วันที่ 13 ก.พ. 63 ผู้สื่อข่าว ONB news รายงานว่า พาชมสวนผลไม้ และพืชผสมผสาน ต้นแบบด้านเศรษฐกิจพอเพียง Young Smart Farmer ของ 2 สามีภรรยา ชาวอำเภอบ้านไร่ ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาปรับใช้ในการดำรงชีวิตและประกอบอาชีพเลี้ยงครอบครัว จนทำให้ชีวิตมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และเป็นต้นแบบให้กับประชาชนจำนวนมาก ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้แบบห้องเรียนธรรมชาติ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

 

 

โดย นายมงคล ยืนยง อายุ 43 ปี หมู่ 1 ตำบลคอกควาย อำเภอบ้านไร่ จังหวัดอุทัยธานี เล่าว่า ตนเองพร้อมด้วยภรรยาและครอบครัว ร่วมกันทำสวนแห่งนี้ขึ้นบนพื้นที่ 18 ไร่ โดยทำการปลูกไม้ผล ไม้ยืนต้น และพืชผัก หลากหลายชนิด สามารถเวียนออกให้ผลผลิตได้เก็บไว้กินและขายสร้างรายได้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็น มะม่วงน้ำดอกไม้ น้ำดอกไม้มัน หนองแซง เพชรบ้านลาด ทองดำ เขียวเสวย ฟ้าลั่น แรด เขียวใหญ่ เขียวสามรส มันขายตึก จะเริ่มเก็บผลผลิตในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม นี้ รวมไปถึง ทุเรียน พันธุ์หมอนทอง หลินลับแล หลงลับแล ก้านยาว พวงมณี และที่พิเศษ คือ ทุเรียนพันธุ์มูซานคิง ซึ่งถือว่าเป็นราชาแห่งทุเรียนของมาเลเซีย ที่เนื้อมีสีเหลืองเข้ม หวานมัน อร่อย เมล็ดลีบ ราคาสูง เป็นที่นิยมของคนจีนและฮ่องกง โดยทุเรียนนั้นจะเริ่มเก็บผลผลิตได้ในช่วงเดือน เมษายน – พฤษภาคม ของทุกปี โดยที่สวนนั้นมีอยู่ประมาณ 50 ต้น
รวมไปถึง เงาะพันธุ์ โรงเรียน อีกจำนวน 50 ต้น และมังคุด อีก 30 ต้น ซึ่งจะเริ่มเก็บผลผลิตได้ช่วงเดือน เมษายน – พฤษภาคมนี้ ด้วยเช่นกัน ส่วน ขนุน จำนวน 30 ต้น ซึ่งมีทั้ง พันธุ์ทองประเสริฐ เพชรราชา ทะวายปีเดียว จำปากรอบ เพชรดำรง รวมไปถึง มะพร้าวน้ำหอม น้ำหวาน มะพร้าวแกง ประมาณ อีก 300 ต้น นั้นให้ผลผลิตตลอดทั้งปี และยังมี ส้มโอขาวแตงกวา ทองดี ทับทิมสยาม แดงเวียดนาม ขาวใหญ่ ขาวน้ำผึ้ง ประมาณ 50 ต้น กล้วยหอมทอง กล้วยไข่ เล็บมือนาง หักมุก น้ำหว้า ประมาณ 500 กอ
นอกจากนี้ยังมีฝรั่งกิมจู มะยงชิด ลำไย กระท้อน มะขามเทศมัน มะไฟ มะนาว มะยงชิด กาแฟอะราบิก้า โรบัสต้า และพืชผักปลอดสารอีหลายชนิด เช่น กวางตุ้ง คะน้า ผักบุ้งจีน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นการปลูกแบบผสมผสาน จึงทำให้ครอบครัวมีรายได้จากการเก็บผลผลิตที่ปลูกไว้ได้ตลอดทั้งปี

โดยภายในสวน มีการจัดระบบการให้น้ำด้วยระบบสปริงเกอร์  ป้องกันโรคแมลงศัตรูพืชด้วยน้ำหมักชีวภาพและการตกแต่งกิ่งให้โล่งโปร่ง ไม่เป็นแหล่งสะสมของโรคแมลง โดยจะมีพ่อค้าแม่ค้าจากจังหวัดนครสวรรค์ สุพรรณบุรี และ ชัยนาท เข้ามารับซื้อถึงสวน หรือหากปีไหนมีผลผลิตออกมาก ก็จะนำไปขายที่บริเวณวัดบ้านไร่ หน้าโรงพยาบาลศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี และขายให้กับคนในชุมชนในช่วงเย็นเวลา 15.30 – 16.00  น. ด้วย นอกนี้ ตนเองยังเลี้ยงไก่ชน สายพันธุ์พม่า ไว้อีกประมาณ 100 ตัว เพื่อส่งขายให้กับผู้ที่ชื่นชอบ ในราคาตัวละ 2,500-200,000 บาท

ซึ่งบริเวณรอบสวนไม้ผล จะมีสระน้ำ จำนวน 2 บ่อ ไว้สำหรับเก็บกักน้ำและเลี้ยงปลา เช่น ปลาดุก จาระเม็ด สวาย ปลานิล ปลาตะเพียน โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 15 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา อำเภอห้วยคต ช่วยขุดสระน้ำและมอบพันธุ์พืชให้ รวมไปถึงทาง สำนักงานเกษตรจังหวัดอุทัยธานี ยังได้ส่งเสริมสนับสนุนในการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรให้เป็น Young Smart Farmer ที่เป็นต้นแบบให้กับเครือข่ายเป็น Young Smart Farmer รายอื่นๆ ให้สามารถเข้ามาเรียนรู้แบบห้องเรียนธรรมชาติ และเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ซึ่งในอนาคต จะเริ่มทดลองเลี้ยงปูนาในร่องสวน เพื่อเป็นการทดลองการเลี้ยงในแบบธรรมชาติและใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับรายได้ทั้งปี จะได้จากการจำหน่ายผลไม้ พืชผัก ไก่ชน แล้วยังมีการจำหน่ายกิ่งพันธุ์ไม้ผล เช่น มะม่วง และส้มโอ ซึ่งทั้งหมดนี้ สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัว ประมาณ 300,000 บาทต่อปี นายมงคล กล่าว