"จุรินทร์" เผยเร่งดำเนินการ นำหน้ากากอนามัย-เจลทามือ เป็นสินค้าควบคุมให้เร็วที่สุด
4 ก.พ. 2563, 19:22
วันนี้ ( 4 ก.พ.63 ) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้หน้ากากอนามัย เจลทามือ และสปันบอนด์ที่เป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตหน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม ซึ่งขั้นตอนต่อไปคือ ตนได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน เร่งดำเนินการเผยแพร่ประกาศดังกล่าวลงในราชกิจจานุเบกษาให้ได้ภายในวันนี้ (4 กุมภาพันธ์) จากนั้น ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ กรมการค้าภายใน จะสามารถออกมาตรการต่างๆ อย่างน้อย 4 เรื่อง คือ
1.มาตรการกำหนดให้ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย ผู้นำเข้า และผู้ส่งออกสินค้าดังกล่าว ต้องแจ้งข้อมูลการผลิต การครอบครอง การจำหน่าย และข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้อง 2.มาตรการการกระจายสินค้าเพื่อไม่ให้กระจุกตัวที่ใดที่หนึ่ง 3.มาตรการด้านการส่งออกสินค้า ซึ่งในเบื้องต้นจะกำหนดว่า หากผู้ที่จะส่งออกสินค้าหน้ากากอนามัยหรือเจลทามือ เกิน 500 ชิ้นขึ้นไป จะต้องขออนุญาตส่งออกหรือเคลื่อนย้ายออกจากราชอาณาจักร 4.มาตรการกำหนดให้ต้องป้ายแสดงราคาจำหน่าย และต้องขายในราคาตรงกับป้ายราคา โดยระหว่างนี้ กรมการค้าภายในได้ประสานงานกับผู้ผลิตและผู้จำหน่ายไปพลางก่อนแล้ว
สำหรับการร้องเรียนว่าหน้ากากอนามัยและเจลทามือขาดตลาดอย่างมากนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตอนนี้มีการขาดแคลนสินค้าดังกล่าวเป็นจุดๆ บางพื้นที่มีจำหน่าย แต่บางพื้นที่ไม่มีจำหน่าย ดังนั้น พาณิชย์จังหวัดจะต้องรายงานข้อมูลเข้ามาที่ส่วนกลาง แล้วให้กรมการค้าภายในเร่งบริหารการกระจายสินค้าดังกล่าวให้ทั่วถึง โดยกรมการค้าภายในต้องเชิญผู้ผลิตและผู้ขายส่งมาร่วมหารือถึงการกระจายสินค้าดังกล่าวให้ดีขึ้นโดยเร็ว ส่วนจะต้องถึงขั้นกำหนดว่าแต่ละคนสามารถซื้อได้กี่ชิ้นนั้น อยู่ที่การประเมินของกรมการค้าภายใน ทั้งนี้ ตนเห็นใจประชาชนที่มีความกังวลเรื่องสุขภาพ จึงทำให้มีบางคนต้องการซื้อสินค้าเป็นจำนวนเผื่อไว้ ซึ่งถ้าทุกคนคิดตรงกันอย่างนั้น ก็อาจทำให้สินค้าขาดตลาด อย่างไรก็ตาม กรมการค้าภายในพยายามกระจายสินค้าให้ทั่วถึงมากที่สุด ขณะเดียวกัน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศยังออกสุ่มตรวจอย่างต่อเนื่องแล้วนำข้อมูลรายงานวอร์รูมที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน