ราชบุรี หมอกควันปกคลุม 4 อำเภอ เจ้าหน้าที่สนธิกำลังขึ้นดับไฟป่า
31 ม.ค. 2563, 16:33
เวลา 13.00 น. ( 31 ม.ค. 63 ) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พ.อ.ประยุทธ ผดุงพจน์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดราชบุรี ( รอง.ผอ.รมน.รบ.) เป็นประธานประชุมการแก้ไขปัญหาไฟป่าในพื้นที่ อ.ปากท่อ และพื้นที่ใกล้เคียง ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ. 3 (พุยาง) โดยมีนาย สุชาติ บัวบาง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่รบ.3 (พุยาง) นางลือชา วงศ์เปี่ยม ปลัดอำเภอปากท่อ นายเสน่ห์ แคนเพชร นายก อบต.ยางหัก นายสุภัทร แก้วบัวทอง เจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าภาคกลางที่ 1 ( เพชรบุรี ) พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษควบคุมไฟป่า (กรมป่าไม้ เหยี่ยวไฟ) หลังพบว่ากำลังเกิดปัญหาไฟป่า บางจุดมีสภาพเป็นภูเขาสูงชัน ทำหมอกควันลอยฟุ้งกระจายไปทั่วใน 4 อำเภอ ประกอบด้วย อ.ปากท่อ อ.บ้านคา อ.สวนผึ้ง อ.จอมบึง อีกทั้งส่งผมไปถึง อ.เมืองด้วย การทำงานเป็นไปอย่างยากลำบาก กำลังเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอ แม้จะประสานขอกำลังจากหลายฝ่ายเข้าช่วยเหลือ แต่เนื่องจากเจ้าหน้าที่แต่ละหน่วยยังไม่มีความรู้เรื่องการปฏิบัติการดับไฟ อีกทั้งอุปกรณ์ เช่น เครื่องเป่าลม และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องก็มีไม่เพียงพอในการทำงาน ทำให้สถานการณ์ไฟป่าขณะนี้ลุกลามขยายวงกว้างกินพื้นที่ความเสียหายไปแล้วหลายพันไร่
หลังจากประชุมวางแผนเสร็จ เจ้าหน้าที่เดินเท้า พร้อมนำอุปกรณ์ขึ้นดับไฟป่าบริเวณยอดเขาช่องตะเคียนสูง เขตป่าสงวนแห่งชาติ ติดต่อกับป่าอุทยานเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ที่ยังเกิดไฟป่ารุนแรง สภาพเป็นป่าเขาสูงชันมีใบไม้ทับถมเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ไฟได้ลุกไหม้อยู่บริเวณยอดเขาสูงหลายจุด เจ้าหน้าที่ต้องกระจายกำลังเดินขึ้นเขา ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร กว่าจะถึงจุดที่ไฟลุกไหม้ เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องเป่าลม กระจายกำลังทำงาน และทำแนวกันไฟ เพื่อป้องกันไม่ให้ไฟลุกลามไปยังพื้นที่อื่น สามารถควบคุมสถานการณ์ไฟป่าได้เพียงบางจุดเท่านั้น
นายสุชาติ บัวบาง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ. 3 (พุยาง) กล่าวว่า ไฟป่ากระจายหลายจุด สาเหตุมาจากคนจุด ทำให้ต้องแบ่งกำลังเข้าทำงาน บางจุดเกิดหนักมาก จึงสนธิกำลังหลายฝ่ายเข้าร่วม ซึ่งมี รอง ผอ.รมน.จังหวัด ได้มาบัญชาการด้วยตัวเอง รวมกับปลัดอำเภอปากท่อ และยังขอกำลังสนับสนุนจากศูนย์ส่งเสริมการควบคุมไฟป่าภาคกลางที่ 1 เพชรบุรี เข้ามาช่วยกับเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้ และกองอาสารักษาดินแดน เข้าดับไฟที่ยังลุกไหม้เขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าฝั่งซ้ายแม่น้ำภาชี คาบเกี่ยวอุทยานแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติไทยประจัน ในหลายจุดประมาณ 2-3 วันแล้ว หลังจากนี้จะปรับเปลี่ยนวิธีการ เพราะการเข้าดับไฟเป็นการแก้ไขปัญหาที่ปลายเหตุ ซึ่งคงต้องเข้าไปหาชุมชนที่มีเป้าหมายเรื่องการล่าสัตว์ เก็บหาของป่า โดยจะส่งเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวเข้าไปปฏิบัติงานแก้ไขเรื่องนี้ ส่วนภาพรวมพื้นที่ อ.ปากท่อ ที่ ต.อ่างหิน ต.ทุ่งหลวง ต.ยางหัก ต.ห้วยยางโทน รวมแล้วหลายพันไร่ แต่จะเป็นลักษณะการเกิดไฟผิวดิน ต้นไม้ขนาดใหญ่ ขนาดกลางไม่ตาย แต่ปัญหาคือ ฝุ่นละอองจะส่งผลกระทบต่อวัด โรงเรียน นักเรียน ส่งผลกับแมลงที่วงชีวิตเป็นวัฏจักรระบบนิเวศถูกทำลายไป รวมทั้งสัตว์ป่าด้วย
ทั้งนี้ทาง รอง ผอ.รมน.ได้มีคำแนะนำและมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน จิตอาสา เตรียมมาฝึกปฏิบัติการดับไฟป่าให้เห็นภาพการทำงานจริง ๆ อีกทั้งทางนายก อบต.ยางหัก จะเตรียมโครงการเรื่องจัดซื้ออุปกรณ์เครื่องเป่าลมดับไฟป่าบรรจุเข้าแผนของ อบต. หมู่ละ 5 เครื่อง จำนวน 8 หมู่บ้าน รวม 40 เครื่อง เพื่อให้มีอุปกรณ์การทำงานที่มีประสิทธิภาพ สามารถควบคุมไฟป่าได้ทันต่อสถานการณ์