จ่อออกหมายจับ "นักข่าวใหญ่" อ้างชื่อ ผอ.ป.ป.ช.ไปรีดเงินจากผู้บริหาร อบต.ร่วม 2 ล้านบาท
1 มิ.ย. 2562, 08:42
จากกรณีที่นายชาญชัย พลศรี ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่ของ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษ ได้ไปเข้าพบกับ พ.ต.อ.ศุภชัย ศักรินพานิชกุล รอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ และ พ.ต.อ.เสรี ภูษาชีวะ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญากับนาย ป. (นามสมมุติ) ผู้สื่อข่าว นสพ.ส่วนกลางฉบับหนึ่ง ประจำ จ.ศรีสะเกษ เนื่องจากว่า มีการแอบอ้างชื่อของ ผอ.ป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษ ไปเรียกรับเงินจากผู้บริหาร อบต.แห่งหนึ่งในเขต อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษ โดยอ้างว่า จะสามารถช่วยเหลือให้หลุดพ้นจากการถูกตั้งกรรมการสอบสวนกรณีถูกกล่าวหาว่า กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เบิกจ่ายเงินตามโครงการปรับปรุงถนนในเขตพื้นที่ อบต.แห่งหนึ่งในเขต อ.ศรีรัตนะ จำนวน 27 โครงการ ซึ่งรอง ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.เสรี ภูษาชีวะ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ เจ้าของพื้นที่ที่เกิดเหตุรับแจ้งความร้องทุกข์ไว้เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 31 พ.ค. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ นายสายันต์ ยมราช ประธานกรรมการชมรมสตรองจิตพอเพียงต้านทุจริต และคณะกรรมการ ซึ่งเป็นตัวแทนเครือข่ายจากทุกอำเภอทั้ง 22 อำเภอของ จ.ศรีสะเกษ ได้เดินทางมาพบกับนายชาญชัย พลศรี ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อมาขอรับทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และได้มอบดอกไม้เพื่อเป็นกำลังใจให้กับ นายชาญชัย ให้ต่อสู้เพื่อความถูกต้องในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เนื่องจากว่า เรื่องดังกล่าวนี้สร้างความเสียหายให้กับสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษเป็นอย่างมาก เพราะว่าไม่เคยมีข่าวเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย อีกทั้งการแอบอ้างดังกล่าวเป็นการอ้างเอาชื่อผู้บริหารระดับสูงของ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งไม่เคยมีประวัติด่างพร้อยในเรื่องการประพฤติมิชอบในชีวิตการรับราชการมาก่อนแต่อย่างใด
นายสายันต์ ยมราช ประธานกรรมการชมรมสตรองจิตพอเพียงต้านทุจริต กล่าวว่า ชมรมสตรองจิตพอเพียงต้านทุจริตเป็นเครือข่ายภาคเอกชนที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสอดส่องต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบตามนโยบายของ พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช.และคณะ มีเครือข่ายประจำอยู่ทุกอำเภอของ จ.ศรีสะเกษ และขณะนี้กำลังขยายเครือข่ายลงไปสู่ระดับตำบล เพื่อร่วมกันสอดส่องต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบอย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งตนได้รับทราบข่าวนี้ทางสื่อสารมวลชนแล้วมีความไม่สบายใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นการแอบอ้างเรื่องที่ไม่มีความเป็นไปได้เลย เนื่องจากพวกตนรู้ดีว่า การทำงานของ ผอ.ป.ป.ช.ประจำ จ.ศรีสะเกษและพนักงานสอบสวนทุกคนว่ามีการทำงานที่ตรงไปตรงมา ไม่เคยมีข่าวเรื่องการเรียกร้องเงินทองแต่อย่างใด เป็นองค์กรที่เชื่อถือได้อย่างสนิทใจ พวกตนจึงได้พร้อมใจกันมาให้กำลังใจกับ นายชาญชัย พลศรี ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษและพร้อมที่จะร่วมต่อสู้เพื่อความถูกต้องตามกฎหมายในเรื่องนี้อย่างเต็มที่
ซึ่งตนขอฝากไปถึงประชาชนชาว จ.ศรีสะเกษทุกคนว่า อย่าไปหลงเชื่อบุคคลที่แอบอ้างว่า จะสามารถให้การช่วยเหลือเมื่อมีเรื่องการถูก ป.ป.ช.แต่งตั้งกรรมการสอบสวนการทุจริตแล้วมีแอบอ้างชื่อข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เพื่อเรียกร้องเงินทองทรัพย์สิน เนื่องจากว่า ไม่มีใครสามารถให้การช่วยเหลือได้ วิธีการช่วยเหลือตนเองที่ดีที่สุดคือ การระมัดระวังไม่กระทำผิดกฎหมายต่าง ๆที่เกี่ยวข้องซึ่งเป็นการทุจริตประพฤติมิชอบในวงราชการนั่นเอง
นายชาญชัย พลศรี ผู้อำนวยการ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า เรื่องที่ตนถูกแอบอ้างชื่อเพื่อไปเรียกเงินทองจำนวนมากร่วม 2 ล้านบาทนี้ เกิดขึ้นมาตั้งแต่ปี 2558 เนื่องจากว่า อบต.แห่งหนึ่งในเขต อ.ศรีรัตนะ จ.ศรีสะเกษมีการเบิกจ่ายเงินโครงการปรับปรุงถนนจำนวน 27 โครงการไม่ถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย ตนจึงได้สั่งการให้ดำเนินการสอบสวนแสวงหาข้อเท็จจริงตามระเบียบกฎหมาย ซึ่งผู้ถูกกล่าวหา จำนวน 2 คนได้ไปวิ่งเต้นหาผู้มีบารมีคนหนึ่งให้ช่วยเหลือ และผู้มีบารมีได้มีการแจ้งว่าให้มาวิ่งเต้นกับนาย ป.นักข่าว (นามสมมุติ) ผู้สื่อข่าว นสพ.ส่วนกลางฉบับหนึ่ง ประจำ จ.ศรีสะเกษคนหนึ่ง โดยนาย ป.ได้แอบอ้างว่า มีความสนิทสนมกับตนและเรียกร้องเงินผู้ถูกกล่าวทั้ง 2 คน รวมเงินแล้วร่วม 2 ล้านบาท ซึ่งตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาย ป.นักข่าวคนดังกล่าวแต่อย่างใด
ดังนั้น จึงได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับ นาย ป. และได้ทำการสอบสวนบันทึกปากคำผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 2 คนและพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดไว้แล้ว ซึ่งพยานทุกคนได้มีการยืนยันชัดเจนว่า ได้จ่ายเงินให้กับนาย ป.นักข่าวใหญ่ที่แอบอ้างชื่อของตนไปแล้วจริง
ทางด้าน พ.ต.ท.ทองพูน ประกอบกิจ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ เจ้าของคดีนี้ กล่าวว่า ขณะนี้ตนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยได้เรียกพยานทุกคนมาทำการสอบสวนหาข้อเท็จจริง ซึ่งใกล้จะครบถ้วนเสร็จสิ้นแล้ว จากนั้นจะได้รายงานสำนวนการสอบสวนให้ พ.ต.อ.เสรี ภูษาชีวะ ผกก.สภ.เมืองศรีสะเกษ ทราบเพื่อพิจารณาและจะได้ออกหมายเรียก นาย ป. (นามสมมุติ)ผู้สื่อข่าว นสพ.ส่วนกลางฉบับหนึ่ง ประจำ จ.ศรีสะเกษ ผู้ถูกกล่าวหา ให้มารับทราบข้อกล่าวหา หากออกหมายเรียกไปแล้ว นาย ป.ไม่มาตามหมายเรียกก็จะออกหมายจับนาย ป.มาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป โ
ดยเรื่องนี้ พล.ต.ต.สุรเดช เด่นธรรม ผบก.ภ.จว.ศรีสะเกษ ได้สั่งการกำชับว่า ให้ดำเนินการตามกฎหมายด้วยความละเอียดรอบคอบและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องตามพยานหลักฐานและตามกฏหมายอย่างเต็มที่