วันนี้ (25 มิ.ย. 2562) ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า หลังจากที่ทางหน่วยงาน ทหารชุดเฉพาะกิจลาดหญ้า ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ตำรวจ ตชด. ที่ 13 ค่ายพระพุทธยอดฟ้า ตำรวจ ตม. เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ได้ทำการสนธิกำลังตรวจสอบพบขบวนการขนยาเสพติดพบรถยนต์กระบะ และรถเก๋ง พบยาเสพติดยาไอซ์ และยาบ้าซุกซ่อนมากับรถทั้ง 2 คัน

โดยรายแรกมี น.ส.กรรณิกา หรือ เอ ภู่ขาว พร้อมนายปิยะ สุริยวงษา สามี พบของกลางยาบ้าจำนวน 591 เม็ด ยาไอซ์ 742.7 กรัม ขยายผลพบรถยนต์อีก 3 คันจักรยานยนต์ 1 คัน

รายที่ 2 จับกุมนางสาววนิชา หรั่งฤทธิ์ และ นางสาวภารดี อ่อนน้อม พร้อมของกลางยาบ้า 2,000 เม็ด และรถยนต์ 1 คัน

รายที่ 3 จับกุม นายจิรวุฒิ หรือเจมศ์ บุหงาวิลาสินี พร้อมของกลางยาบ้า 8,000 เม็ด

รายที่ 4 เจ้าหน้าที่สนธิกำลังทุกฝ่ายตรวจสอบรถยนต์ 2 คัน บริเวณจุดตรวจบ้านลันตี ตรวจค้นรถยนต์กระบะ โดยมี นายพิษณุ เหมือนบุตร พบยาไอซ์ซุกซ่อน 20 กิโลกรัม พร้อมรถยนต์กระบะ และอีกคันเป็นรถยนต์เก๋ง มีนาย ศกรกาญจน์ เกตุศรี ค้นพบยาไอซ์ซุกซ่อนน้ำหนัก 39 กิโลกรัม และรถยนต์เก๋ง

โดยทั้งหมดจับได้ในวันที่ 20 มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมา และต่อมาหลังจากที่ทางรองผู้บัญชาการตำรวจภาค 7 พลตำรวจตรี กฤษณะ ทรัพย์เดช ได้เดินทางไปแถลงข่าวด้วยตนเอง พร้อมกับหน่วยงานชุดที่จับกุม โดย รอง.ผบช.ภาค 7 ได้กำชับให้ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจน์ เข้มงวดกับการตรวจสอบ เนื่องจากได้รับจากสายข่าวว่าขบวนการขนย้ายยาเสพติดโดยเฉพาะยาไอซ์ จะเปลี่ยนเส้นทางจากทางภาคเหนือ มาเป็นทางภาคตะวันตกแทน แต่ยังไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุที่ทางภาคเหนือมีการเข้มข้นในการตรวจสอบจับกุม หรืออื่นใด โดยยาทั้งหมดเข้ามาจากเพื่อนบ้าน และเป็นขบวนการเดียวกับที่จังหวัดปทุมธานี ที่มีการจับได้ไปก่อนหน้านี้ เนื่องจากถุงบรรจุเป็นยี่ห้อเดียวกันทั้งหมด

ต่อมาวันที่ 21 มิ.ย.62 เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.ลาดหญ้า ประจำจุดตรวจร่วมสามแยกทองผาภูมิ หมู่ 2 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทองผาภูมิ เจ้าหน้าที่ ตชด.135 และ จนท.ฝ่ายปกครอง อ.ทองผาภูมิ

พบรถยนต์ผิดสังเกตและมีพิรุธ จำนวน 2 คัน จึงส่งสัญญาณให้หยุดรถ และดำเนินการควบคุมรถดังกล่าวไว้ ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบภายในรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า รีโว้ สีเทา หมายเลขทะเบียน บว 9067 สุพรรณบุรี มี นายวิษณุ จันทร์มา อายุ 33 ปี ที่อยู่ 116/21 หมู่ที่ 1 ต.ท่าม่วง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี เป็นคนขับ

เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจค้นภายในรถอย่างละเอียดพบยาไอซ์ จำนวน 126 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในกระบะท้าย ซึ่งดัดแปลงเจาะเป็นช่องซุกซ่อนยาเสพติด ส่วนผู้ต้องหาอีกหนึ่งราย คือ นายณรงค์ สุขสาระพันธ์ อายุ 36 ปี ที่อยู่ 90/3 หมู่ที่ 1 ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี  ขับรถ ยี่ห้อ มิตซูบิชิ สตาร์ด้า สีบอร์นซ์ หมายเลขทะเบียน บท 9484 กาญจนบุรี

เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจค้นภายในรถ พบยาบ้าซุกซ่อนอยู่บริเวณที่วางเท้าโดยดัดแปลงเจาะเป็นช่องเก็บของ จำนวน 7 มัด (ประมาณ 14,000 เม็ด) สอบถามนายณรงค์รับว่าซื้อมาจาก นายหนึ่ง ไม่ทราบชื่อสกุลจริง เป็นชาวพม่า อายุประมาณ 30 ปี ในราคา มัดละ 50,000 บาท รวม 350,000 บาท โดยจ่ายเงินสดไปแล้ว จำนวน 175,000 บาท

เเละเมื่อขยายผล จากการจับกุมดังกล่าว นายวิษณุ ให้การว่า มีรถยนต์ขับนำตนอีก 2 คัน เจ้าหน้าที่จึงได้รีบแจ้งให้ จุดตรวจที่ อ.ไทรโยค ดำเนินการสกัดกั้นรถยนต์คันดังกล่าว พบรถยนต์ยี่ห้อ นิสสัน นาวาร่า สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ฒฆ 922 กทม. และ รถยนต์โตโยต้า คัมรี หมายเลขทะเบียน ฌฉ 7554 กทม. ได้ผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย

ประกอบด้วย 1. นายทวี ตาสว่าง อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 168 หมู่ 10 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี 2.นายประดิษฐ์  ชวนชื่น อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/4 หมู่ 2 ต.พระแท่น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี และ 3. นายนพรัตน์ แซ่กี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 หมู่ 2 ต.หนองกร่าง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี

จากการตรวจค้นรถยนต์ดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวน 211 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่บริเวณท้ายกระบะยี่ห้อนิสสัน ซึ่งดัดแปลงเจาะเป็นช่องเก็บของ หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวผู้ต้องหาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการทางกฎหมาย

และจากการตรวจค้นตัว นายประดิษฐ์ ชวนชื่อ พบเงินสด จำนวน 200,000 บาท ส่วนนายนพรัตน์ แซ่กี พบ เงินสดจำนวน 139,000 บาท และ นายทวี ตาสว่าง พบสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท พร้อมพระเลียมทองหลวงปู่ทวด รวมทั้งแหวนทอง

สำหรับการจับกุมและขยายผลดังกล่าว ได้ของกลางเป็นยาบ้า จำนวน 14,000 เม็ด มูลค่า 350,000 บาท และยาไอซ์รวม 337 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่ายาไอซ์ภายในประเทศเบื้องต้นไม่ต่ำกว่า 340 ล้านบาท แต่หากสามารถหลุดลอดออกไปนอกประเทศ จะมีมูลค่าเกือบ 2,000 ล้านบาท

โดยล่าสุดในวันนี้ พลตำรวจตรี สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผบก.ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี ได้ทำการประชุมเจ้าหน้าที่หัวหน้าสถานที่ตำรวจทั้ง 13 อำเภอ เน้นการตรวจสอบขบวนการขนยาเสพติด รวมถึงสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด ตลอด 24 ชั่วโมง โดยเฉพาะพื้นที่ติดชายแดนอำเภอสังขละบุรี เส้นทางกว่า 200 กิโลเมตร มีการตั้งจุดตรวจมั่นคงจำนวน 5 จุดตรวจ บูรณาการร่วมกันระหว่างตำรวจ ทหาร พลเรือน ในจำนวน 5 จุด เป็น อำเภอสังขละบุรี 3 จุด ทองผาภูมิ 1 จุด และอำเภอไทรโยค อีก 1 จุด โดยจะตั้งตลอด 24 ชั้วโมง เพื่อสกัดเส้นทางลำเลียง