เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



เปิดความจริงจาก "นักบินเที่ยวบินพิเศษ" ไทย-อู่ฮั่น ประทับใจฮีโร่ตัวจริง ช่วย 138 คนไทย


5 ก.พ. 2563, 10:50



เปิดความจริงจาก "นักบินเที่ยวบินพิเศษ" ไทย-อู่ฮั่น ประทับใจฮีโร่ตัวจริง ช่วย 138 คนไทย




ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า Manoon Jarornloy นักบินเที่ยวบินพิเศษ ของสายการบินไทยแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FD 571 ไทย-อู่ฮั่น ได้มีการโพสต์บอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเที่ยวบินแห่งค่ำคืนพิเศษ ที่คนไทยรอทั้งประเทศ รวมไปถึงความจริงที่น้อยคนจะรู้ เกี่ยวกับขั้นตอนการดำเนินงาน ประสานงานต่าง ๆ ข้อความระบุว่า ผมไม่ใช่ฮีโร่ หลายคนที่รู้จักผม ตอนเช้าของวันที่ 4 คงรู้แล้วว่า ผมเป็นคนบินไปรับคนไทยในอู่ฮั่น เพราะสื่อต่าง ๆ ออกข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะมาก และเผอิญมีภาพบางภาพในข่าว มีติดรูปผมไปด้วย ทั้งที่ตามแผนของคณะทำงาน ที่มีกระทรวงต่างประเทศ เป็นแม่งาน ไม่ได้เป็นอย่างนั้น 

 สั้น เงียบ ใช้คนน้อยสุด คือสิ่งที่ตกลงกันไว้ แต่อย่างว่า บางอย่างก็เหนือการควบคุม 

ตอนไวรัสโคโรนาเริ่มระบาด ทางด่านควบคุมโรคดอนเมือง ได้ทำงานร่วมกับสายการบิน ในการตรวจคนที่มาจากอู่ฮั่น อย่างต่อเนื่อง ก่อนที่ข่าวจะดังเสียอีก

สายการบินเรา จากปกติที่ทำการฆ่าเชื้อตามวงรอบ ก็มาทำถี่ขึ้น และกลายเป็นทำทุกเที่ยวบินทันที ที่กลับจากอู่ฮั่น ก่อนนำไปใช้ต่อ ทั้งนี้เพื่อให้มั่นใจว่า เครื่องเราสะอาดแน่ ๆ สำหรับผู้โดยสารทุกคน

การตรวจผู้โดยสาร มีเฉพาะขาเข้า แต่เราคิดว่าไม่พอ และเป็นปัญหาที่ปลายทาง ถ้ามีคนที่มีไข้ แม้ไม่ได้เป็นไข้หวัดอู่ฮั่นก็ตาม



รวมทั้ง เราต้องการความมั่นใจว่าผู้โดยสารคนอื่น รวมทั้งน้อง ๆ พนักงานของเรา จะปลอดภัยในการโดยสารกับเรา ทีมงาน Exit Screen จึงเกิดขึ้น อย่างฉุกละหุก ด้วยความร่วมมือของน้อง ๆ นักบินที่เป็นหมอ น้อง ๆ ลูกเรือที่เป็นพยาบาล โดยหัวหน้าลูกเรือคนสวย และทีมในแผนกเป็นกำลังหลัก security GS รวมทั้ง Safety ด้วย

หมอป๊อก กับทีมแพทย์ 4 คน ที่เป็นนักบินของเรา ทั้งเป็นกำลังหลักในการตรวจ และทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษา ให้น้อง ๆ ในทีม ก็ไม่สามารถมาได้ทุกวัน เพราะเราต้องทำระยะยาว ผมเลยเรียนปรึกษา CEO เพื่อที่จะจ้างพยาบาลมาช่วย

ระหว่างนั่งทำงานรอ…ครูม้ง ซึ่งเป็น HFO ของเราเดินมาหา บอกว่า CEO เรียกพบ พี่ต๊อกบอกว่า เราอาจต้องทำเที่ยวบินรับคนไทยจากอู่ฮั่น มึ-งว่าไง ม้งพูดกับผมระหว่างเดินไปห้องทำงาน CEO

ตูกำลังคิดเรื่องนี้พอดี ว่าทำไมรัฐบาลไม่เอาคนออกมา ไม่มีปัญหาหรอก เดี๋ยวตูบินเอง ผมบอกกะม้ง

งั้นมึ-งกะตูบินด้วยกัน จะได้ตัดปัญหา ไม่ต้องเอาคนอื่นไปเสี่ยง ม้งบอกผมก่อนเข้าห้อง CEO

รัฐบาลขอความร่วมมือมา ให้เรารับคนไทย จากอู่ฮั่นพี่ว่าไง พี่ต๊อก เอ่ยขึ้น

พร้อมครับ ม้งตอบ เดี๋ยวผมสองคนบินเอง น้องลูกเรือก็ไม่น่ามีปัญหา งั้นผมตอบตกลงเขาไปนะ น่าจะประมาณวันที่ 1-2 เราพร้อมนะ พร้อมครับ เราตอบพร้อมกัน

วันรุ่งขึ้น ม้ง ผม และหัวหน้าลูกเรือ โดนเรียกให้ไปประชุมด่วนกับคณะทำงานของรัฐบาล ที่มีทั้งทีมแพทย์ ท่าฯ ตม.ทหาร ที่กรมกงสุล เราแบ่งหน้าที่กันทำตามความรับผิดชอบของแต่ละฝ่าย ส่วนวันเวลานั้น รอคอนเฟิร์มจากจีน

ขอให้เป็นความลับนะ ท่านอธิบดีบอกก่อนเลิกประชุม ผมเหลือบไปเห็นไลน์เด้งขึ้นมา เลยตอบไปว่า ไม่ลับแล้วล่ะครับ มีการแถลงแล้วว่าไปวันที่ 1 ทุกคนในห้องถอนหายใจดังเฮ้อ 

คนจะไปยังไม่รู้เลย ว่าจะไปวันไหน ผมคิดในใจ

เมื่อข่าวมันออกไป ว่าแน่นอน แอร์เอเชียเป็นคนไปรับคนไทย นักบินในกลุ่มไลน์ต่างเสนอตัว ที่จะไปทำหน้าที่นี้ จริง ๆ เขาคุยกันก่อนหน้านั้นแล้วล่ะ ว่าถ้ารัฐบาลให้เราทำ หลายคนเสนอตัวที่จะทำ โดยไม่รับเงินค่าบิน บางคนหลังไมค์มาก็มี ผมก็ตอบทีเล่นทีจริง ว่าให้ลงชื่อไว้ เราทำจริง ๆ ผมจะได้ไม่ต้องหาให้ยาก ปรากฏว่ามีคนสมัคร ทั้งหน้าไมค์หลังไมล์แป๊บเดียวเกือบ 20 คู่ ผมเลยต้องบอกว่า ผมพูดเล่น ยังไม่ความคืบหน้าว่าเราจะทำไหม

วันอาทิตย์ที่ 2 เราโดนเรียกเข้าประชุมวางแผนละเอียดอีกครั้ง หลังได้รับไฟเขียวจากจีน ว่าคือวันที่ 4 การนัดหมายโหลดของ การเดินทาง สถานที่รับตัวคนไทย ถูกสรุปในวันนั้น และทุกอย่างถูกกำชับให้เป็นความลับ

แต่มีคนเงยหน้ามาบอกว่า ทุกคนรู้แล้ว ว่าเราจะไปลงอู่ตะเภา ข่าวลงแล้ว

วันจันทร์ที่ 3 ทางทีมแอร์เอเชีย ถูกนัดหมายให้ไปซ้อม การใส่ขุดป้องกัน (PPE) เพราะหมอบอกว่า การใส่น่ะง่าย แต่การถอด อาจทำให้ติดเชื้อได้

การซ้อมรอบเช้ายังไม่สมบูรณ์ เพราะขั้นตอนการคัดกรองผู้โดยสารก่อนขึ้นเครื่อง ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ต้องให้ลูกเรือช่วย เราจึงต้องบรีฟกันอย่างละเอียด และเราต้องเข้าพบนายกฯในตอนบ่าย ก่อนที่น้อง ๆ จะกลับไปซ้อมอีกรอบ ส่วนผมกับอั๋นแยกตัวกลับ เมื่อเรากลับมาถึงบำราศนาดูร

เช้าวันที่ 4 วันออกเดินทาง ซึ่งคือเวลา 07.10 น. ผมนัดลูกเรือ ทีมแพทย์ 7 คน และเจ้าหน้าที่ กต 2 คน บรีฟขั้นตอนสุดท้าย ตอน 05.10 น.

ใครจะรับผิดชอบอะไรตอนไหน และ chain of command ใน cabin เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนไปในขากลับ

เมื่อประตูเปิดที่อู่ฮั่น ขอให้ลูกเรือ เขื่อฟังคุณหมอ ซึ่งนำโดย ผอ.ของบำราศ เพื่อหลีกเลี่ยงการติดเชื้อโดยไม่ตั้งใจ แต่เมื่อประตูปิดแล้ว การสั่งการเป็นหน้าที่ของหัวหน้าลูกเรือนะครับ จนกว่า sign off คุณหมอถึงกลับมานำอีกครั้ง เกิดมีผู้ป่วยฉุกเฉินบนเครื่อง หมอเป็นคนสั่งการ

แต่ถ้าเกิด Emergency ให้ลูกเรือเป็นคนสั่งการทั้งหมด ผมบรีฟคร่าว ๆ

ก่อนขึ้นเครื่อง รมต.สาธารสุขมาส่งที่เครื่อง มีการถ่ายรูปเป็นที่ระลึก 

เรา Landing ที่อู่ฮั่น ตอน 11.15 น. (เวลาในอู่ฮั่น) เรารีบกินข้าว และทำธุระส่วนตัว ก่อนที่จะบอร์ดผู้โดยสาร เพราะหมอบอกหลังจากนั้น เราจะไม่สะดวกอีก

เราใช้เวลาคัดกรอง และบอร์ด เกือบ 6 ชม. ซึ่งยาวนานมาก ผมกะอั๋นและ Engineer เก็บตัวในห้องนักบิน น้อง ๆ ลูกเรือ ช่วยหมอในการจัดที่นั่งผู้โดยสาร และออกที่นั่งให้ ทำไมต้องทำขนาดนั้น

1. เราต้องมั่นใจว่า คนที่อาจมีอาการ หรือติดเชื้อ ต้องถูกแยกไปนั่งต่างหาก และใช้ห้องน้ำที่แยกไว้ให้

2. คนที่มีแข็งแรงแต่อยู่พื้นที่เสี่ยง ต้องนั่งอีกโซน

3. กลุ่มสุดท้าย คือกลุ่มเสี่ยงน้อย จะจัดนั่งข้างหน้า
 


ผมงีบรอในห้องนักบินครับ แต่ตื่นขึ้นมาทีไร ผมก็ยังเห็นน้อง ๆ ทั้งหมอ และลูกเรือ ทำงานด้วยความร่าเริงตลอดเวลา มีการเอ็นเตอร์เทนผู้โดยสารตลอดเวลา

คุณคิดดูว่า ในมุมของผู้โดยสารคนแรก ต้องรอคนสุดท้ายเกือบ 6 ชั่วโมง มันน่าเบื่อขนาดไหน 

การบอร์ดอันยาวนาน สิ้นสุดลง เราเริ่มขออนุญาตถอย และทำการวิ่งขึ้นสนามบินที่เคยคับคั่งไปด้วยเครื่องบินจากนานาประเทศ ตอนนี้เป็นของเราคนเดียว

ขอพูดถึงทีมแพทย์ชุดนี้ เจ้าหน้าที่ กต. รวมถึงน้อง ๆ ลูกเรือของเรา ต้องขอบอก พวกเขาสุดยอด ทั้งความรู้ การเตรียมการ การทำตามแผนและนอกแผน

หลังจากการตรวจอันยาวนาน ตอนแรกเราจะให้ผู้โดยสาร แค่น้ำ 2 ขวด แซนวิช เจลล้างมือ ซึ่งจะวางไว้ที่ที่นั่ง ในแผนจะไม่มีการบริการอาหารร้อน

แต่ด้วยเวลาที่ทอดยาวออกไปผู้โดยสาร มารอตั้งแต่เช้า และไม่มีอะไรขายที่สนามบิน อาหารที่เราโหลดมาเพื่อใช้ในกรณีไดเวิร์ด ถูกนำมาใช้จนเกลี้ยง

โชคดีจริง ๆ ที่เราคิดถึงกรณีนี้ไว้ ตามข้อเสนอของปุ้ม หัวหน้าลูกเรือ เพราะถ้าเราไปลงสนามบินกลางทาง ในกรณีฉุกเฉิน ไม่มีใครให้เราลงจากเครื่องแน่ เราควรมีน้ำ และอาหารสำรอง ก่อนเครื่อง Rescue จะมารับ จากแผนไม่เสิร์ฟระหว่างเที่ยวบิน ต้องมาทำ Fulservice น้อง ๆ ลูกเรือ ต้องอุ่นอาหารแบบด่วน ทายสิครับ ใครจะเป็นคนเสิร์ฟ ทีมหมอ และพยาบาลสิครับ แม้แต่ ผอ.บำราศนาดูร ก็ได้ทดลองอาชีพสจ๊วตครั้งแรก คุณหมอ พยาบาล ที่ข้างล่าง คนเรียกอาจารย์ วันนี้ต่างทำหน้าที่บริการอาหารอย่างแข็งขัน

เรามีหมอจิตเวช และเจ้าหน้าที่ กต. ไปด้วย ทุกคนช่วยกันเอ็นเตอร์เทนผู้โดยสารตลอดเวลา เพื่อลดความเครียด ที่รอกลับบ้านเป็นเวลานาน ทุกคนทำหน้าที่ของตนอย่างสุดยอดจริง ๆ

เราลงที่อู่ตะเภา และตามคาด มีคนมากมายมารอทำข่าว และคุณหมอก็ได้ทำหน้าที่สุดท้ายของตนเองบนเครื่องบิน คือ ทำความสะอาดเครื่องบิน เก็บขยะลงถุงปลอดเชื้อ พ่นสเปร์ยฆ่าเชื้อ ก่อนทีมฆ่าเชื้อของฝ่ายช่างแอร์เอเชียจำมาทำซ้ำอีกรอบ

ผมไม่รู้ว่า เมื่อคืนนี้ผู้โดยสารผมได้นอนเมื่อไร ทีมหมอ และกต. ได้กินข้าวไหม เพราะผมแอบนำทีมลูกเรือหลบมาก่อน

ผมยอมรับในหัวใจ ของคุณหมอ และกต. ชุดนี้จริง ๆ ทำงานหนักตลอดวัน อย่างมีพลัง และร่าเริงตลอดเวลา ลูกเรือผมก็เช่นกัน

ถ้าจะมีใครถูกเรียกว่าฮีโร่ นั่นคือพวกเขาครับ ขอซูฮกทีมคุณหมอ และเจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ ทั้งสองคนด้วยใจจริง

จบการทำงาน 18 ชั่วโมง อันยาวนานครับ






Recommend News






MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.