วันที่ 15 ก.พ. 63  ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายทรงพล  พะเนิกรัมย์ อายุ 52 ปี ผู้ใหญ่บ้านบ้านดอนยอง  ต.หนองใหญ่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยเงินสดและโทรศัพท์ของหัวหน้าสำนักสงฆ์บ้านดอนยอง รวมมูลค่ากว่า 11,000 บาท และอยากให้แจ้งเบาะแสของคนร้ายที่หนีไป จากการตรวจสอบพบนายทรงพล  พะเนิกรัมย์ ผู้ใหญ่บ้านดอนยอง  ต.ดอนใหญ่ และพระจุม  จันทวังโส อายุ 57 ปี หัวหน้าสำนักสงฆ์วัดดอนยอง กำลังปรึกษาหารือ เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อหาแนวทางแก้ไข เพราะเงินที่หายไปเป็นเงินที่เตรียมเอาไว้ให้ค่าแรงช่างสร้างเมรุ

พระจุม  จันทวังโส อายุ 57 ปี หัวหน้าสำนักสงฆ์วัดดอนยอง เล่าว่าหลังกลับจากการบิณฑบาตภายในหมู่บ้านตอนเช้า อาตมาได้ฉีดน้ำลงบนพื้นดินรอบบริเวณกุฎิเพื่อป้องกันฝุ่นละออง  จากนั้นได้เดินไปโรงฉันท์เพื่อฉันท์เช้า ห่างจากกุฏิเพียง 50 เมตร เมื่อกลับมาถึงหน้ากุฏิมองเห็นรอยเท้าคนแบบไม่สวมรองเท้าอยู่บนพื้นดิน  จึงเอะใจรีบเปิดประตูกุฎิเข้าไปดูภายในห้อง ปรากฏว่าเงินที่ว่างไว้บนโต๊ะจำนวน 7,000 บาท  และโทรศัพท์มือถือยี่ห้อออปโปเอฟ 5 ราคา 4,000 บาท ได้หายไป  จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ไปแจ้งความต่อ ร.ต.อ.พงศกร  อ่อนฉลวย  รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ชุมแสง ให้ช่วยติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี

พระจุม ยังเล่าด้วยว่า ก่อนหน้านี้ อาตมาอยู่วัดบ้านหนองน้ำขุ่น อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์  ต่อมามีชาวบ้านดอนยอง ไปนิมนต์ให้อาตมามาอยู่ประจำวัดบ้านดอนยอง  ซึ่งเป็นเพียงสำนักสงฆ์ยังไม่ใบตราตั้งวัด  กว่า 8 ปีที่อยู่สำนักสงฆ์นี้ได้พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ได้สร้างกุฏพระ  สร้างโรงฉัน  ส่วนเมรุพร้อมศาลาพักศพ หลังนี้ได้เริ่มสร้างมาเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ด้วยการ ทยอยสร้างตามจำนวนเงินที่ชาวบ้านผู้มีจิตศรัทธาบริจาค โดยมีเป้าหมายจะสร้างให้เสร็จภายในปี 2563 นี้ ไม่คิดว่าจะมีคนใจบาป มาขโมยเงินไปดังกล่าว จึงอยากจะฝากถึงคนร้ายที่มาขโมยเงินไปว่า เงินที่ได้ไปเป็นเงินจากจิตศรัทธาของชาวบ้าน ได้ไปใช้ก็ไม่มีความสุข แต่ถ้าสำนึกก็เอามาคืนวัด เพราะช่างกำลังรอเงินค่าแรง