ระทึกช่วงเย็น!! ไฟไหม้ รถเทรลเลอร์บริษัทขนส่ง สินค้าเสียหายกว่าครึ่งคัน
4 ก.พ. 2563, 20:01
เมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. วันที่ 4 ก.พ. 2563 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า ร.ต.อ.ภูวดล สาวงษ์ พนักงานสอบสวน สภ.ตาดโตน อ.เมือง จ.สกลนคร รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถเทรลเลอร์พ่วงภายในบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ริมถนนสกล-กาฬสินธุ์ จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลนครสกลนคร และรถดับเพลิง อบต.ห้วยยาง พร้อมเดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุบริเวณหน้าโกดังเก็บสินค้า ห.จ.ก.ต่อโชคขนส่ง เลขที่ 428 หมู่ 1 ถ.สกล-กาฬสินธุ์ ต.ห้วยยาง อ.เมืองสกลนคร ซึ่งเป็นของ นายสุรพงษ์ อภิวรรณฤาชา พบรถเทรลเลอร์พ่วง 18 ล้อ สีขาว ยี่ห้อฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 70-1059 สกลนคร จอดอยู่หน้าโกดังเก็บสินค้าเทรลเลอร์พ่วงด้านหลังซึ่งคลุมด้วยผ้าใบสีดำมีเปลวไฟกำลังลุกไหม้ ขณะที่คนขับรถได้ทำการปลดเทรลเลอร์ออก ก่อนจะขับหัวลากออกมา เนื่องจากเกรงว่าไฟจะลุกลาม ขณะที่คนงานทั้งชายหญิงกำลังพยายามช่วยกัน ใช้สายยางฉีดน้ำดับเพลิงอย่างเร่งรีบ รถดับเพลิง 2 คัน จึงรีบทำการฉีดน้ำสกัดเพลิงในทันที แต่ก็ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ จึงได้ประสานขอรับการสนับสนุนรถดับเพลิงจาก ปภ.จังหวัดสกลนคร มาสมทบรวมเป็น 5 คัน ระดมฉีดน้ำนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไม่ให้ลุกลามออกไปได้
ในขณะเดียวกัน คนงานและพนักงานทั้งชายและหญิง ต่างช่วยกันขนย้ายสินค้าบางส่วน ที่ยังไม่ถูกไฟไหม้ออกมาอย่างเร่งรีบ โดยยังคงมีเปลวไฟลามอยู่เป็นระยะ เนื่องจากสินค้าที่บรรทุกในเทรลเลอร์ที่เป็นกล่องกระดาษ ชิ้นส่วนพลาสติกและถังสี ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี จนท. จึงต้องทำการฉีดพรมน้ำเลี้ยงไว้ตลอด เพื่อไม่ให้เพลิงลุกไหม้ขึ้นมาอีก
ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งมีบ้านอยู่ตรงข้ามเล่าว่า ขณะนั่งอยู่หน้าบ้านสังเกตเห็นมีควันสีดำ พวยพุ่งจากด้านในบริษัท จึงรีบวิ่งเข้าไปตะโกนบอกคนที่อยู่ข้างใน ซึ่งช่วงแรกไฟยังลุกลามไม่มากเท่าไหร่ คนงานจึงได้ช่วยกันใช้สายยางและตักน้ำใส่ถังเพื่อพยายามดับไฟ แต่เนื่องจากน้ำประปาในบริษัทไหลไม่แรงจึงดับไม่ทัน จนกระทั่งมีรถดับเพลิงเข้ามาช่วยทำการดับไฟดังกล่าว จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถเทรลเลอร์คันที่เกิดเหตุขนสินค้าหลากหลายชนิดมาจากกรุงเทพมหานครตั้งแต่เมื่อคืน และจอดบริเวณหน้าโกดังเพื่อรอการขนถ่ายสินค้า ในช่วงเกิดเหตุคนงานก็ทำงานกันโดยปกติ จู่ๆ ก็พบกลุ่มควันพวยพุ่งขึ้นมาจากเทรลเลอร์ จึงได้พยายามช่วยกันดับไฟแต่ไม่สำเร็จ เพลิงได้ลุกลามอย่างรวดเร็ว ทำให้สินค้าที่บรรทุกมาเสียหายกว่าครึ่งคัน ล่าสุด จนท.ตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้ ซึ่งจะต้องทำการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดโดยละเอียดอีกครั้ง ขณะที่มูลค่าความเสียหายยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากต้องรอให้เจ้าของบริษัททำการสำรวจโดยละเอียดอีกครั้ง