สธ.ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเบตงคุมเข้มคัดกรองชาวจีนสกัดไวรัสโคโรนา
5 ก.พ. 2563, 18:22
วันที่ 5 ก.พ.63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง และคณะทำงานด้านสาธารณสุข พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนกฤต กองคำ สว.ด่าน ตม.เบตง ร.ต.อ.อนุศักดิ์ มงคลหัตถี รอง สว./หน.งานตรวจบุคคลและพาหนะ ชุดที่ 2 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว นักวิชาการสาธารณสุขด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเบตงร่วมกันลงพื้นที่ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศจีนโดยใช้เครื่องแฮนด์เทล วัดอุณหภูมิบริเวณหน้าผากและหู รวมทั้งแนะนำให้ใช้เจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ และแจกสารประชาสัมพันธ์เป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษแนะนำวิธีการป้องกันตนเอง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวว่าสามารถที่จะควบคุมเชื้อไวรัสโคโรน่า ไม่ให้เข้ามาระบาดในประเทศไทยได้
ขณะที่นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง และคณะทำงานด้านสาธารณสุข พร้อมส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบการจำหน่ายหน้ากากอนามัยตามร้านขายยาในพื้นที่ อ.เบตง ซึ่งเป็นผลพวงมาจากไวรัสโคโรนา
โดยพบว่าขณะนี้หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ เริ่มขาดแคลนแล้วและร้านที่มีจำหน่ายก็มีน้อยเนื่องจากประชาชนตื่นตัวและนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ มาหาซื้อหน้ากากอนามัยไปใช้จำนวนมาก บางส่วนก็ซื้อไปฝากญาติ นอกจากนี้ได้ขอความร่วมมือเจ้าหน้าที่ขนส่งเบตงในการติดคำแนะนำการป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธ์ใหม่ ตามคิวรถตู้โดยสาร และรถบัสประจำทาง
นายเปรมกมล โกศลวิทยาธรรม เจ้าของร้านสินฟาร์มาซีเบตง บอกว่า ในส่วนของราคาหน้ากากอนามัยมีการปรับราคาขึ้นบาง อย่างเช่นหน้ากากอนามัยแบบกระดาษ ราคาจากเดิม ชิ้นละ 5 บาท ปรับขึ้น เป็น 10 บาท ส่วนหน้ากากแบบ PM 2.5 ราคาเดิมชิ้นละ 40 บาท ปรับ เป็น 80 บาทต่อชิ้น แต่ที่ร้านยังคงขายราคาปกติแต่ไม่มีสินค้า เพราะไม่กล้าสั่งเพราะมีการปรับราคาส่งขึ้นมาเท่าตัว ทำให้ไม่สั่งในช่วงนี้ ส่วนเรื่องกักตุนหน้ากากอนามัยเพื่อเก็งกำไรจะไม่มีเพราะขณะนี้ร้านต่างๆได้เร่งสั่งหน้ากากอนามัยมาจำหน่ายแต่การส่งยังล่าช้าเพราะผู้ผลิตก็ผลิตไม่ทันและมีการสั่งซื้อจากทั่วประเทศ
นายวงศ์วิทย์ อัครวโรทัย สาธารณสุขอำเภอเบตง กล่าวว่า หากหน้ากากอนามัยขาดแคลนหรือไม่มีใช้จริงๆทางสาธารณสุขอำเภอเบตงจะทำการประสานกับทางสาธารณสุขจังหวัดเข้ามาดูแลในเรื่องจัดหาหน้ากากอนามัยเพื่อให้ประชาชนได้สวมใส่ต่อไป