เปิด ปิด การใช้งานคุกกี้ของ ทรูฮิต (Truehits Cookies)



"อัยการ" แจงเหตุส่งฟ้อง "แรมโบ้อีสาน" ไม่ทัน


26 มิ.ย. 2562, 09:24



"อัยการ" แจงเหตุส่งฟ้อง "แรมโบ้อีสาน" ไม่ทัน




จากกรณี  นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ โพสต์ความคืบหน้าคดีชุมนุมระหว่างการประชุมผู้นำอาเซียนปี 2552 ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เอาพยานหลักฐานเดิมทั้งหมดที่ฟ้องศาลอาญารัชดา มาฟ้องที่พัทยาอีกครั้ง ผลปรากฏว่า นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน เป็นคนเดียวที่อัยการส่งฟ้อไม่ทัน คดีจึงหมดอายุความ

ความคืบหน้า วันที่ 25 มิ.ย. 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้กล่าวถึงกรณีที่พนักงานอัยการสำนักงานจังหวัดพัทยา ไม่สามารถนำตัว นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ หรือ แรมโบ้อีสาน มาฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทยาในคดีเกิดเหตุความวุ่นวายในการชุมนุมระหว่างประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยา เมื่อปี 2552 จนคดีขาดอายุความว่า ได้รับชี้แจงข้อมูลจากสำนักงานอัยการจังหวัดพัทยาว่า เดิมเหตุการณ์ในคดีเกิดเมื่อวันที่ 11 เม.ย.52 ซึ่งคดีนี้กลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกดำเนินคดีนั้นมีอายุความ 10 ปี และจะหมดอายุความในวันที่ 11 เม.ย.62 ซึ่งคดีนี้พนักงานสอบสวนได้รวบรวมสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาประกอบด้วย นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายจตุพร พรหมพันธุ์, นพ.เหวง โตจิราการ, นายจักรภพ เพ็ญแข, นายอดิศร เพียงเกษ และนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ในความผิดฐานฆ่าร่วมกันโฆษณา หรือประกาศให้ขัดคำสั่งเจ้าพนักงานซึ่งสั่งให้เลิกการมั่วสุม, ร่วมกันโฆษณาหรือประกาศให้กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาหรือวิธีอื่นใดเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชน มาส่งอัยการในวันที่ 1 ส.ค.60 ในส่วนของนายจักรภพ ผู้ต้องหาได้มีการหลบหนีออกนอกประเทศ จึงได้มีการขอศาลออกหมายจับตั้งแต่ต้น



โดยหลังจากที่อัยการเจ้าของสำนวนรับสำนวนมา ก็มีการสั่งสอบสวนเพิ่มเติมตามรูปคดี ประกอบกับกลุ่มผู้ต้องหามีการยื่นร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา ซึ่งทางอัยการก็ได้มีการพิจารณาระหว่างที่รอผลการสอบสวนเพิ่มเติม จนวันที่ 8 ก.พ.62 ทางพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้องผู้ต้องหาทุกคน

และได้นัดให้ผู้ต้องหามาวันที่ 25 ก.พ.เพื่อนำตัวยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทยา แต่ปรากฏว่า ผู้ต้องหาทั้งหมดขอเลื่อนการส่งตัวฟ้อง

อัยการก็อนุญาตให้เลื่อนเป็นวันที่ 19 มี.ค.62 แต่ระหว่างที่จะถึงวันนัดฟังคำสั่ง วันที่ 15 มี.ค.นายสุภรณ์ ก็ได้มาขอเลื่อนนัดฟังคำสั่งโดยอ้างเหตุติดปราศรัยเลือกตั้ง

 

ส่วน นายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายจตุพร, นพ.เหวง เดินทางมาตามนัดวันที่ 19 มี.ค. อัยการจึงยื่นฟ้องทั้ง 4 เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดพัทยา ในวันดังกล่าว จะขาดเพียงนายอดิศร และนายสุภรณ์ ซึ่งไม่ได้มาโดยอ้างเหตุติดหาเสียงเช่นเดียวกัน

ทางอัยการ จึงมีคำสั่งให้เลื่อนวันนัดฟังคำสั่งของ 2 ผู้ต้องหา ที่เหลือไปเป็นวันที่ 2 เม.ย. พอถึงวันที่ 2 เม.ย.60 นายอดิศร เดินมาตามนัด อัยการจึงนำตัวฟ้องศาลตามไปกับจำเลยทั้ง 4 ที่ฟ้องไปก่อนหน้านี้

แต่ในส่วนของนายสุภรณ์ ก่อนที่จะถึงวันนัดวันที่ 2 เม.ย.62 นั้นได้มีการส่ง นายศุชัยวุฒิ ชาวสวนกล้วย ทนายความ มายื่นคำร้องขอเลื่อนนัดฟังคำสั่งเนื่องจากตัวนายสุภรณ์ มีอาการหายใจไม่ออก และนอนแอดมิทพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล แต่ทางอัยการพิจารณาแล้วไม่อนุญาตให้เลื่อน

เมื่อถึงเวลานัดไม่มา อัยการจึงได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึง ผกก.สภ.เมืองพัทยา และ ผบช.ภ.2 ให้ดำเนินการจับกุมตัวนายสุภรณ์ มาส่งอัยการฟ้องต่อศาลให้ได้ภายในวันที่ 5 เม.ย.62 เเต่ทางตำรวจได้แจ้งว่า ยังไม่สามารถนำตัวมาได้ จึงดำเนินการขอศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับ นายสุภรณ์ วันที่ 4 เม.ย.62 โดยหลังออกหมายจับ ทางอัยการยังได้มีหนังสือด่วนที่สุด ออกมาอีกส่งถึง ผกก.สภ.พัทยา, ผบช.ภ.2, ผบก.ชลบุรี, นายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งดำเนินการจับกุมตัวนายสุภรณ์ มาให้อัยการฟ้องต่อศาลให้ได้ เนื่องจากคดีของนายสุภรณ์ จะหมดอายุความในวันที่ 11 เม.ย. โดยในหนังสือที่ส่งถึงทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้เน้นย้ำเป็นอักษรดำเข้ม

 


“ผมขอเรียนว่าเรื่องนี้ทางอัยการไม่ได้มีการปล่อยปละละเลยจากที่ตนได้อธิบายเป็นขั้นตอนจะเห็นได้ว่า ในระหว่างดำเนินการที่เรารับสำนวนมาเป็นช่วงหลังเกิดเหตุถึง 8 ปีกว่า ซึ่งเราจะสั่งคดีเลยก็ไม่ได้ เนื่องจากกลุ่มผู้ต้องหาร้องขอความเป็นธรรม พอเราสั่งเด็ดขาดช่วง ก.พ.62 เราก็มีการเร่งรัดที่จะฟ้องมาตลอดอย่างกรณี นายณัฐวุฒิ, จตุพร ก็เลื่อนหลายครั้งจนมาฟ้องชุดแรกได้ 15 มี.ค.62 และชุด 2 ที่นายอดิศร วันที่ 2 เม.ย. ส่วนแรมโบ้ไม่มาเราก็ดำเนินการตามขั้นตอนอย่างละเอียด เราไม่ได้ปล่อยปละละเลยแน่นอน คดีนี้ที่เราไม่ได้ตัวมาฟ้องจนหมดอายุความก็จะมีสุภรณ์กับจักรภพ ที่หนีไปต่างประเทศ การไปตามจับก็ไม่ใช่หน้าที่อัยการ แต่เราทำตามขั้นตอนทุกอย่าง ส่วนเรื่องจะมีการตั้งสอบอัยการเจ้าของสำนวนหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีรายงานมา ซึ่งอัยการเจ้าของสำนวนก็ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเต็มที่” รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าว






Recommend News





MOST POPULAR


























©2018 ONBNEWS. All rights reserved.