เวลา 10.00 น. วันที่ 24 มิถุนายน 2562 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ที่ห้องประชุมสภา อบจ.สกลนคร นายพินิตเมธ ทีฆธนานนท์ ประธานสภา อบจ.สกลนคร เรียกประชุมสภา สมัยวิสามัญ สมัยที่ 1/2562 โดยมีระเบียบวาระการประชุมที่สำคัญ เช่น ระเบียบวาระที่ 3 ญัตติขอความเห็นชอบร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2563 ของ อบจ.สกลนคร ระเบียบวาระที่ 6 ญัตติเรื่องขออนุมัติโอนงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2563 และระเบียบวาระที่ 7 ญัตติขออนุมัติแก้ไขเปลี่ยนแปลงคำชี้แจงงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2563 เป็นต้น โดยทั้งหมดในระเบียบวาระการประชุม นายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ.สกลนคร เป็นผู้ยื่นญัตติและจะเป็นผู้อภิปรายนำเสนอ 

บรรยากาศในการประชุม ปรากฏว่า มีข้าราชการส่วนต่างๆ สังกัด อบจ.สกลนคร เข้าร่วมประชุมอย่างครบถ้วน แต่มีสมาชิก สภา อบจ.ฯ เข้าร่วมประชุมเพียง 11 คน ขาดประชุมอีก 14 คน ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่ง นายถาวร สุขทาน เลขานุการ นายก อบจ.สกลนคร ได้ลุกขึ้นกล่าวประณามพฤติกรรมของ ส.อบจ.ในครั้งนี้ และเสนอให้มีการขานชื่อผู้เข้าร่วมประชุม และผู้ที่ไม่มาประชุม เพื่อตรวจสอบว่าใครที่ขาดการประชุมติดต่อกัน 3 ครั้ง จะต้องรายงานต่อ นายวิทยา จันทร์ฉลอง  ผวจ.สกลนคร และให้พ้นหรือปลดออกจากตำแหน่ง เพราะถือว่าอาสามาทำงานกลับไม่เข้ามาประชุมเพื่อผลักดันงบประมาณ จะได้นำลงไปแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ถูกจุด จะมีผลประโยชน์อะไรก็เสนอเป็นญัตติและก็ว่าอภิปรายในสภาได้ ตนจึงเห็นว่ากลุ่มที่ไม่เข้าประชุมทำไม่ถูกต้อง

หลังจากปิดประชุม นายพินิตเมธ ทีฆธนานนท์ ประธาน สภา อบจ.สกลนคร พร้อม ส.อบจ.รวม 11 คน  ได้เปิดแถลงข่าวและขอโทษประชาชนว่า วันนี้มีการประชุมเพื่อพิจารณางบประมาณ รายจ่ายเป็นเงินกว่า 927 ล้านบาท ซึ่งมีความจำเป็นเร่งด่วน ต่อการนำเงินงบประมาณไปใช้ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาด้านต่างๆ ตามข้อบัญญัติที่ได้จัดทำรายละเอียดไว้แล้ว ซึ่งตนจะร่วมหารือกับ นายก อบจ./สมาชิกสภาฯ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกร่วมกัน และต้องขอประณามการกระทำของ ส.อบจ.ที่ขาดประชุม อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนของ ส.อบจ.จำนวน 14 คน ที่ไม่ยอมเข้าประชุมสภาฯในวันนี้ ทางฝ่ายกฎหมาย (นิติกร) ของ อบจ.สกลนคร จะดำเนินการตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องในกรณีการขาดประชุมสภาติดต่อกันเกิน 3 ครั้ง จะทำให้ขาดสมาชิกภาพ ตามที่ นายถาวร สุขทาน เสนอต่อที่ประชุม เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป และอาจถึงขั้นยุบสภาก็ได้