จากกรณี สาวรายหนึ่งได้โพสต์เฟซบุ๊กข้อความว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 22 มกราคม 2563 แฟนของเธอถูกขโมยรถ จยย. ที่จอดอยู่ที่หอพัก แฟนของเธอจึงซ้อนรถ จยย. พี่ชายข้างห้องตามไป กระทั่งไปทันกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง แต่อยู่กันคนละฝั่งถนน เมื่อคนร้ายเห็นจึงชักปืนยิง คาดว่าเป็นปืนลูกซองสั้น กระสุนเข้าที่ลำตัวถึง 18 แผล และถูกลำไส้ใหญ่ รวมถึงม้าม หมอผ่ากระสุนออกบางส่วน ที่เหลืออยู่ในท้องยังหาไม่เจอ นอนรักรักษาตัวที่โรงพยาบาลมา 5 วันแล้ว นอกจากนี้พี่ที่ไปด้วยก็โดนยิง 4 แผล อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

 

ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ (30 มกราคม 2563) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่สถานีตำรวจภูธรเสนา อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พ.ต.อ.ธนกฤต อ่อนละออ ผกก.สถานีตำรวจภูธรเสนา พร้อมชุดสืบสวนสถานีตำรวจภูธรเสนา อำเภอเสนา สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้แล้ว 2 คน ชื่อนายสุรพล พรสวัสดิ์ อายุ 26 ปี กับนาย เอ นามสมมติ ( เยาวชนอายุ 15 ปี ) 2 ใน 3 ผู้ต้องหาได้ในพื้นที่ อำเภอบางซ้าย และยังหลบหนีอีก 1 คน อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นผู้ลงมือใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าของรถและเพื่อนที่ตามไปได้รับบาดเจ็บ ทราบแล้วว่าเป็นใคร เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังอยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอออกหมายจับ

พร้อมทั้งนำตัวทั้ง 2 คน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังบริเวณ หอพักแห่งหนึ่งภายในซอยอารี ตำบลสามกอ อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยนายเอ อายุ 15 ปี นามสมมติ เป็นคนขับ ก่อนที่ นายสุรพล จะเป็นคนค่อมรถคันที่ขโมย และมีผู้ต้องหาที่หลบหนีเป็นคนซ้อนท้าย นายเอ ถีบยันรถจักรยานยนต์คันที่ขโมยออกมาจากหอพัก จากนั้นพอมาถึงบนถนนอยุธยา-สุพรรณบุรี ผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ได้ขับผ่านล่องกลางถนน เพื่อข้ามมาอีกฝั่ง จากนั้นผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน ซึ่งเป็นเจ้าของรถและเพื่อนขับตามมาทันช่วงร่องกลางถนน คนร้ายซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่กำลังหลบหนีอยู่ได้ควักอาวุธปืนออกมายิงใส่ทั้ง 2 คน จากนั้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ก็รีบขับรถหลบหนีไป จนวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมได้แล้ว 2 ราย

ด้าน พ.ต.อ.ธนกฤต อ่อนละออ ผกก.สถานีตำรวจภูธรเสนา กล่าวว่า ตอนนี้สามารถจับกุมได้แล้ว 2 คน ยังเหลืออีก 1 คนที่ อายุ 30 ปี ยังหลบหนีอยู่ ซึ่งทราบแล้วว่าเป็นใคร อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานออกหมายจับ ในส่วนกลุ่มแก๊งนี้ได้ก่อเหตุในลักษณะลักทรัพย์ในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเตรียมสอบเพิ่มเติมว่าก่อเหตุที่ใดมาแล้วกี่ครั้ง และในกี่พื้นที่เพื่อส่งตัวพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป