ผู้ปกครองสุดทน! โร่แจ้งจับ "ผอ.ร.ร.เมืองช้าง" ใช้ไม้เรียวตี นร.หัวแตก-แผลช้ำทั้งตัว
18 ก.พ. 2563, 08:36
วันที่ 17 ก.พ. 63 เวลา 09.00น. ที่โรงเรียนชุมชนบ้านนาดี ได้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายการศึกษาคณะกรรมการโรงเรียน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ หลังจากที่ได้รับทราบข่าวได้เดินทางมาตรวจสอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประชุมกันภายในโรงเรียนดังกล่าวซึ่งจากการที่ได้พูดคุยกันในห้องประชุมโดยมีนาย สำรวย สังข์เสาวภาค ผอ.โรงเรียนชุมชนบ้านนาดี เข้าฟังอยู่ด้วยโดยเรื่องที่เกิดขึ้นนั้นเป็นความจริงตามที่ผู้ร้องเรียนได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สนม
ด้านนายสุพล ชัยฉลาดอายุ 83 ปี ได้กล่าวในที่ประชุมว่าตนเองได้เดินทางไปแจ้งความไว้ที่ สภ.สนมเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากที่ตนเองได้ทราบจาก ด.ช.ราชพล ซึ่งเป็นหลานของตนเองได้ถูก ผอ.ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บประกอบกับศรีษะมีร่องรอยบาดแผลที่ถูก ผอ.ใช้ไม้ระแนงตีจนบอบซ้ำไปทั้งตัวซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่น่าที่จะเกิดขึ้นในยุคแบบนี้ลูกหลานผมไม่เคยลงไม้ลงมือตีถึงขนาดนี้แต่ตนเองเห็นว่าถึงเป็นแบบนี้แล้วตนเองคงจะต้องหาที่เรียนให้กับหลานตัวเองใหม่
ทางด้านนายสำรวย ซึ่งเป็น ผอ.โรงเรียนชุมชนบ้านนาดี กล่าวว่าตนเองยอมรับที่ได้ลงไม้ลงมือไปตีเด็กเพราะตนเองทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของ ด.ช.ราชพล ที่มาโรงเรียนแต่ละครั้งชอบมาหาเรื่องให้กับเพื่อนๆในห้องเรียนซึ่งวันหนึ่งๆจะมีเรื่องถึง3ครั้งเลยทีเดียวบางครั้งตนเองโมโหถึงต้องบอกไปว่าดื้อๆแบบนี้ต้องตีให้ตายพร้อมกับนำตับไปแกล้มเหล้าซึ่งตนเองได้พูดออกไปจริงจนกระทั่งเด็กไม่กล้ามาโรงเรียนถึง3วันเลยทีเดียว
ทางด้านนางณัสุรีย์ อนุศาสนัน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์สุรินทร์ ได้เดินทางเข้ามาสอบถามกับปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเรื่องดังกล่าวถือว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนประกอบกับเด็กที่กำลังเรียนยังดื้อแต่เราควรหาทางออกให้เขาที่ดีกว่านี้ถ้าหากว่าเขาต้องการเรียนด้านการกีฬาก็ควรจะนำเข้าไปศึกษากับโรงเรียนที่เขาถนัดในวิชาที่เขาชอบซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นทางผู้ปกครองควรเข้าใจกับกับปัญหาของลูกหลานของตนเองและเอาใจใส่ในการเรียนมากกว่านี้แต่ที่ตนเองพร้อมคณะที่เดินทางมาวันนี้ก็อยากให้ทั้งฝ่ายผู้ปกครองและครูได้ทำความเข้าใจกันและให้อภัยกันส่วนในเรื่องของคดีนั้นก็ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเป็นขั้นตอนของกฏหมาย
ทางด้านผู้ใช้เพซบุ๊คที่ใช้ นามว่า ศิริโรจน์ ชัยฉลาด ซึ่งเป็นป้าของ ด.ช.ราชพล ก็ได้เดินทางเข้ามารับฟังในการประชุมในครั้งนี้และตนเองได้บอกว่าตนเองรู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเพราะหลานของตนเองนั้นพ่อและแม่แยกทางกันมานานทำให้ตนและลุงป้าน้าอาได้ดูแลลูกหลานที่ตนโพสต์ออกไปนั้นเป็นความจริงเพราะตนเองไม่รู้จะไปอธิบายกับใครครอบครัวของเรามันจนใครจะมองอย่างไรก็ได้แต่ตนเองไม่เห็นด้วยกับการที่ผอ.ที่ได้ใช้ความรุนแรงถึงขนาดนี้ถือว่าแรงมากซึ่งตนเองได้เดินทางไปแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.สนม แล้วคาดว่าพนักงานสอบสวนคงต้องเรียก ผอ.โรงเรียน เข้าไปพบเร็วๆนี้