วันที่ 31 ม.ค. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายบวรศักดิ์ วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นประธานจุดธุปเทียนเบื้องหน้าองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าถวายเป็นพุทธบูชาในพิธีบูชาดาวนพเคราะห์สูตร ณ.ภายในพระอุโบสถวัดถาวรวรารามหรือวัดญวน อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีพันตำรวจพงศกร อุปพงษ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ,ด๊อกเตอร์เบญจวรรณ เปรมประยูร นายกเทศมนตรีเมืองกาญจนบุรีร่วมจุดเทียนบูชา รวมทั้งนายสรรเพชญ ศลิษฏ์อรรถกร ได้อัญเชิญไฟพระฤกษ์ที่ได้รับประทานจากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก มาใช้ในการประกอบพิธีบูชาดาว  โดยมีพระเดชพระคุณ พระสมณานัมธีราจารย์ ปลัดขวาอนัมนิกาย เจ้าอาวาสวัดถาวรวราราม (วัดญวน) จ.กาญจนบุรี พร้อมด้วยพระภิกษุร่วมสวดเจริญพระพุทธมนต์ 

 

สำหรับพิธีบูชาดาวนพเคราะห์ของวัดถาวรวรารามถือปฏิบัติเป็นประเพณีสืบทอดกันมาเกือบ 200 ปี อีกทั้งยังเป็นวิถีของประชาชนชาวกาญจนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งทุกปีจะได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนร่วมจัดกิจกรรมทางศาสนาขึ้น อาทิเช่น พิธีบูชาถวายข้าวพระพุทธเนื่องในงานบูชาดาวนพเคราะห์ทุกวันในเวลา 10.00 น.,พิธีถวายภัตตาหารเพลพระภิกษุสงฆ์และสามเณร,พิธีสวดบูชาดาวนพเคราะห์สูตรในทุกคืนเวลา 20.00 น. วัดถาวรวราราม หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกสั้น ๆ ว่า “วัดญวน” เป็นวัดในพระพุทธศาสนาฝ่ายอนัมนิกายลัทธิมหายาน และมีชื่อตามภาษาญวนว่า “คั้นถ่อตื่อ” ที่แปลเป็นไทยว่า “อยู่อย่างมั่นคงถาวร” และชื่อวัดถาวรวรารามนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระราชทานนามไว้

 

ส่วนการสร้างวัดเกิดขึ้นในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 และถือเป็นวัดญวนแห่งแรกของจังหวัดกาญจนบุรีที่มีอายุกว่าร้อยปีแล้ว โดยการก่อสร้างริเริ่มจากครอบครัวชาวญวนที่นับถือพระพุทธศาสนา (ชาวญวนที่อพยพมาหลังการทำสงครามระหว่างไทยกับเวียดนามในสมัยรัชกาลที่ 3 ร่วมแรงร่วมใจบริจาคทุนทรัพย์สร้างวัดขึ้นในราวปี พ.ศ. 2377    อุโบสถสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2436 เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ศิลปะแบบจีนผสมกับญวน ภายในเป็นที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” มีพุทธลักษณะประทับนั่งปางมารวิชัย (ปางพิชิตมาร) สร้างจากศิลาแดง แต่เดิมเป็นพระประธานวัดนางพิมพ์ (วัดร้างสมัยอยุธยา) ซึ่งตั้งอยู่เขตเมืองกาญจนบุรีเก่า พระอธิการเหยี่ยวเค ได้อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานของวัดพร้อมกับพระพุทธรูปอีก 2 องค์ที่ตั้งประดิษฐานขนาบข้างซ้ายขวา

 

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2519 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน เมื่อทรงดำรงพระอิสริยยศที่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารได้พระราชทานนามใหม่ว่า “พระพุทธสถาพรมงคล” องสรภาณมธุรสเริ่มก่อสร้างพระตำหนักสมเด็จพระญาณสังวรเพื่อน้อมถวายพระองค์ท่าน และเป็นการเฉลิมพระเกียรติยศสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ที่ทรงมีชาติภูมิที่จังหวัดกาญจนบุรี ทั้งนี้พระตำหนักฯ หลังนี้ใช้เวลาการก่อสร้างทั้งสิ้นกว่า 10 ปีจึงแล้วเสร็จ./