เจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ สกัดจับ 3 ผู้ต้องหาพ่อแม่และลูกสาวไม่สนใจโรคระบาด ขณะใช้รถยนต์ปิกอัพขนย้ายกระรอกบินกว่า 77 ซาก เพื่อนำไปขายต่อในตลาดค้าสัตว์ป่าเขต จ.สกลนคร พร้อมแจ้งข้อหาหนักตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าปี 62

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 12 ก.พ. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า นายไพรัชย์ วงศ์หน่อ หัวหน้าสำนักงานสนับสนุนการป้องกันและปราบปรามที่ 2 (ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ) ได้รับแจ้งว่า จะมีการขนย้ายซากสัตว์ป่าสงวนและคุ้มครองจากริมโขงในเขต อ.ปากคาด จ.บึงกาฬ มุ่งหน้าไปตามถนนสายปากคาด-โซ่พิสัย-คำตากล้า จึงได้สั่งการให้ นายบัญชา เตียงงา หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษ สปป.2 (ตอ/น) สนธิกำลังกับ พ.ต.ท.ทรงยศ หินนนท์ รอง ผกก.สส.สภ.ปากคาด พ.ต.ท.ประทีป ชูศรี รอง สว.ผกก.กก.3 บก.ปทส.ร.ต.อ.รัชพล อุทรักษ์ รอง สว.สส.ปทส.ภ.4 และ นายปิยะพันธ์ แซ่โค้ว จนท.ด่านตรวจสัตว์ป่าหนองคาย

 

 

 

 

ขณะออกตรวจตามเส้นทาง อ.ปากคาด อ.โซ่พิสัย พบรถยนต์ปิกอัพ ยี่ห้อซูซุ รุ่นดีแม็กซ์ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บร 1624 สกลนคร วิ่งผ่านมาท่าทางมีพิรุธ จึงขับรถยนต์ไล่ติดตามไปอย่างกระชั้นชิดและไปทันกันที่หน้าป้อมตำรวจชุมชนบ้านหนองยอง ต.หนองยอง อ.ปากคาด จึงได้ส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อตรวจค้น ทราบชื่อคนขับ นายพนม ศิริยานน อายุ 62 ปี บ้านเลขที่ 320 หมู่ที่ 14 ต.คำตากล้า อ.คำตากล้า จ.สกลนคร ผู้โดยสารมาด้านในมี นางหนูกาญจน์ ศิริยานน อายุ 54 ปี และ น.ส.วฤนดา ศิริยานน อายุ 37 ปี สามพ่อแม่และลูกสาว  ค้นในถังใส่น้ำแข็งขนาด 300 ลิตร ที่บรรทุกมาด้านหลังกระบะรถ พบซากสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครองจำนวนมาก ตรวจนับดูได้ซากกระรอกบินสีเขม่า จำนวน 29 ซาก เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกเลี้ยงลูกด้วยนมลำดับที่ 10 ซาก กระรอกบินแก้มแดง จำนวน 48 ซาก เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองจำพวกเลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 6