จากกรณีตัวแทนชาวบ้านตำบลท่าหิน อ.สวี จ.ชุมพร รวมตัวถือป้ายเดินขบวนเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2562 เพื่อคัดค้านการเปิดโรงงานสารเคมีในพื้นที่หลังไม่ผ่านประชาคมแต่อุตสาหกรรมจังหวัดชุมพรออกใบอนุญาติประกอบกิจการโรงงานทำเคมีภัณฑ์ สารเคมี หรือวัสดุเคมี เช่น อีพอกซี่ เรซิ่น ให้จึงสร้างความไม่พอใจทวงถามว่าเปิดขึ้นได้อย่างไรโดยให้เหตุผลว่าอาจก่อให้เกิดมลพิษต่อสุขภาพ ทางอากาศ น้ำ เสียง และฝุ่นละออง พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่สีเขียวไม่เหมาะกับการตั้งโรงงานสารเคมีเพราะอยู่ใกล้ ชุมชน วัด โรงเรียน โรงพยาบาลสุขภาพตำบล (รพ.สต.)

หลังจากนั้นอุตสาหกรรมจังหวัดชุมพรนัดหมายชาวบ้าน หมู่ 6 ตำบลท่าหิน ทำความเข้าใจการขออนุญาตการก่อตั้งโรงงานของบริษัทฯ ว่าทำตามขั้นตอนถูกต้องตามระเบียบข้อกฎหมาย ส่วนด้านเจ้าของโรงงานพยายามกลับมาทำความเข้าใจกับชาวบ้านถึงขั้นตอนรายละเอียดขบวนการผลิตสารเคมีต่างๆ ว่าไม่มีอันตรายตามที่ชาวบ้านเข้าใจ แต่ปรากฏว่าไม่เป็นผลทำให้เหตุการณ์ยืดเยื้อมากว่า 2 เดือน

 

 

 

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 6 ก.พ. 63 ที่ศาลาหมู่บ้าน หมู่ 6 บ้านห้วยปลิง ต.ท่าหิน อ.สวี จ.ชุมพร นายบุญก้อง ศรีสงคราม ปลัดอำเภอสวี หัวหน้าฝ่ายความมั่นคงร่วมกับนายอนันต์ ผุดไซตู ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ส.อบต.ท่าหิน โดยมี นางสาวเจริญขวัญ แก้วทองราช หัวหน้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุสาหกรรม จ.ชุมพร นางสาวพิชชญาณ์ ภุ่เจริญวงศ์ อายุ 27 ปี ชาวนครศรีธรรมราช เจ้าของโรงงาน (บริษัท ไท่ฮั๋ว อินเตอร์ เนชั่นแนล จำกัด )และสามีชาวจีน พร้อมด้วย นายบรรเจิด แก้วบังตู นายสมชาย หนูภักดี และตัวแทนชาวบ้านเกือบ 100 คน จัดประชุมประจำเดือนหมู่บ้านโดยมีนายอนันต์ ผู้ใหญ่บ้านแจ้งวาระในที่ประชุม

หลังจากนั้นให้ นายบุญก้อง ศรีสงคราม ปลัดอำเภอสวี หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ได้กล่าวถึงปัญหายาเสพติด ต่อด้วยเรื่องโรงงานที่เป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ว่า ที่เดินทางเข้ามาร่วมประชุมนั้นเพื่อเป็นคนกลางในการเจรจาถึงปัญหาดังกล่าวพร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายและเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนแต่ตนไม่สามารถพูดถึงรายละเอียดขั้นตอนการออกใบอนุญาติของอุตสาหกรรมจังหวัดจึงมีเจ้าหน้าที่เดินทางมาร่วมด้วย

ในขณะที่ นางสาวเจริญขวัญ แก้วทองราช ตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานอุตสาหกรรม จ.ชุมพร กำลังจะชี้แจงขั้นตอนการออกใบอนุญาติให้โรงงานฯในที่ประชุมปรากฏว่า ชาวบ้านได้ลุกขึ้นจากเก้าอี้บอกว่า “ไม่อยากคุยและไม่อยากรับฟังอะไรอีกฟังมาหลายรอบแล้ว พร้อมทั้งบอกให้นายบุญก้อง ปลัดอำเภอสวี หรือ ใครก็ได้นำเรื่องแจ้งให้กับหน่วยเหนือผู้มีอำนาจมาปิดโรงงานเลย ไม่อยากให้มีโรงงานขอความกรุณานะคะ” พร้อมทั้งยกมือไหว้ โดยปลัดอำเภอ กล่าวว่า “ทำไมไม่เปิดโอกาสให้เขาได้พูดบ้าง” ทำให้ นางสาวเจริญขวัญ ผิดหวังในการชี้แจงแต่ยังมีรอยยิ้มตลอดเวลา

ด้าน นางสาวพิชชญาณ์ เจ้าของโรงงาน เผยทั้งน้ำตาว่า ตนเดินทางเข้าร่วมประชุมนำสารวัสดุตัวอย่างทั้ง 3 ชนิด พร้อมที่จะอธิบายให้ชาวบ้านเข้าใจถึงขบวนการผลิตว่าไม่เป็นอันตรายอย่างที่เข้าใจ โรงงานผลิตเพียงวัสดุของสีซึ่งเป็นเกล็ดใสๆ สัมผัส และแตะต้องได้ เพื่อนำส่งให้กับโรงงานผลิตสียี่ห้อดังๆ เท่านั้น ขณะเดียวกันถ้าชาวบ้านมีข้อข้องใจสงสัยทางโรงงานยินดีเปิดให้เข้าชมได้หรือมีข้อบกพร่องในขบวนการผลิต ซึ่งส่งผลทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนโรงงานพร้อมแก้ไขโดยทันที

นางสาวพิชชญาณ์ เผยอีกว่า ตนเองรู้สึกเสียใจลงทุนไม่น้อยและทำตามขั้นตอนทางกฎหมายทุกอย่าง แต่ชาวบ้านไม่เปิดใจและรับฟังเหตุผลจะไม่เอาอย่างเดียวทั้งๆ ที่ไม่ได้เดินเครื่องผลิตเลย อีกอย่างหนึ่งที่ชาวบ้านร้องเรียนเห็นว่ามีกลุ่มควัน ไอ พวยพุ่งออกมานั้น ตนเองยอมรับว่าเป็นควันจากการเผาไม้ฟืนไม่เป็นสารพิษ เป็นไอจากการเทสน้ำต้ม เอชทูโอ ทั้งนี้ทำทุกช่องทางแล้วในเมื่อชาวบ้านไม่ยอมรับเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาจำเป็นต้องหยุดไว้ก่อนโดยจะเดินทางไปที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดเพื่อแจ้งให้ทราบต่อไป

ส่วน นายอนันต์ ผุดไซตู ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวต่อชาวบ้านในที่ประชุมว่า มีกระแสสังคมในพื้นที่อ้างว่าตนไปรับเงินจากการวิ่งเต้นขอเปิดโรงงานนั้น หลังทราบข่าวรู้สึก น้อยใจ เสียใจตนพร้อมจะชี้แจงในที่ประชุมต่อหน้าชาวบ้านแต่ไม่เปิดโอกาสให้พูด ตนเองทำงานเพื่อประชาชนเป็นผู้ใหญ่บ้านมาครบ 7 ปี ไม่เคยมีประวัติไม่ดีตนเป็นคนกลาง ซึ่งเมื่อมีข่าวแบบนี้ออกมาเหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรม