จากการสอบถามเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียง เขากลับมาบ้านทุกเสาร์-อาทิตย์ เล่าให้ฟังว่า พบคนมาอยู่อาศัยที่บ้านเป็นระยะเวลา 1 เดือน เห็นทำอาหารกินหลังบ้าน มีคนเดินทั่วบ้าน เพื่อนบ้านคิดว่าเป็นเจ้าของบ้าน จึงไม่ได้สงสัยอะไร แต่เราติดใจอยู่ 1 เรื่อง ตอนมันมาขนเอาข้าวสาร+ตู้เย็น ทำไมไม่มีใครเห็น หรือเห็นแต่ไม่พูด บ้านวังฮางอยู่ยาก โจรชุม เสียหายไปเท่าไหร่แล้ว ตำรวจบอกว่ารอบนี้จะไม่ให้ผิดหวังรอชมผลงานตำรวจอยู่น่ะค่ะ

 

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่บ้านหลังหนึ่งที่บ้านวังฮาง หมู่ 2 ต.สร้อยพร้าว อ.หนองหาน จ.อุดรธานี พบเป็นบ้านที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ลักษณะเป็นบ้านทรงโมเดิร์นชั้นเดียว ติดกับถนนใหญ่ในเนื้อที่ประมาณ 100 ตารางวา ต่อมาพบกับเจ้าของบ้านคือนายวิบูลย์ คชรัตน อายุ 55 ปี ทำอาชีพธุรกิจส่วนตัวที่จ.สมุทครสาคร และ นางชิตชนก บุญเกิด อายุ 51 ปี ภรรยา

 

 

โดยสามีภรรยาพาผู้สื่อข่าวสำรวจภายในบ้าน ซึ่งมี 2 ห้องนอน 1 ห้องโถง 1 ห้องน้ำ และ 1 ห้องครัว ที่เพิ่งช่วยกันทำความสะอาด และเก็บกวาดสิ่งของที่รกภายในบ้าน หลังจากพบขี้ยามาอาศัยอยู่จนบ้านเละ โดยภายในบ้านพบว่าห้องนอนห้องแรกก่อนหน้านี้ พวกขี้ยาคาดว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 5 คน ทั้งชายและหญิงพากันมานอนที่นี่ ทั้งทำกับข้าว อุปกรณ์เสพยา และมีถุงยางอนามัยใช้แล้งตกอยู่ด้วย นอกจากนี้ ข้าวเปลือก 5 กระสอบที่ซื้อเอาไว้ก็หายไป ตู้เย็นขนาด 8 คิวก็หายไป และยังมีที่นอนและอุปกรณ์ทำครัว ที่เตรียมใช้ในวันขึ้นบ้านใหม่ ในเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ ก็หายไปหมด

 

 

นายวิบูลย์ นางชิตชนก สองสามีภรรยา เปิดเผยว่า พวกตนเป็นคนที่บ้านวังฮาง แต่ย้ายไปทำมาหากินที่ จ.สมุทรสาครเกือบ 20 ปีแล้ว โดยทำธุรกิจขายของ เก็บเงินได้ก้อนหนึ่ง ก็เลยตกลงกันมาซื้อสร้างบ้านในที่ตนเองที่บ้านเกิด เริ่มสร้างเมื่อปี มี.ค.62 เสร็จเดือนต.ค.62 หมดไปประมาณ 1,300,000 บาท เป็นเงินที่พวกเราเก็บสะสมกันมา อยากได้บ้านอยู่ในบั้นปลายชีวิต สร้างบ้านเสร็จก็พากันดีใจ หวังว่าบั้นปลายชีวิตหลังจากเกษียณตัวเองจะพากันกลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ แต่พอสร้างบ้านเสร็จ เราก็ยังไม่ได้กลับมาอยู่บ้าน ยังทำงานอยู่ที่จ.สมุทรสาคร

นางชิตชนก กล่าวว่า วันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา นั่งรถมาดูบ้านที่สร้างเสร็จใหม่ แต่ตนมาคนเดียวก็ไม่กล้านอน จึงไปนอนกับญาติ แต่เอากระเป๋าไว้ที่บ้านหลังนี้ ปรากฎว่าตื่นเช้ากลับมาที่บ้านกระเป๋าถือของตนโดนค้น เงินในกระเป๋าหายหมด เงินหายาก เงินสะสม มูลค่าหลักหมื่นถ้าเอาไปขายแหล่งซื้อจริงๆ มูลค่าหลักแสน แจ้งตำรวจอ.หนองหาน ตำรวจมาพิมพ์ลายนิ้วมือ พร้อมกับขอค่าน้ำมันรถ 1,000 บาท เราก็ให้

ผ่านมาอีกเดือนม.ค. เราเอะใจ เพราะปกติค่าไฟบ้านหลังนี้จะเดือนละประมาณ 50 บาท แต่ปรากฏว่าเดือนม.ค.63 ปรากฏว่าค่าไฟขึ้นไปถึง 275.56 บาท ก็เลยแปลกใจ จึงรีบโทรบอกญาติมาดูที่บ้านให้หน่อย และวีดีโอคอลให้ดูสภาพบ้าน ญาติก็บอกว่าหน้าบ้านก็ปกติ แต่พอไปดูหลังบ้านก็เจอประตูหลังบ้านเปิด เมื่อญาติเดินไปดูภายในบ้านแทบตกใจ เจอบ้านเละไม่เป็นท่า พอเห็นสภาพบ้านเละในวีดีโอคอล ตนจึงรีบชวนสามีขับรถจากสมุทรสาครเกือบ 600 กิโลเมตร ลงมาดูบ้านทันที เมื่อวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา พอมาเจอสภาพบ้านแทบเข่าทรุด รับไม่ได้กับสภาพที่สร้างบ้านเพิ่งเสร็จใหม่ๆ ทั้งที่ยังไม่ได้เข้าอยู่กันเลย ข้าวของภายในหายหมด

นอกจากพวกนี้จะพากันมากินมาอยู่ภายในบ้านทำเละสกปรกเต็มบ้านมีร่องรอยพากันมาทำกับข้าว นอนในห้องมีถุงยางอนามัยที่ใช้แล้ว มีอุปกรณ์เสพยา เข็มฉีดยา เยี่ยวในขวด ทิ้งเกลื่อนภายในบ้าน เหมือนพากันจัดปาร์ตี้กันอยู่กันมาเป็นเดือน

 

 

“มาดูที่บ้าน ตู้เย็นขนาด 8 คิวก็หาย ข้าวเปลือก 5 กระสอบ อุปกรณ์ทำครัวที่เอาไว้สำหรับขึ้นบ้านใหม่ในเดือนเม.ย.ที่จะถึงนี้ก็หายหมด เราท้อมาก บ้านที่พวกเราเก็บเงินทิ้งชีวิต เพื่อมาอยู่แต่พวกขี้ยามาทำบ้านเละและมาอยู่ก่อนเจ้าของบ้านเสียแล้ว เราก็ไปแจ้งความกับตร.ที่สภ.หนองหาน อีกรอบ ตร.เขาก็มาดู จนถึงตอนนี้ก็ยังตามจับไม่ได้ อยากจะขอร้องให้ตร.ตามจับให้หน่อย เพราะพวกขี้ยาพวกนี้ทำไมทำกันไม่ได้แบบนี้ บ้านที่พวกเราสร้างเรายังไม่ได้มาอยู่เลย คนอื่นเข้ามาอยู่ในบ้านทั้งสิ่งของภายในบ้านหายไปอีก หากมีพวกขี้ยาขึ้นรอบ 3 คงขายบ้านทิ้งแน่” 2สามีภรรยา กล่าว