นที่และมาตรการควบคุมผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เพื่อแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง แล้วก็ตาม แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการจับกุมหรือดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำผิดแม้แต่รายเดียว
จากการสอบถาม นายกิตติ เห็นทองดี อายุ 49 ปี ผู้เป็นลุงของ น.ส.จันจิรา เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 16.00 น. ได้เกิดเหตุไฟไหม้ไร่อ้อยที่มีพื้นที่ติดต่อกับบ้านของตน เป็นเหตุไฟลุกลามเข้ามาไหม้บ้าน จนทำให้ทรัพย์สินของตนได้รับความเสียหายทั้งหมด ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอยู่บ้าน โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ระดมฉีดน้ำดับไฟที่กำลังโหมลุกไหม้อย่างรุนแรง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ แต่สุดท้ายเปลวเพลิงก็ทำให้บ้าน 2 หลัง และทรัพย์สินมีค่าภายในบ้านได้รับความเสียหายทั้งหมด แต่หากควบคุมเพลิงไว้ได้ช้ากว่านี้ ก็อาจลุกลามไปบ้านอีกหลังที่ปลูกติดกันอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลช่วยเหลือตนและครอบครัว เนื่องจากข้าวของได้รับความเสียหายไปกับเปลวเพลิงทั้งหมด และที่สำคัญอยากให้แก้ปัญหาเรื่องการเผาอ้อยอย่างจริงจังเสียที เพราะเมื่อเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นแล้ว ตนถามว่า “ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ” ซึ่งโดยปกติแม่ตนจะพักอาศัยอยู่คนเดียว โชคดีที่ขณะเกิดเหตุออกไปซื้อของที่ตลาด และเมื่อกลับมาก็พบว่าไฟกำลังลุกไหม้บ้านอยู่ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่มาระงับเหตุ ขณะที่น้องชายและน้องสะใภ้ก็ออกไปทำงาน และหากแม่ของตนเป็นอะไรไป ตนถามว่า “ใครจะรับผิดชอบครอบครัวของตน และน้องชายที่ได้รับความเสียหาย” อยากให้ทางการแก้ปัญหาการเผาอ้อยให้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดเสียที คนอื่นจะได้ไม่เดือดร้อนกันอย่างเช่นที่เกิดขึ้นนี้
ทั้งนี้หากประชาชนท่านใดประสงค์ที่จะให้ความช่วยเหลือสามารถบริจาคได้ที่ บัญชีชื่อ นางวันเพ็ญ เห็นทองดี ธนาคารธนชาติ หมายเลขบัญชี 338-6-12193-8 อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ต่อไป