วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า บริเวณเมรุชั่วคราว วัดป่าโนนแพง หมู่ 5 ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม คณะศิษยานุศิษย์ได้ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงพ่อบุญอุ้ม อาภัสโร (พระครูไพศาลธรรมมงคล) อดีตที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลบ้านแพง และอดีตเจ้าอาวาสวัดป่าโนนแพง เกจิอาจารย์ชื่อดังอีกรูปหนึ่งของจังหวัดนครพนม ที่มีลูกศิษย์อยู่ทั่วประเทศ โดยเฉพาะทหาร ตำรวจ ฯลฯ หลังได้ละสังขารอย่างสงบเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2562 รวมสิริอายุ 64 ปี 35 พรรษา (ไม่รวมที่บรรพชาเป็นสามเณรอีก 16 ปี) ซึ่งร่างของท่านบรรจุอยู่ในโลงไม้หอม นอกจากนี้ลูกศิษย์ได้ใส่กำไลงาช้าง ประคำงาช้าง ที่ท่านสั่งให้บรรจุพร้อมกับสรีระและให้เผาไปพร้อมกับท่านตามพินัยกรรมที่ท่านเป็นผู้ระบุเอาไว้

 

โดยมีพระศรีวิสุทธินายก (พระมหาโดม ปญฺญาธโร ป.ธ.9) เจ้าคณะจังหวัดนครพนม(ธ) เจ้าอาวาสวัดศรีเทพประดิษฐาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ พลเอกสิทธิ จันทร์สมบูรณ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ขณะที่พันเอกเศวตฉัตร ศิริรักษ์ รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 นำกำลังทหารจาก ร.3 พัน 1 สกลนคร และ ร.3 พัน 3 นครพนม มาคอยอำนวยความสะดวกแก่สาธุชนผู้เสื่อมใสศรัทธาต่อหลวงพ่อบุญอุ้มพร้อมแขกผู้มีเกียรติ อาทิ พลเอกอาชาไนย ศรีสุข สมาฃิกวุฒิสภา พลเรือโทณเดโช เกิดชูชื่น นายอดิศักดิ์ เทพอาสน์ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมฯลฯ นายแพทย์ประสงค์ บูรณ์พงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม นายนิวัติ เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม นายณพจน์สกร ทรัพยสิทธิ หัวหน้ากลุ่มมหานคร นครพนม นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ นายอำเภอบ้านแพง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และพี่น้องประชาชนร่วมพิธีคับคั่ง

 

ก่อนหน้านี้วันที่ 31 มกราคม ที่ผ่านมา ลูกศิษย์ได้เคลื่อนสรีระของหลวงพ่อบุญอุ้มจากศาลาการเปรียญมายังเมรุชั่วคราว เพื่อเปิดโอกาสให้สาธุชนบำเพ็ญกุศล อุทิศถวาย พร้อมรอรับขบวนอัญเชิญหีบเพลิงพระราชทาน ซึ่งทางพลเอกสิทธิ จันทร์สมบูรณ์ ได้สั่งให้พิมพ์หนังสือที่ระลึก วัตถุมงคล พร้อมภาพโปสการ์ดแจกแก่ผู้มาร่วมงานจำนวนมาก

 

โดยเวลา 16.00 น. ประธานในพิธีฝ่ายฆราวาส ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ญาติโยมเดินขึ้นวางดอกไม้จันทน์ มีผู้มีจิตศรัทธาตั้งโรงทานเลี้ยงผู้มาร่วมงานหลายสิบเต็นท์ และเวลา 22.00 น. ก็จะเป็นการประชุมเพลิงเผาจริง รุ่งเช้าก็จะเป็นพิธีสามหาบ(เก็บอัฐิ)

 

     พันเอกเศวตฉัตร ศิริรักษ์ รองผู้บัญชากองพลทหารราบที่ 3 เผยว่ามีความเสื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อบุญอุ้มมานานแล้ว เพราะท่านเป็นพระผู้มีเมตตาสูง ช่วงเหตุการณ์ไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ท่านก็สร้างวัตถุมงคลไปแจกทหารหาญ ข้าราชการในพื้นที่ เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ เพราะเชื่อในความเข้มขลังที่ท่านแผ่เมตตาลงในวัตถุมงคลนั้นๆ ทำให้ท่านมีลูกศิษย์เป็นสายทหารเยอะเป็นพิเศษ เมื่อท่านละสังขารพวกตนที่เคยพึ่งใบบุญบารมีของท่านก็ร่วมกันดำเนินการเรื่องต่างๆ เพื่อให้งานพระราชทานเพลิงศพของพระอาจารย์สมบูรณ์แบบที่สุด

     หลวงพ่อบุญอุ้ม อาภัสสโร หรือพระครูไพศาลธรรมมงคล อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าโนนแพง พระเกจิที่มีลูกศิษย์ทั่วประเทศ เป็นพระสายป่าที่สืบทอดสายธรรมจากหลวงปู่มหาเหรียญ ปภาคโร วัดบ้านหันห้วยทราย อ.ประทาย จ.นครราชสีมา เกิดเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ.2498 ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง จ.นครพนม บิดาชื่อนายอ่อนศรี (หรือหลวงปู่อ่อนศรี ขันติกโร ในกาลต่อมา)มารดาชื่อนางทิพย์ อภัยโส เป็นบุตรคนที่ 3 ในจำนวน 6 คน

     อายุ 13 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร ติดตามหลวงปู่มหาเหรียญธุดงค์ไปปักกลดตามป่าดงดิบหลายจังหวัด เช่น นครพนม ร้อยเอ็ด มหาสารคาม กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี สระบุรี และอีกหลายจังหวัดทางภาคเหนือ เป็นเวลากว่า 5 ปี กระทั่งอายุ 29 ปี เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2527 ได้อุปสมบทที่วัดศรีวิชัย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม มีหลวงปู่คำพันธ์ จันทุปโม เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้ไปจำพรรษาบนเทือกเขาภูลังกา ภายในถ้ำมืด ถ้ำโขง ร่วมกับหลวงปู่อ่อนศรี ขันติกโร เพื่อนั่งสมาธิ ฝึกจิตเป็นเวลาถึง 18 ปี และออกธุดงค์ไปกับสามเณรอีก 2 รูป ในภาคเหนือ ก่อนย้อนกลับมาจังหวัดนครพนม เพื่อดูแลบิดาคือหลวงปู่อ่อนศรีที่อาพาธ 2 – 3 ปี เมื่อหลวงปู่อ่อนศรีได้ละสังขารไปเมื่อ 7 ตุลาคม 2545 ท่านได้ยกที่ดินหัวไร่ปลายนา จำนวน 20 ไร่ อยู่ในเขตหมู่ 5 ต.บ้านแพง อ.บ้านแพง ให้เป็นสำนักสงฆ์ ต่อมาขออนุญาตตั้งชื่อ วัดป่าโนนแพง และแต่งตั้งให้หลวงพ่อบุญอุ้มเป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา

    ปี พ.ศ.2543 หลวงพ่อบุญอุ้มได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลบ้านแพง-นาทม นาน 2-3 ปี ก่อนจะได้ลาออกให้พระรุ่นใหม่ปกครองคณะสงฆ์แทน ประกอบกับต้องดูแลมารดาที่บวชเป็นชีที่วัด ที่ล้มป่วยและมรณกรรม เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ.2550 หลังสิ้นมารดาท่านได้ธุดงค์ข้ามโขง ฝึกสมาธิในฝั่งประเทศลาว เน้นการปฏิบัติตามรอยหลวงปู่มหาเหรียญ และหลวงปู่อ่อนศรีผู้เป็นบิดา นั่งสมาธิวิปัสสนาจนมีจิตเข้มแข็ง

    ต่อมานายฉลอง เรี่ยวแรง อดีต ส.ส. นนทบุรี ได้ถวายตำราของหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท ซึ่งเป็นตำราภาษาขอม มี 4 หมวด คือ กฎหมาย โคลงกลอน ยาสมุนไพร และวิทยาคม หลวงปู่บุญอุ้มได้เลือกศึกษาหมวดสุดท้ายคือ วิทยาคม ใช้เวลาศึกษาอยู่ 1 ปี และในปี พ.ศ.2545 สร้างวัตถุมงคลตะกรุดแผ่นยันต์ทองเหลืองเป็นครั้งแรก

     ด้านเครื่องรางที่ท่านได้สร้างขึ้นเป็นที่รู้จักคือ และเป็นเจ้าตำรับ คือ ตะกรุดหนังงูเหลือม ตะกรุดหนังเสือ ตะกรุดไม้ไผ่สีสุก โดยในปี พ.ศ.2551 สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้กราบนิมนต์ท่านจัดสร้างตะกรุดไม้ไผ่สีสุก ซึ่งทำจากไม่ไผ่สีสุกลงอักขระติดแผ่นทอง แล้วนิมนต์ท่านนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปมอบให้เจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ถึง 2 ครั้ง และในปี พ.ศ.2552 ก็นำไปแจกทหารถึงค่ายตามจังหวัดต่างๆ

    นอกจากจะเป็นพระเกจิอาจารย์แล้ว หลวงปู่บุญอุ้มท่านยังเป็นพระนักปฏิบัติ ให้ความสำคัญทางด้านการศึกษา ด้วยการส่งเสริมการเรียน การศึกษา ได้บริจาควัตถุปัจจัยให้แก่ภิกษุ สามเณร อุปการะสนับสนุนการศึกษา โรงพยาบาล โรงเรียน วัดวาอาราม สาธุชนผู้ตกทุกได้ยากมิได้ขาด การละสังขารของท่านด้วยโรคมะเร็งในเม็ดเลือดจึงทำให้ลูกศิษย์และญาติโยมเศร้าโศกยิ่งนัก