"เจ้าอาวาสวัดต้นสน" ชี้แจงวัดเป็นเขตอภัยทาน ชาวบ้านนำเต่ามาปล่อยให้วัดเลี้ยง
30 ม.ค. 2563, 15:16
วันที่ 30 ม.ค. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวันที่ 29 ม.ค. 63 ที่ผ่านมา มีผู้ร้องเรียนว่าที่วัดต้นสน มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รู้บอนุญาติ และทางเจ้าหน้าที่ จ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปราบปรามการกระทำความผิดด้านสัตว์ป่าและพืชป่า (ชุดเหยี่ยวดง) ร่วมกับชุดปฏิบัติการพิเศษ 1362 สำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 1 (ภาคกลาง) สำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 สาขาสระบุรี สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดอ่างทอง และตำรวจ กก.2 บก.ปกส. ร่วมกันตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าภายในบ่อพบสัตว์ป้าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลื้อยคลาน ชนิดเต่า จำนวน 3 ชนิด รวม 563 ตัว ได้แก่ เต่าบัว จำนวน 369 ตัว เต่าหวาย จำนวน 158 ตัว และเต่าหับ จำนวน 36 ตัว และแจ้งว่า มีความผิดตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าพ.ศ. 2562 มาตรา 15 ฐาน “ ทิ้งหรือปล่อยเป็นอิสระ ซึ่งสัตว์ป้าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี ” ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 91 จำคุกไม่เกินหกเดือนหรือปรับไม่เกินห้าหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 17 ฐาน “ มีสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รู้บอนุญาติจากอธิบดี ” ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 92 จำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินห้าแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งสัตว์ป่าคุ้มครองของกลางจำนวนดังกล่าว ซึ่งมีเป็นจำนวนมาก อยู่ในระหว่างการพิจารณาจัดหาสถานที่อนุบาล คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ขอความอนุเคราะห์จากพระอุดร ช่วยเหลือในการอนุบาลเป็นการชั่วคราว จนกว่าคณะเจ้าหน้าที่จะเคลื่อนย้ายสัตว์ป่าคุ้มครองดังกล่าวไปดูแล
จากการสอบถาม พระเทพสุวรรณมุณี เจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง เจ้าอาวาสวัดต้นสน เปิดเผยว่า ทางวัดต้นสน ขอชี้แจงว่า ที่บริเวณวัดเป็นเขตอภัยทาน ซึ่งมีชาวบ้านต่างนำสัตว์มาปล่อยไว้จำนวนมาก เป็นภาระหน้าที่ของวัดที่ต้องเลี้ยงดู และทางวัดไม่ทราบว่าเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองผิดกฎหมาย เมื่อมีเต่าได้รับบาดเจ็บแล้วมีคนนำมาปล่อยก็ต้องเลี้ยงดูกันไป เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบแล้วพบว่ามีสัตว์ป่าคุ้มครอง และได้ฝากให้วัดได้เลี้ยงดูไว้ก่อนที่จะนำไปไว้ตามสถานที่ของทางราชการต่อไป และเบื้องต้นก็ไม่ได้แจ้งความผิดแก่ผู้ใด เนื่องจากวัดเป็นสถานที่เขตอภัยทาน เมื่อชาวบ้านนำมาปล่อยทางวัดก็ต้องเลี้ยงดูไว้ ซึ่งเต่าที่วัดต้นสนนั้นอยู่มานานกว่า 20 ปี แล้ว โดยมีคนนำมาปล่อยให้เลี้ยงดูอย่างต่อเนื่อง และเต่าก็มีอายุยืน จึงทำให้มีจำนวนมาก ซึ่งทางวัดยินดีให้ทางราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับมอบสัตว์ป่าดังกล่าวไปดูแล
ทางด้านนางประจบ แก้วโต อายุ 66 ปี ผู้ดูแลบ่อเต่า เล่าให้ฟังว่า มีชาวบ้านนำเต่าที่เก็บได้ไม่ว่าจะเจ็บป่วยหรือเลี้ยงไว้แล้วแต่เบื่อ ก็นำมาปล่อยวัดทางวัดก็เลี้ยงดูมาหลายปีแล้ว แต่เดิมเป็นบ่อดิน และทางผู้มีจิตศรัทธาได้สร้างบ่อปูนให้ใหม่นาน 7 – 8 ปี แล้ว ตนเองก็เลี้ยงดูให้อาหารกินอย่างดี ต่อไปนี้คงไม่มีเต่าในวัดอีกแล้ว เนื่องจากทางราชการแจ้งว่าผิดกฎหมาย ในช่วงนี้จึงฝากให้เลี้ยงดูไปก่อน และจะนำไปดูแลยังสถานที่ที่ราชการจัดหาตามความเหมาะสมต่อไป