วันนี้ ( 5 ก.พ.63 ) เวลา 11.30 น. ณ ห้องประชุมราชสีห์ อาคารศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) พร้อมด้วย นายสุกรี มะเต๊ะ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะทำงานฯ ร่วมประชุมคณะกรรมการการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) โดยมี คณะกรรมการ และผู้บริหารของการประปาส่วนภูมิภาค เข้าร่วมการประชุมและรับมอบนโยบาย

ดร.ทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ได้มาร่วมประชุมกันระหว่างคณะกรรมการบริหารฯ และผู้บริหาร กปภ. ซึ่งในขณะนี้ การใช้งบประมาณแก้ไขปัญหาภัยแล้งในบางพื้นที่จะต้องอาศัยอำนาจของคณะกรรมการฯ ในการพิจารณาอนุมัติ และการบูรณาการระหว่างหน่วยงานเพื่อแก้ไขปัญหา การดำเนินงานบางอย่างอาจเกิดความล่าช้าเนื่องจากขั้นตอนทางข้อกฎหมาย เช่น การขุดลอกอ่างเก็บน้ำในความดูแลรับผิดชอบของหน่วยงานราชการอื่น ยกตัวอย่างในพื้นที่ จ.สุรินทร์ และ จ.บุรีรัมย์ งบประมาณที่จังหวัดจะพิจารณาเพื่อแก้ไขอย่างเร่งด่วนอาจติดปัญหาเกี่ยวกับระเบียบ ดังนั้น ขอให้ผู้บริหารต้องกล้าตัดสินใจบนพื้นที่ฐานของข้อกฎหมาย หรือระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

ดร.ทรงศักดิ์ฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำงานทุกเรื่องที่กระทบต่อพี่น้องประชาชนต้องถูกตรวจสอบโดยใช้ความละเอียดและรอบคอบในการตัดสินใจ จึงขอให้ยึดความถูกต้อง บนพื้นฐานระเบียบ กฎหมาย และตรงกับความต้องการของประชาชน พร้อมทั้งได้เน้นย้ำให้ การประปาส่วนภูมิภาค หรือ กปภ. ตรวจ ติดตามการผลิตน้ำสำหรับอุปโภค-บริโภค ให้เพียงพอต่อความต้องการของพี่น้องประชาชน ซึ่งทราบดีว่ายังมีหลายพื้นที่ที่ยังมีความต้องการรับบริการน้ำประปาอยู่ ในอนาคตการให้บริการน้ำประปาจะขยายตัวมากขึ้นตามการขยายตัวของชุมชน พร้อมทั้งจะเร่งเพิ่มขีดความสามารถในการผลิตน้ำประปาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยให้เตรียมการจัดทำแผนเตรียมความพร้อมในเชิงรุก เช่น การให้คำแนะนำคุณภาพน้ำประปาให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือการขยายเขตการให้บริการ คณะกรรมการฯ ถือเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ จึงอยากให้มีการแต่งตั้งคณะทำงานศึกษาร่วมกันในทุกเรื่องเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับประโยชน์ของประชาชน

สำหรับกรณีเรื่องน้ำสูญเสียที่แต่ละปีมีน้ำสูญเสียประมาณ 30-40% เป็นเงินจำนวนมากในแต่ละปี ดังนั้นเรื่องน้ำสูญเสียเป็นหัวใจสำคัญ หากแก้ปัญหาตรงนี้ได้ จะมีงบประมาณกลับคืนมาใช้เพื่อการพัฒนากิจการต่อไปในอนาคต และในกรณีของปัญหาฝุ่น PM 2.5 ขณะนี้ทุกหน่วยงานก็มีมาตรการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ในส่วนของ กปภ. มีมาตรการในการแก้ไขปัญหา คือ ได้กำชับให้ ผู้รับจ้าง ตามโครงการก่อสร้างต่าง ๆของ กปภ. ช่วยลดเเละป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาฝุ่น PM 2.5 เพื่อไม่ให้มีฝุ่นละอองขนาดเล็กมาสะสมเพิ่มขึ้นมากขึ้นไปกว่านี้ จนเป็นเหตุให้เกิดปัญหาในด้านสุขภาพเเก่พี่น้องประชาชน