เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2562 นายปิยะ เทศแย้ม นายกสมาคมประมงพื้นบ้านทุ่งน้อย ต.เขาแดง อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะแกนนำกลุ่มประมงพื้นบ้านเข้มแข็งระดับประเทศ เปิดเผยว่า หลายฝ่ายได้แสดงความเห็นและมีข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันปัญหาปลาทูไทยใกล้สูญพันธ์ในระยะเวลา 5 ปี จากการจับลูกปลาทูขนาดเล็กไปจำหน่าย ซึ่งมีแนวโน้มเป็นวิกฤติปลาทูไทย เหมือนปลาชนิดอื่นที่หมดไปจากทะเลก่อนหน้านี้ เนื่องจากการบริหารจัดการของกรมประมง ขาดความกล้าหาญในการเปลี่ยนจากวิกฤตให้เป็นโอกาส การคอรัปชั่นยังฝังรากลึก เจ้าหน้าที่บางรายที่มีอำนาจยังแสวงหาผลประโยชน์ ทำให้การบังคับใช้กฎหมายล้มเหลว รวมทั้งผู้มีอำนาจในรัฐบาลยังเกรงใจนายทุนผู้ประกอบอุตสาหกรรมน้ำปลา เพราะการออกกฎหมายบางเรื่องอาจจะมีผลกระทบ

“การแก้ไขปัญหาเพื่อป้องกันปลาทูสูญพันธ์สามารถทำได้ จากการใช้พระราชกำหนดการประมง2558 -2560 โดยให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ออกประกาศตามมาตรา 57 ห้ามผู้ใดนำสัตว์น้ำที่เล็กกว่ารัฐมนตรีประกาศกำหนดขึ้นเรือประมง หรือการกำหนดขนาดสัตว์น้ำ แต่ยังไม่มีประกาศ การติดตั้งระบบติดตามเรือที่ใช้เครื่องมือสุ่มเสี่ยงลักลอบทำประมงในพื้นที่ห้ามทำการประมง เช่น อวนลาก อวนล้อม คราดหอย ปั่นไฟครอบกะตัก การแก้นิยามมาตรา 5 เรื่องการแบ่งขนาดของเรือ 10 ตันกรอส เป็นประมงพาณิชย์ให้ดูที่เครื่องมือ และหรือความยาวของเครื่องมือ เพราะเมื่อแบ่งขนาดที่น้ำหนักเรือ จะทำให้ชาวประมงแย่งพื้นที่กินในเขตทะเลชายฝั่ง และควรให้อำนาจคณะกรรมการประมงประจำจังหวัด ในเขตชายฝั่ง 12ไมล์ทะเล เพื่อติดตามการใช้เครื่องมือแต่ละประเภท ควรอยู่ห่างฝั่งกี่ไมล์ทะเล ผ่านการจัดโซนนิ่งเครื่องมือประมง” นายปิยะ กล่าว