เมื่อวันที่ 14 ก.พ. 63  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณด้านหน้ามณฑปหลวงปู่สรวง วัดไพรพัฒนา ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ  นายบุญชู   บุดดาห์  ที่ปรึกษามูลนิธิหลวงปู่สรวง ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงาน “วาเลนไทน์ วาเลนธรรม นำธรรมะสู่จิตใจ  ให้รักมั่นนิรันดร”  ขึ้น  เพื่อเป็นการฉลองมงคลสมรสให้กับคู่รักที่ได้มีการจดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมายเรียบร้อยแล้ว  ในวันวาเลนไทน์  หรือวันแห่งความรัก  โดยคู่รักที่มาร่วมพิธีในครั้งนี้  จะเป็นคู่รักชาวไทยและชาวกัมพูชา  และหนุ่มชาวไทยกับสาวกัมพูชา  โดยได้มีการมอบดอกไม้แสดงความยินดีกับคู่รักทุกคู่

จากนั้น ได้นำคู่บ่าวสาวเดินขึ้นไปบนมณฑปซึ่งเป็นที่ตั้งสรีระสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่สรวง  ซึ่งนายบุญชู   บุดดาห์ และ  น.ส.นิธินาถ  ธนินกุลกิตติ ประธานชมรมรักษ์ถิ่นศรีสะเกษ  ได้ร่วมกันมอบหนังสือสัญญารักมั่นนิรันดรให้กับคู่รัก จากนั้น ได้นำคู่รักกราบไหว้ขอพรจากหลวงปู่สรวง และคู่รักทุกคู่ได้จูงแขนกันเดินเข้าไปลอดใต้สรีระสังขารที่ไม่เน่าเปื่อยของหลวงปู่สรวง ที่แม้ว่าท่านได้ละสังขารไปนานกว่า 19 ปี  แต่ว่าสรีระสังขารก็ได้เน่าเปื่อย  ซึ่งคู่รักได้ขอพรให้ความรักของตนมีความมั่นคง มีความรักมั่นนิรันดร  ต่อมา  ที่ปรึกษามูลนิธิหลวงปู่สรวง ได้นำคู่รักเดินทางโดยรถนำเที่ยวไปที่จุดชมวิวผาพญากูปรี  ต.ไพรพัฒนา  อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งอยู่ห่างจากจุดผ่านแดนถาวรไทย - กัมพูชา ประมาณ  4  กม. เพื่อให้คู่รักได้บันทึกภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามตามธรรมชาติมากอีกแห่งหนึ่งของ จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งผาพญากูปรี  เป็นหน้าผาสูงชันที่มีความสวยงามตามธรรมชาติอยู่บนเทือกเขาพนมดงรักที่เป็นแนวชายแดนกั้นระหว่างไทย – กัมพูชาสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ธรรมชาติของต้นน้ำห้วยสำราญที่กั้นระหว่าง อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ กับ อ.บัวเชด จ.สุรินทร์  

ซึ่งบริเวณนี้ พระครูโกศลสิกขกิจ หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง ได้จัดให้มีการประดับตกแต่งรอบบริเวณอย่างสวยงาม  มีรูปปั้นกูปรีขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินดินด้านหน้าของหน้าผา  ซึ่งกูปรีเคยอาศัยอยู่ที่บริเวณหน้าผานี้เมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมา มีการนำเอาหินโบราณอายุกว่า 170 ล้านปี  มาจัดเป็นสวนหินโบราณอย่างสวยงามมาก 

นายพัฒนา   ตันศิริ  อายุ  28 ปี  อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 1 บ้านนาตำบล ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ  หนุ่มไทยซึ่งจูงแขน  น.ส.แก้ว  จันพิม  อายุ  25 ปี  สาวงามจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา มาฉลองสมรสครั้งนี้  กล่าวว่า ตนสามารถพูดภาษากัมพูชาได้  เพราะว่าบ้านอยู่ติดกับแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ต่อมาได้พบรักกับ น.ส.แก้ว  ซึ่งมาเยี่ยมญาติพี่น้องที่บ้านตำบล จึงได้คบหาดูใจกัน และตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกันได้มาฉลองสมรสสมรักที่วัดไพรพัฒนา  เพื่อต้องการขอพรให้ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่สรวงช่วยให้ความรักของตนกับภรรยามีความรักมั่นนิรันดรตราบชั่วฟ้าดินสลาย

พระครูโกศลสิกขกิจ  หรือหลวงพ่อพุฒ  วายาโม  ประธานมูลนิธิหลวงปู่สรวง  กล่าวว่า คณะกรรมการมูลนิธิหลวงปู่สรวง ได้ร่วมกันจัดงานฉลองสมรสให้กับคู่รักในวันวาเลนไทน์  เนื่องจากว่า มูลนิธิหลวงปู่สรวงต้องการให้คู่รัก ซึ่งเป็นสถาบันครอบครัวให้มีความเข้มแข็งเพื่อที่จะได้ร่วมกันเป็นพื้นฐานที่มั่นคงในการร่วมกันพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าตามนโยบายของรัฐบาลอย่างเต็มที่ต่อไป  โดยปีนี้ได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้ว และจะจัดกิจกรรมนี้ในวันแห่งความรักอย่างต่อเนื่องทุกปีตลอดไป