เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 14 ก.พ.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่ามีเหตุรถไฟตกรางไม่ทราบว่าช่วงบริเวณจุดไหน แต่ทำให้รถไฟขบวนรถธรรมดา 251 ธนบุรี – ประจวบคีรีขันธ์ ไม่สามารถวิ่งต่อมาได้จนถึงสถานีประจวบฯ เป็นเหตุทำให้ญาติพี่น้องของตนซึ่งเดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯเพื่อมาบ้านที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ไม่สามารถมาถึงที่หมายได้ ต้องติดค้างอยู่ที่สถานีกุยบุรีจึงได้ลงจากรถแล้วโทรให้ไปรับกลับโดยทางรถยนต์แทน

หลังทราบข่าวผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟอำเภอเมืองประจวบฯ แต่ได้รับคำตอบว่าไม่ทราบข้อมูลพึ่งจะมาเข้าเวรและบอกแค่เพียงสั้นๆว่ามีเหตุรถไฟตกรางจริงเมื่อช่วงบ่ายแต่สามารถยกขึ้นได้แล้วขณะนี้อยู่ในระหว่างการปรับพื้นหินวางราง และไม่ได้บอกถึงสาเหตุของการตกรางของรถไฟในครั้งนี้และเกิดเหตุบริเวณจุดใดรวมถึงไม่ได้บอกว่ารถจะสามารถวิ่งได้ตามปรกติเมื่อไหร่ บอกแต่เพียงให้ผู้สื่อข่าวรอก่อน

 

 

 

มีรายงานว่าเหตุรถไฟตกรางในครั้งนี้เป็นรถไฟขบวนสินค้า 722 เลขดีเซล 4229 ตกรางที่บริเวณราง 1 หลัก กม.ที่ 295/6 ระหว่างประจวบฯ-คั่นกระได เพลา 2 ล้อหน้าตกราง เมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.50 น. ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและสามารถปล่อยขบวนรถได้ตามปกติช่วงเวลาประมาณ 21.00 น.วันเดียวกัน ซึ่งในเบื้องต้นคาดว่าสาเหตุอาจเกิดมาจากรถไฟวิ่งบนรางสายใหม่ที่ผู้รับเหมาพึ่งทำเสร็จของทางบริษัทผู้รับเหมาทำรถไฟรางคู่ ซึ่งสาเหตุที่แน่ชัดอยู่ในระหว่างการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

นายจาตุรงค์ จันทรัตน์ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ครอบครัวตนเองก็เป็นอีกครอบครัวหนึ่งที่มีบุตรหลานไปเรียนหนังสือที่อำเภอหัวหิน และจะเดินทางกลับบ้านเป็นประจำทุกวันศุกร์ โดยในวันนี้หลานของตนได้โทรมาบอกกับตนว่ารถไฟที่หลานนั่งมาไม่สามารถเดินทางมาต่อจนถึงสถานีรถไฟประจวบได้ต้องจอดรออยู่ที่สถานีกุยบุรีเนื่องจากเจ้าหน้าที่รถไฟแจ้งว่ามีเหตุรถไฟตกราง จึงขอให้ตนช่วยส่งรถยนต์ไปรับกลับมาบ้านทีเนื่องจากไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนการแก้ไขจึงจะแล้วเสร็จ